กรดไหลย้อนคือภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนไปกลับขึ้นไปในหลอดอาหารทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกทำให้รู้สึกไม่สบายตัวรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน นอกเหนือไปจาการกินยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการแล้วเรายังสามารถใช้อาหารเป็นตัวช่วยสู้กับอาการกรดไหลย้อนได้ แถมอิ่มอร่อย มีประโยชน์ต่อร่างกายกินได้บ่อยเท่าที่ใจต้องการ
ข้อมูลจากหนังสือ Dropping Acid: The Reflux Diet Cookbook&Cure เขียนโดยน.พ.เจมี่ คัฟแมน,น.พ.จอร์แดน สเติร์นและมาสเตอร์เชฟชาวฝรั่งเศสมาร์ค บาร์ค กล่าวว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมากินอาหารเพื่อสุขภาพก็สามารถเปลี่ยนร่างกายให้เป็นเขตปลอดอาการกรดไหลย้อนได้ด้วยอาหาร 13 ชนิดต่อไปนี้
ข้าวโอ๊ตถือเป็นอาหารเช้าสุดเริ่ด ไฟเบอร์เพียบ กินเป็นอาหารว่างก็ได้ แม้แต่ข้าวโอ๊ตพร้อมรับประทานที่มีส่วนผสมของลูกเกด (กรดลูกเกดมีส่วนทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน) คนที่มีอาการกรดไหลย้อนก็กินได้เพราะข้าวโอ๊ตจะทำหน้าที่ดูดซึมกรดจากลูกเกดในกระเพาะอาหารทำให้ลดการเกิดกรดไหลย้อนได้
ขิงเป็นหนึ่งในอาหารที่ใช้ต่อสู้กับอาการกรดไหลย้อน เพราะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาการอักเสบและช่วยรักษาระบบทางเดินอาหาร และยังนำมาใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ผสมในเครื่องดื่มก็ได้ รับประทานได้ทุกเพศทุกวัยและทุกมื้อ
เป็นที่ทราบกันดีว่าสรรพคุณเด่นของว่านหางจระเข้คือสมานแผลซึ่งดูเหมือนว่าจะช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนจากกรดไหลย้อนได้ด้วย
สลัดคืออาหารหลักที่คนเป็นกรดไหลย้อนต้องกิน แต่ควรหลีกเลี่ยงการเติมมะเขือเทศและหอมหัวใหญ่ และน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของชีสและน้ำสลัดที่มีไขมันสูง ควรจำกัดการกินคู่กับน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของกรดและไขมันปริมาณไม่มากเพียงมื้อละไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้น
เหมาะสำหรับเป็นอาหารว่าง มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างที่ 5.6 เท่านั้น ดีต่อผู้มีอาการกรดไหลย้อน แต่จากการศึกษาก็พบว่ามี 1% ของผู้มีอาการกรดไหลย้อนมีอาการหลังกินกล้วย ดังนั้นโปรดจำไว้ว่าดีต่อคนอื่นแต่อาจไม่ดีสำหรับคุณก็ได้ ถ้ากินแล้วมีอาการก็ควรงดนะคะ
เมล่อนมีค่าความเป็นกรด-ด่างที่ 6.1 ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการกรดไหลย้อน นอกจากเมล่อนแล้วพืชในตระกูลเดียวกันอย่างฮันนี่ดิว แคนตาลูป และแตงโมก็ดีสำหรับผู้มีอาการกรดไหลน้อย แต่ก็เช่นเดียวกับกล้วยเพราะมีผู้เกิดอาการ 1-2% หากพบอาการหลังรับประทานก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกันนะคะ
หัวเฟนนอลมีค่า pH.6.9 ไม่ก่อให้เกิดกรดไหลย้อนและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ระบบย่อยในกระเพาะอาหารอีกด้วย
เป็นเนื้อขาวที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูทั้ง ต้ม อบ และย่าง สำหรับผู้มีอาการกรดไหลย้อนไม่ควรนำไปทอดเด็ดขาดและควรลอกหนังไก่ออกก่อนปรุงเพราะเป็นส่วนที่มีไขมันสูงซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกรดไหลย้อน
เช่นเดียวกับเนื้อไก่นำมาปรุงให้สุกได้หลายวิธีแต่ต้องหลีกเลี่ยงการทอด ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ล็อบเตอร์หรือหอยต่าง ๆ ไปจนถึงปลาทะเลตามธรรมชาติ ควรหลีกเลี่ยงการกินเนื้อปลาที่เลี้ยงในฟาร์ม
ทั้งดอกกะหล่ำ บล็อคโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วแขกและผักสีเขียวอื่น ๆ ก็ดีต่อผู้มีอาการกรดไหลย้อนทั้งสิ้น สามารถกินได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
เซเลอรี่มีแคลลอรี่ต่ำและอุดมไปด้วยน้ำ ยังช่วยลดความอยากอาหารและกากใยสูงอีกด้วย
พาร์สลีย์ถูกใช้ทางการแพทย์เป็นสมุนไพรเพื่อรักษาอาการปวดท้องและลดกรดในกระเพาะมาเป็นนานกว่าพันปี หาซื้อได้ไม่ยากและช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหารได้เป็นอย่างดี
ทั้งคูสคูส บัลเกอร์วีท และข้าว (โดยเฉพาะข้าวกล้อง) ก็เป็นอาหารชั้นเลิศสำหรับต่อสู้กับกรดไหลย้อน