คือ สิ่ง
เครื่อง
เครื่องดีดเครื่องดีดทุกอย่างจะต้องมีส่วนที่เป็นกระพุ้งเสียง บางทีก็เรียกว่า กะโหลก สำหรับทำให้ เสียงที่ดีดนั้นก้องวานดังขึ้นอีก เครื่องดีดของไทยที่ใช้ในวงดนตรีแต่โบราณเรียกว่า "พิณ" ซึ่งมาจากภาษาของชาวอินเดียที่ว่า "วีณา" ในสมัยหลังๆ ต่อมาจึงบัญญัติชื่อเป็นอย่างอื่น ตามรูปร่างบ้าง ตามภาษาของชาติใกล้เคียงบ้าง เช่น "กระจับปี่" ซึ่งมีกระพุ้งเสียงรูปแบน ด้านหน้าและด้านหลัง กลมรี คล้ายรูปไข่ มีคันต่อยาวเรียวขึ้นไป ตอนปลายบานและงอนโค้งไปข้างหลังเรียกว่า ทวน มี สายทำด้วยเอ็นหรือไหม ๔ สาย ขึงผ่านหน้ากะโหลกตามคันขึ้นไปจนถึงลูกบิด ๔ อัน ผูกปลาย สายอันละสาย มีนมติดตามคันทวนสำหรับกดสายลงไปติดสันนม ให้เกิดเสียงสูงต่ำตามประสงค์ ผู้ดีดต้องนั่งพับเพียบทางขวา วางตัวกระจับปี่ (กะโหลก) ลงตรงหน้าขาขวา กดนิ้วตามสายด้วยมือ ซ้าย ดีดด้วยมือขวา รูปกระจับปี่ (หรือพิณ) ของไทยมีลักษณะดังในภาพ |
|||||||||||||
เครื่องดีดของไทยที่ใช้กันอยู่อย่างแพร่หลายในปัจจุบันก็คือ "จะเข้" จะเข้เป็นเครื่องดีดที่วางนอนตามพื้นราบทำด้วยไม้ท่อนขุดเป็นโพรงภายใน ไม้แก่นขนุนเป็นดีที่สุดด้านล่างมีกระดานแปะเป็นพื้นท้องเจาะรูระบายอากาศพอสมควรมีเท้าตอนหัว ๔ เท้า ตอนท้าย ๑ เท้า รวม เป็น ๕ เท้า มีสาย ๓ สาย สายเอก (เสียงสูง) กับสายกลางทำด้วยเอ็นหรือไหม สายต่ำสุดทำด้วยลวดทองเหลืองเรียกว่าสายลวดขึงจากหลักตอนหัวผ่านโต๊ะและนมไปลอดหย่องแล้วพันกับลูกบิดสายละลูกมีนมตั้งเรียงลำดับบนหลัง ๑๑ นม สำหรับกดสายให้แตะเป็นเสียงสูงต่ำตามต้องการการดีดต้องใช้ไม้ดีดทำด้วยงาช้างหรือกระดูกสัตว์เหลากลมเรียวแหลมผูกพันติดกับนิ้วชี้มือขวาดีดปัดสายไปมาส่วนมือซ้ายใช้นิ้วกดสายตรงสันนมต่าง ๆ ตามต้องการ
เครื่องสี
ซอด้วงเป็นเครื่องสีที่มี ๒ สายเรียกว่าสายเอกและสายทุ้มตัวกระพุ้งอุ้มเสียงเรียกว่า กระบอกเพราะมีรูปอย่างกระบอกไม้ไผ่ทำด้วยไม้เนื้อแข็งหรืองาช้างขึงหน้าด้วยหนังงูเหลือมถ้าไม่มีก็ใช้หนังแพะหรือหนังลูกวัวมีทวน (คัน) เสียบกระบอกยาวขึ้นไปตอนปลายเป็นสี่เหลี่ยมโอนไปทางหลังมีลูกบิดสำหรับพันปลายสาย ๒ อัน เนื่องจากซอด้วงเป็นซอเสียงเล็กแหลมจึงใช้สายที่ทำด้วยไหมหรือเอ็นเป็นเส้นเล็ก ๆ ส่วนคันชักนั้นร้อยเส้นหางม้าให้เข้าอยู่ในระหว่างสายทั้งสอง
ซออู้เป็นเครื่องสีที่มีสาย ๒ สาย ทำด้วยไหมหรือเอ็น เรียกว่า สายเอกและสายทุ้มเช่นเดียวกับซอด้วงแต่กะโหลกซึ่งเป็นเครื่องอุ้มเสียงทำด้วยกะลามะพร้าวตัดตามยาวให้พูอยู่ข้างบนขึงหน้าด้วยหนังแพะหรือหนังลูกวัว มีทวน (คัน) เสียบยาวขึ้นไปกลึงกลมตลอดปลายมีลูกบิดสำหรับพันสาย ๒ อัน คันชักนั้นร้อยเส้นหางม้าให้อยู่ภายในระหว่างสายทั้งสอง
การเรียกสายของเครื่องดนตรี ทั้งเครื่องดีด และเครื่องสีว่า "เอก" และ "ทุ้ม" นี้ เรียกตามลักษณะของเสียง สายที่มีเสียงสูงก็เรียกว่า สายเอกสายที่มีเสียงต่ำก็เรียกว่าสายทุ้มตลอดจนเครื่องตีที่จะกล่าวต่อไปนี้ก็อนุโลมเช่นเดียวกันเครื่องที่มีเสียงสูงก็เรียกว่าเอก เครื่องที่มีเสียงต่ำก็เรียกว่าทุ้ม
|