รัฐบาลจีนได้ส่งทหารติดอาวุธและรถถังเข้าระดมยิงเพื่อสลายการชุมนุมของนักศึกษาและประชาชนที่ชุมนุมประท้วงต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อเรียกร้องการปฏิรูปทางการเมืองและปราบปรามคอรัปชั่น ณ “จตุรัสเทียนอันเหมิน” (Tiananmen Square Massacre) กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในยุคที่เติ้งเสี่ยวผิงเป็นผู้นำระบอบคอมมิวนิสต์
การปราบปรามของทหารในวันนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 2,000 คน และบาดเจ็บอีกราว 7,000- 10,000 คน และการเรียกร้องประชาธิปไตยในครั้งนั้นก็ยังประสบความล้มเหลว ส่งผลให้พรรคคอมมิวนิสต์อยู่รอดแข็งแกร่งมาจนปัจจุบัน เหตุการณ์สังหารหมู่ในครั้งนั้นถูกทั่วโลกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างหนักว่าสิ่งที่รัฐบาลจีนทำเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง
นับแต่วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2532 จนถึงวันที่เกิดเหตุสลายการชุมนุม ได้มีนักศึกษาหลายร้อยคนร่วมกันทำพิธีไว้อาลัยการเสียชีวิตของ “นายหูเย่าปัง” อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สายปฏิรูปที่ถูกโค่นอำนาจทางการเมืองหลังดำเนินนโยบายปฏิรูปทางเศรษฐกิจและการเมือง และมีความเห็นคล้อยตามการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของนักศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2530
นักศึกษาและประชาชนต่างก็มาร่วมกันไว้ทำพิธีไว้อาลัยที่ “จตุรัสเทียนอันเหมิน” พร้อมกับยื่นข้อเรียกร้องประชาธิปไตยในประเด็นต่าง ๆ แก่รัฐบาล แต่ด้วยจำนวนผู้ชุมนุมที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทางรัฐบาลจึงตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกในกรุงปักกิ่ง มีการเจรจายืดเยื้อระหว่างกองทัพกับนักศึกษาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จกระทั่งทหารตัดสินใจใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม และยึดจตุรัสเทียนอันเหมินได้ในที่สุด