ยาเม็ดคุมกำเนิด คือ ตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้หญิงเราในการป้องกันการตั้งท้องไม่พร้อม และสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนครอบครัวที่ ได้รับความนิยมมากกว่าการคุมกำเนิดแบบอื่นเพราะหาซื้อง่าย ขั้นตอนการใช้ก็ง่าย แค่แกะใส่ปาก แล้วกลืน มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ และที่สำคัญตัวเลือกด้านราคาก็มีให้เลือกจับจ่ายตามกำลังทรัพย์ สิ่งเดียวจริง ๆ ที่ยุ่งยากสำหรับการคุมกำเนิดแบบกินยานั่นก็คือ ต้องใช้ความจำคอยเตือนตัวเองให้กินอย่างสม่ำเสมอ มิฉะนั้น เบบี้ก็จะมาโดยไม่คาดฝันได้เหมือนกัน
แต่การกินยาเม็ดคุมกำเนิดมีประโยนช์ต่อผู้หญิงอย่างเรามากกว่าแค่ใช้ป้องกันการตั้งท้องและทำให้ร่างกายเกิดความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี โดยที่บางครั้งสาว ๆ อาจไม่ทันได้สังเกตตัวเองเลยด้วยซ้ำ มาดูกันว่า ประโยชน์ของยาคุมต่อสุขภาพที่มีมากกว่าแค่คุมกำเนิดมีอะไรบ้าง
สาว ๆ หลายคนเลือกการกินยาคุมเพื่อป้องกันและรักษาสิว และแพทย์ผิวหนังก็ยังให้คนที่มีปัญหาสิวกินยาคุมควบคู่ไปกับการรักษาอย่างอื่น โดยเฉพาะสิวที่เกิดจากฮอร์โมน เนื่องจากร่างกายมีระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนซึ่งทำหน้าที่ผลิตน้ำมันในชั้นผิวต่ำ ทำให้สิวเห่อ ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินในปริมาณที่พอดี จากการศึกษาพบว่าการกินยาเม็ดคุมกำเนิดควบคู่ไปกับการรักษาอื่น ๆ ทำให้การเกิดสิวลดลง ทำให้เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการคุมกำเนิดและอยากเคลียผิวให้ดูกระจ่างใสไกลสิว
เชื่อว่าผู้หญิงเกือบทุกคนมีประสบการณ์ทรมานกับการปวดประจำเดือน บางคนปวดจนขยับทำอะไรไม่ได้ ต้องนอนตัวงอทรมานบนที่นอน หรือบางคนถึงขั้นเป็นลมล้มพับไปเลยก็มี ส่วนระยะเวลาโดยปรกติระดับความรุนแรงจากการปวดประจำเดือนจะมีมากในช่วง 1-2 วันแรกของการมีรอบเดือน จากการวิจัยของวิทยาลัยทางสูติและนรีแพทย์อเมริกัน (The American Collage of Obstetricians and Gynecologists) พบว่า 31% ของผู้หญิงที่กินยาคุมกำเนิดอย่างสม่ำเสมอ ระดับความรุนแรงในการปวดประจำเดือนและอาการเป็นตะคริวที่ท้องเนื่องจากปวดประจำเดือนลดลง เพราะยาคุมกำเนิดจะช่วยทำให้ร่างกายลดการผลิตสารโปรสตาแกดิน หรือสารเกิดการอักเสบลง และป้องกันการเกิดภาวะผนังมดลูกหนาซึ่งเป็นสาเหตุให้ประจำเดือนสีจางลง
ปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว การใช้ยาบางชนิดและความเครียดอาจเป็นตัวการทำให้รอบเดือนมาไม่ปรกติ แม้แต่ผู้หญิงที่มีสุขภาพแข็งแรงดีก็ ไม่ได้หมายความว่ารอบเดือนจะมาตรงเวลาเป๊ะ ๆ ทุกเดือน โดยปรกติรอบเดือนจะมาทุก 28 วัน แต่หากอยู่ในช่วง 24-31 วันก็ยังนับว่าอยู่ในเกณฑ์ปรกติค่ะ การกินยาคุมกำเนิดจะทำให้รอบเดือนของเราตรงเวลา และมีระยะเวลาแน่นอนมากขึ้น เพราะการกินยาคุม 1 แผงต้องกินเม็ดที่มีฮอร์โมน 21 เม็ดจากนั้นกินยาหลอกต่อไปอีก 7 วัน ซึ่งช่วงสัปดาห์ของการกินยาหลอก ฮอร์โมนสังเคราะห์ที่ร่างกายรับเข้าไปจะทำการจุดฉนวนวงจรการมีรอบเดือนของเราให้มาอย่างสม่ำเสมอ (ข้อควรสังเกต : หากมีเลือดออกกระปริบกระปรอยในช่วงสัปดาห์ที่กินยาหลอกของการเริ่มเปลี่ยนชนิดยาคุมกำเนิด ไม่ใช่เรื่องปรกติ และอาจเกิดขึ้นได้หากคุณกินยาคุมไม่ครบ หรือไม่ได้กินยาคุมตรงเวลาทุกวัน)
การวิจัยที่ตีพิมพ์โดย สูติและนรีแพทย์อเมริกัน ในปี 2013 พบว่าการกินยาคุมช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ได้ ทดสอบโดยจากกลุ่มตัวอย่างที่อัตราเสี่ยงเป็นมะเร็งรังไข่ในระดับปรกติ 55 คน ให้กินยาเม็ดคุมกำเนิดพบว่ามีความเสี่ยงการเกิดโรคลดลง 40-50 % ยิ่งกินยาคุมกำเนิดนานความเสี่ยงยิ่งลดลง และจากผลการวิจัยนี้ยังพบต่อไปว่า ผู้หญิงที่กินยาคุมมีระดับการพัฒนาเซลล์เยื่อบุมดลูกในรูปแบบที่ผิดปรกตินำไปสู่การกลายเป็นมะเร็งเยื่อบุมดลูกต่ำลง ระยะการป้องกันการเกิดโรคจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนปีที่กินยาคุม และป้องกันได้ต่อเนื่องมากว่า 30ปีหลังเลิกกินยาคุม
โรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่คือโรคที่เกิดเมื่อมีเซลล์เนื้อเยื่อบุมดลูกเจริญนอกมดลูก โดยอาจแทรกตัวอยู่ในกล้ามเนื้อหรือผนังมดลูก หรืออาจเล็ดลอดเข้าไปเจริญเติบโตในรังไข่ เยื่อบุช่องท้อง ผนังลำไส้ และผนังกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ประจำเดือนมามาก ปวดท้องและหลัง และทำให้มีลูกยาก แต่ฮอร์โมนที่มีในยาเม็ดคุมกำเนิดจะเข้าไปชะลอการเจริญของเนื้อเยื่อ จึงทำให้อาการปวดต่าง ๆ ระหว่างมีประจำเดือนลดลง
ภาวะมีถุงน้ำในรังไข่หลายใบหรือ PCOS เกิดจากความผิดปรกติของฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคนถึง 10% ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ตรงเวลา ขนขึ้นในที่ที่ผู้หญิงไม่ควรมี ทั้งใบหน้า หน้าอก หลัง และขนหน้าแข้ง รวมไปถึงเป็นสิว ผมบาง และน้ำหนักเกิน ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา แต่ควบคุมได้ด้วยการกินยาคุม เพื่อให้ประจำเดือนมาปรกติ ลดความดกของขนและลดการเกิดสิว
ผู้หญิงกว่า 50% มีอาการปวดไมเกรนช่วงมีประจำเดือน ซึ่งอาจเกิดจากภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดลงในช่วงมีรอบเดือน การกินยาคุมกำเนิดอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องตรงเวลา (กินเม็ดที่มีฮอร์โมน 21 วัน ต่อด้วยยาหลอกอีก 7 วัน) จะช่วยให้ระดับเอสโตรเจนอยู่ในระดับคงที่ ทำให้อาการปวดหัวไมเกรนลดลง
คำเตือน : การกินยาเม็ดคุมกำเนิดจะไม่มีผลในการลดอาการปวดในผู้ป่วยไมเกรนที่มีการเห็นแสงไฟวูบวาบ หรือเห็นจุดดำขณะปวดหัวไมเกรน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบอย่างเฉียบพลัน และผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำต่อไปอีกว่า ความเสี่ยงยิ่งมีสูงขึ้นเมื่อกินยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโพรเจสเตอโล นดังนั้นควรหลีกเลี่ยง