สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ผิวของเราสวยใส สุขภาพดี นั่นก็คือ การล้างเครื่องสำอางให้สะอาด ไม่ว่าสาว ๆ จะใช้สกินแคร์ราคาแพงแค่ไหน แต่ถ้าผิวหน้าของเราหมักหมมคราบเครื่องสำอาง ฝุ่นควัน และความมัน ผิวก็จะมีปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมายอย่างแน่นอน

ว่าแต่ “คลีนซิ่ง” หรือผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่มีให้สาว ๆ เลือกหลายแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนเหมาะกับใครกันบ้างนะ วันนี้เรามาไขข้อข้องใจให้สาว ๆ กันค่ะ

Cleansing Water

คลีนซิ่งชนิดน้ำใส ๆ ซึ่งมักจะมีลักษณะเหมือนน้ำเปล่า วิธีการใช้คือเทลงบนสำลีและเช็ดผิวหน้าจนสะอาด คลีนซิ่งชนิดนี้มักจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ทำให้ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับสาว ๆ ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันหรือผิวผสม  แต่หากแต่งหน้าหนาหรือใช้เครื่องสำอางประเภท Waterproof อย่างมาสคาร่าหรืออายไลเนอร์ คลีนซิ่งชนิดนี้อาจล้างออกได้ไม่หมด จะต้องใช้พวก Eye Makeup Remover แยกต่างหาก และการใช้สำลีเช็ดใบหน้าจะต้องทำอย่างเบามือ ไม่อย่างนั้นผิวจะระคายเคืองและเหี่ยวไวได้นะคะ

Cleansing Oil

คลีนซิ่งชนิดออยล์หรือน้ำมัน สามารถล้างเครื่องสำอางได้สะอาดหมดจด มักจะล้างพวกมาสคาร่าหรืออายไลเนอร์กันน้ำออกได้ดี เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่แต่งหน้าหนัก วิธีใช้คือนวดให้ทั่วผิวหน้าให้เครื่องสำอางละลายแล้วล้างออก บางยี่ห้อหลังจากนวดรอบแรก สามารถผสมน้ำเล็กน้อยแล้วนวดต่อจนกลายเป็นน้ำนม ช่วยทำความสะอาดได้ล้ำลึกขึ้น แต่แน่นอนว่าคลีนซิ่งชนิดออยล์นั้นไม่เหมาะกับสาวผิวมันเท่าไรนัก เพราะอาจทำให้ผิวมันมากขึ้นและเสี่ยงต่อการเกิดสิวค่ะ

Cleansing Milk

คลีนซิ่งเนื้อน้ำนม บางยี่ห้ออาจเป็นเนื้อโลชั่น เหมาะสำหรับสาวผิวธรรมดา-ผิวแห้ง ที่แต่งหน้าไม่หนักมาก นอกจากล้างเครื่องสำอางแล้วยังช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น วิธีการใช้คือนวดให้ทั่วใบหน้า และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ช่วยลดการเสียดสีจากการใช้สำลีได้ดี แต่อาจล้างเบสเมคอัพหนา ๆ และเครื่องสำอางกันน้ำได้ไม่ดีนัก

Cleansing Gel

คลีนซิ่งเนื้อเจล เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวที่แต่งหน้าไม่หนัก ใช้ล้างเครื่องสำอางแบบบางเบาได้ดี วิธีใช้คือนวดให้ทั่วใบหน้าจนเครื่องสำอางละลายออกมากับเนื้อเจล แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ส่วนใหญ่มักจะไม่เหนอะหนะหลังล้างออก แต่ก็ต้องล้างด้วยโฟมหรือสบู่ล้างหน้าต่ออีกครั้งนะคะ

Cleansing Wipes

มีลักษณะเหมือนทิชชูเปียกหรือ Baby Wipes ประสิทธิภาพการทำความสะอาดจะคล้ายกับ Cleansing Water คือไม่เหนียวเหนอะหนะ เช็ดเครื่องสำอางประเภทเบสเมคอัพออกได้ค่อนข้างดี หากลงรองพื้นหนาอาจต้องใช้หลายแผ่น และต้องใช้ Eye Makeup Remover แยกต่างหากในการเช็ดพวกมาสคาร่าหรืออายไลเนอร์กันน้ำ คลีนซิ่งชนิดนี้เหมาะสำหรับพกพาระหว่างเดินทาง ทั้งน้ำหนักเบาและใช้งานสะดวกไม่เลอะเทอะค่ะ

Cleansing Cream

คลีนซิ่งชนิดเนื้อครีม เหมาะสำหรับสาวผิวแห้งหรือผิวธรรมดา ใช้นวดให้ทั่วใบหน้าแล้วล้างหรือเช็ดออกด้วยสำลีชุบน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบำรุงผิวไปในตัว แต่อาจทำให้อุดตันได้ง่ายกว่าคลีนซิ่งชนิดอื่น ๆ จึงไม่เหมาะกับสาวผิวมันหรือผิวผสมนะคะ

Cleansing Liquid

คลีนซิ่งชนิดนี้มีลักษณะเนื้อคล้ายน้ำมันแต่ไม่มัน ใช้นวดให้ทั่วใบหน้าแล้วล้างออก สามารถทำความสะอาดได้ล้ำลึก เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่แต่งหน้าหนัก มักจะล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้ดีคล้ายกับคลีนซิ่งออยล์ แต่ไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะ ทำให้สาว ๆ ผิวมันหรือผิวผสมสามารถใช้ได้ค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะสาว ๆ พอจะเลือกคลีนซิ่งที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้นไหมคะ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่ดีสำหรับคนอื่นหรือเคลมว่าเหมาะกับสภาพผิวเรา แต่เมื่อนำมาใช้จริงอาจจะไม่ได้ถูกกับเราเสมอไปนะคะ สาว ๆ ที่รักการแต่งหน้าอย่างพวกเราอาจจะต้องเลือกและใช้เวลากันหน่อย แต่ถ้าผลลัพธ์ที่ได้มาคือผิวสวย ๆ ก็คุ้มค่าใช่ไหมล่ะคะ 

--------------------------------------------

ล้างหน้าสะอาดแล้วอย่าลืมบำรุงผิวให้สวยใส ตามไปดูเคล็ดลับกันเลยค่ะ

ผิวสวยใสสุขภาพดีจากภายใน!

เรียงลำดับการใช้สกินแคร์ที่ถูกต้อง...ลงอะไรก่อนหลัง มาดูกัน!