Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๙)

Posted By Plookpedia | 14 มิ.ย. 60
2,047 Views

  Favorite

แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๙)

      ดังที่กล่าวข้างต้นแล้วว่าก่อน พ.ศ. ๒๕๐๔ ประเทศไทยประสบปัญหาความยากจนและการขาดแคลนบริการพื้นฐานต่าง ๆ ดังนั้น แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับแรกซึ่งแบ่งเป็น ๒ ช่วงคือ ช่วงแรกระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๖ และ ช่วงที่๒ พ.ศ. ๒๕๐๗ - ๒๕๐๙  จึงได้มุ่งเน้นที่จะเร่งรัดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยการพัฒนาอุตสาหกรรมและส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนเป็นพิเศษและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การคมนาคมขนส่ง การพลังงาน และการชลประทาน ฯลฯ เพื่อให้มีส่วนสนับสนุนการลงทุนด้านอุตสาหกรรมและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น 

สำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญๆ ในช่วง พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๖ มีดังนี้

  • ยกระดับอัตราการเพิ่มของรายได้ประเทศจากร้อยละ ๔ เป็นร้อยละ ๕ ต่อปีและรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ ๓ ต่อปี (ซึ่งเดิมเพิ่มไม่ถึงร้อยละ ๒ ต่อปี) และเพิ่มมูลค่าผลิตผลทางการเกษตรร้อยละ ๓ ต่อปีและทางอุตสาหกรรมและเหมืองแร่เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๒ ต่อปี 
  • เพิ่มมูลค่าสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้าเฉลี่ยร้อยละ ๔ ต่อปี 
  • เพิ่มการผลิตพลังงานไฟฟ้าจาก ๑๓๘,๐๐๐ กิโลวัตต์ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ เป็น ๓๗๐,๐๐๐ กิโลวัตต์ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ 
  • ก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินใหม่ ๑,๐๐๐ กิโลเมตร และปรับปรุงถนนที่มีอยู่ให้ได้มาตรฐาน ๑,๐๐๐ กิโลเมตร ฯลฯ

 

      ในส่วนที่เกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้มีการระบุอย่างชัดเจนในแผนพัฒนาฯ ว่าจะเร่งก่อสร้างเขื่อนภูมิพลให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๐๖ และเร่งปรับปรุงพัฒนาระบบการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในพระนคร ธนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เร่งก่อสร้างทางหลวงแผ่นดินในจังหวัดสำคัญ ๆ ขยายการผลิตน้ำประปาในกรุงเทพฯ เร่งขยายโทรศัพท์ขึ้นอีก ๒๐,๕๐๐ เลขหมาย โดยได้มีการกำหนดงบพัฒนา ( ซึ่งมาจากงบประมาณแผ่นดิน เงินกู้ และเงินช่วยเหลือ จากต่างประเทศ ) จำนวนมากและมีสัดส่วนสูงสำหรับการพัฒนาสาขาคมนาคมและขนส่งสาขาพลังงานและสาขาการเกษตรและสหกรณ์  ในส่วนของสาธารณสุขได้กำหนดเป้าหมายที่จะสร้างโรงพยาบาลภาคเพิ่มขึ้น ๒ แห่ง โรงพยาบาลอำเภอ ๖ แห่ง พัฒนาสถานีอนามัยชั้น ๒ เป็นชั้น ๑ ปีละไม่ต่ำกว่า ๑๐ แห่ง รวมทั้งเร่งการผลิตแพทย์และพยาบาลเพิ่มขึ้นและเน้นเรื่องการป้องกันและปราบปรามโรคติดต่อสำหรับด้านการศึกษาได้มีการระบุไว้ในแผนว่า จะส่งเสริมการอาชีวศึกษาเป็นพิเศษส่วนรายละเอียดแผนงานโครงการได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าให้เป็นหน้าที่ของสภาการศึกษาแห่งชาติ 

 

ภาพหุ่นจำลองของเขื่อนภูมิพล
ภาพหุ่นจำลองของเขื่อนภูมิพลซึ่งเป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทย มีการระบุที่จะเร่งสร้างให้แล้วเสร็จในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑


      ผลการดำเนินการในช่วงแรกของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑ ปรากฏว่าเป็นไปด้วยดีโดยเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ ๖.๔ ต่อปี สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้รายได้ต่อบุคคลเพิ่มสูงกว่าเป้าหมายในขณะที่การพัฒนาบริการพื้นฐานต่าง ๆ เป็นไปตามเป้าหมายซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นกิจการต่าง ๆ ให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตภาคอุตสาหกรรม การส่งออก และกิจการด้านการเงินการธนาคาร ดังนั้นจึงได้มีการปรับปรุงเป้าหมายของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑ ระยะที่ ๒ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เช่น

  • ยกระดับอัตราเพิ่มรายได้เป็นร้อยละ ๖ ต่อปีและรายได้เฉลี่ยต่อบุคคลเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ ๓ ต่อปี
  • ให้การสะสมทุนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ ๑๙ ของรายได้ประชาชาติ 
  • ปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจให้มีความมั่นคง โดยกระจายการผลิตในกิจกรรมประเภทต่าง ๆ ให้กว้างขวางขึ้นและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเพื่อลดปัญหาด้านการกระจายรายได้และความยากจน
  • ขยายขอบเขตโครงการพัฒนาจากเดิมที่จำกัดเฉพาะภาครัฐบาลกลางให้ครอบคลุมภาครัฐวิสาหกิจและส่วนท้องถิ่น

 

การกระจายการผลิตภาคเกษตรให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
การกระจายการผลิตภาคเกษตรให้กว้างขวางยิ่งขึ้น 

 

 

การกระจายการผลิตภาคเกษตรให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
การกระจายการผลิตภาคเกษตรให้กว้างขวางยิ่งขึ้น 

 

      ผลการดำเนินการปรากฏว่าส่วนใหญ่สูงกว่าที่กำหนดไว้ในแผน เช่น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๙) เฉลี่ยปีละ ๘.๑ ต่อปี รายได้เฉลี่ยต่อบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ ๖.๑ ต่อปี ผลิตผลด้านการเกษตรและด้านอุตสาหกรรมขยายตัวถึงร้อยละ ๖.๑ และ ๑๑.๒ ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมีส่วนช่วยทดแทนการนำเข้าได้เป็นจำนวนมากและทำให้โครงสร้างสินค้าเข้า - สินค้าออกเปลี่ยนไป เพราะเดิมก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๓ สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ ข้าว ยางพารา ไม้สัก และดีบุก  ในปี พ.ศ. ๒๕๐๙ สินค้าส่งออกได้กระจายไปสู่พืชและสินค้าอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคมีสัดส่วนลดลงโดยมูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบสินค้าขั้นกลางและสินค้าทุนเพิ่มขึ้นเพื่อนำมาใช้ในการผลิตภาคอุตสาหกรรมให้มีสัดส่วนสูงขึ้น

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow