Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

Grammar: โครงสร้างการใช้ Get ให้เก็ททุกความหมาย

Posted By Plook Creator | 15 ธ.ค. 60
132,213 Views

  Favorite

Get คำกริยาสารพัดความหมาย ที่พบเจอบ่อยมากในภาษาอังกฤษ และใช้ผิดกันเป็นประจำ ดังนั้นมาทำความรู้จักและเข้าใจ หลักการใช้ Get ทั้งความหมายและโครงสร้างให้เก็ทกันเลยค่ะ


Get เป็นคำกริยาที่ใช้แบบเดี่ยว ๆ ได้สารพัดความหมาย หรือจะใช้ร่วมกับ Prepositions ได้หลากหลายเป็นกริยาวลี (Phrasal Verbs) ที่มีความหมายได้อีกกว้าง นอกจากนี้ยังใช้ get ในสำนวน (idiomatic) และในโครงสร้าง have got… ของ Present Perfect เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของด้วย ซึ่งครั้งนี้จะขอแนะนำโครงสร้างการใช้และความหมายหลากหลายของ Get ค่ะ


กริยา 3 ช่องของ Get

ช่อง 1 = Get
ช่อง 2 = Got
ช่อง 3 = Got/Gotten


ความหมายและโครงสร้างการใช้ Get

1. Get ในความหมาย “มาถึง, ไปถึงจุดหมาย”

     โครงสร้าง Get + คำกริยาวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverb of place) เช่น
     What time did you get here? (คุณจะมาถึงที่นี่กี่โมง?)
     I got home at 8 o’clock last night. (เมื่อคืนฉันถึงบ้านตอนสองทุ่ม)
     She got to work late because of the weather. (เธอถึงที่ทำงานสายเพราะสภาพอากาศ)
     Could you tell me how to get to the station? (คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าจะไปถึงสถานีได้อย่างไร?)


2. Get ในความหมาย “ ขึ้น-ลงยานพาหนะ, การเคลื่อนไหวร่างกาย”

     การขึ้นพาหนะจะใช้ Prepositions “into, in, on”, การลงพาหนะจะใช้ Prepositions “off, out of” เช่น
     Prayut and Prawit got on a 6.00 train, but they couldn’t come on time. (ประยุทธ์และประวิทย์ขึ้นรถไฟตอนหกโมง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถมาให้ตรงเวลาได้)
     You have to get off the bus at the fifth stop. (คุณต้องลงรถบัสที่ป้ายที่ 5)
     I got in a taxi at the Mo chit station. (ฉันขึ้นแท็กซีที่สถานีหมอชิต)
     I usually get the train to work. (ฉันขึ้นรถไฟไปที่ทำงานเป็นประจำ)

     get off จะให้ภาพร่วมกันทั้งขึ้นและลงรถ ส่วน get out of  จะให้ภาพการออกจาก และ get out คือ ออกไปข้างนอก เป็นวลีที่ใช้กันบ่อยมาก เช่น
     Get out! (ออกไป!)
     Get out of here! (ออกไปจากที่นี่นะ!)
     He get out of the seat and let this old lady sit there. (เขาลุกจากที่นั่งและให้หญิงชรานั่ง)


3. Get ในความหมาย “ได้, ได้รับ, ซื้อ”

     โครงสร้าง Get + คำนามวลี (Noun phrase)
     I got a diamond ring for my birthday.
     (ฉันได้รับแหวนเพชร (เป็นของขวัญ) สำหรับวันเกิดของฉัน)
     Thida got a letter from Mark.
     (ธิดาได้รับจดหมายจากมาร์ก)
     He got a new car.
     (เขาซื้อรถคันใหม่)
     Where did you get the dress?
     (คุณซื้อชุดเดรสที่ไหนเหรอ?)


4. Get ในความหมาย ได้รับเกียรติ ได้รับวุฒิ ได้เลื่อนตำแหน่ง, ได้คะแนน

     Her song got a good review. (เพลงของเธอได้รับการวิจารณ์ที่ดี)
     I got a job as a teacher in Bangkok. (ฉันได้งานเป็นคุณครูที่กรุงเทพ)
     He got a promotion. (เขาได้เลื่อนตำแหน่ง)
     I got a driver’s license. (ฉันได้ใบขับขี่)
     I got a raise. (ฉันได้ขึ้นเงินเดือน)
     The Thailand team got 2 goals. (ทีมไทยทำได้ 2 ประตู)
     Tom got 55 points that day. (วันนั้นทอมได้ 55 คะแนน)


5. Get ในความหมาย เข้าใจ

     I got it. (เข้าใจแล้ว)
     You got it wrong. (คุณเข้าใจผิดน่ะ)
     Do you get me? (คุณเข้าใจที่ฉันพูดไหม?)


6. Get ใช้บอกอาการเจ็บป่วย, ติดโรค

     I got a cold from my sister. (ฉันติดหวัดจากน้องสาว)
     Sarah got appendicitis and had to go to the hospital. (ซาร่าเป็นไส้ติ่งอักเสบและไปโรงพยาบาล)
     My father got a horrible disease while he was traveling. (คุณพ่อของฉันป่วยหนักระหว่างการเดินทาง)


8. Get ในความหมาย “ซื้อ...มาให้, เอา..มาให้, หยิบ...มาให้”

     โครงสร้าง Get + Noun1/Pronoun1 + Noun2
     Could you get me some sugar? (คุณช่วยเอาน้ำตาลมาให้หน่อยได้ไหม?)
     Get me the book over there, please. (กรุณาหยิบหนังสือตรงนั้นให้หน่อยค่ะ)  
     I’ll get you a new book. (ฉันจะซื้อหนังสือเล่มใหม่ให้คุณ)


9. Get ในความหมาย “กลายเป็น สำหรับบอกความรู้สึกบางอย่าง หรือบอกสภาวะการณ์ในขณะนั้น”

     โครงสร้าง Get + คำคุณศัพท์ (Adjective)
     My mother got angry when she found my 0-point test. (แม่โกรธเมื่อรู้ว่าฉันสอบได้ 0 คะแนน)
     We will get nervous when the president arrives. (พวกเราจะเครียดเมื่อท่านประธานมาถึง)
     I’m getting excited about my trip next week. (ฉันกำลังตื่นเต้นกับการเที่ยวในอาทิตย์หน้า)
     I hope you will get better soon. (ฉันหวังว่าเธอจะดีขึ้นเร็ว ๆ นี้)
     It’s getting dark. (กำลังจะมืดแล้ว)

     โครงสร้าง Get + Past participle (V.3) มีความหมายเหมือน Passive Voice หรือรูปถูกกระทำ
     The man got killed in a car accident. (ผู้ชาย(ถูกทำให้)เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์)
     If you don’t do your job, you might get fired. (ถ้าคุณไม่ทำงานของคุณ คุณอาจถูกไล่ออก)
     My car gets fixed by a mechanic. (รถของฉันถูกซ่อมโดยช่างยนต์)
     They got married. (พวกเขาแต่งงานกัน)

ข้อสังเกต : ปกติโครงสร้างของ Passive Voice คือ Verb to be + Past participle (V.3)  แต่เราสามารถใช้ get แทน Verb to be ได้ ซึ่งจะเป็นการเน้นย้ำการกระทำนั้นมากขึ้น อีกทั้ง Get + Past participle (V.3) ยังให้ภาพว่าเริ่มต้นกระทำสิ่งนั้น ๆ และใช้ในบทสนทนาบ่อย ๆ เช่น
     Let’s get started. (เริ่มกันเลยเถอะ)
     Doesn’t he get tired? (เขาเริ่มเหนื่อยแล้วมั้ง?)


10. Get ในความหมาย “ให้ผู้อื่นทำบางสิ่งบางอย่างให้ (Make someone do something)”

     โครงสร้าง Get + someone + to + Infinitive (V.1)
     I got my parents to mind my dog while I was away. (ฉันให้พ่อแม่ช่วยดูแลน้องหมาในระหว่างที่ฉันไม่อยู่)
     My wife finally got me to buy an iPhone X. (สุดท้ายแล้วภรรยาของผมก็จะให้ผมซื้อ iPhone X)
     She tried to get him to explain. (เธอพยายามจะให้เขาอธิบาย)

     โครงสร้าง Get + something + V.3
     I got my first book published. (ฉันให้ตีพิมพ์หนังสือเล่มแรกของฉัน)
     Tom get his car fixed yesterday. (ทอมให้ซ่อมรถของเขาเมื่อวานนี้)

ข้อสังเกต : ทั้งสองโครงสร้างนี้ Get เป็น Causative verb (โครงสร้างไวยากรณ์ในรูปแบบคำกริยาที่ผู้พูดให้ผู้อื่นทำบางอย่างให้)


นอกจากนี้เรายังใช้ Get ในกริยาวลี หรือสำนวนต่าง ๆ อีกมาก ซึ่งจะนำมาบอกเล่ากันในครั้งต่อ ๆ ไป อย่าลืมติดตามกันนะคะ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Creator
  • 44 Followers
  • Follow