อาการเหน็บชาที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากการขาดวิตามินบี 1 ซึ่งสามารถพบได้ในพืชผักหลายชนิด เช่น ธัญพืชจำพวกข้าวและถั่ว ข้าวกล้องไม่ขัดสี ข้าวแดง ข้าวโอ๊ต เนื้อหมู ตับ รำข้าว เป็นต้น เรียกได้ว่า You are what you eat คุณกินอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น จริงๆ กินอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วน ก็จะทำให้สุขภาพแข็งแรงไม่เป็นโรคต่าง ๆ แต่หากสิ่งที่กินเข้าไปเป็นสารสังเคราะห์ สารเคมี สารพิษ มันก็จะทำร้ายร่างกาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นและการให้ความสำคัญกับอาหารที่ปลอดสารเคมีสังเคราะห์ต่าง ๆ
เทรนด์การกินอาหารเพื่อสุขภาพ หรือพืชผักปลอดสาร Non-chemical หรือ Organic ออร์แกนิค ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมทั้งต่างประเทศและในประเทศไทย ผักอินทรีย์ หรือ ผักปลอดสารเคมี สุขอนามัยประชากรเป็นสิ่งที่ภาครัฐในหลายๆ ประเทศมุ่งเน้นและให้การดูแลเป็นพิเศษ อาหาร พืชผัก สินค้าอุปโภค บริโภคจะต้องไร้สารพิษ การควบคุมเกี่ยวกับสารพิษที่ใช้กับพืชผักนั้นเริ่มต้นตั้งแต่การเพาะปลูก หรือกระบวนการผลิต ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์และการขนส่ง แต่การปลูกผักปลอดสารหรือผักออแกนิคนั้นจะต้องมีการเตรียมแปลงผักหรือพื้นที่ที่จะใช้เพาะปลูก จะต้องมีการเว้นจากการใช้สารเคมีเป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปีเป็นต้น การไม่ใช้สารเคมีในที่นี้คือการไม่ใช้ปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลงที่ผลิตจากสารสังเคราะห์หรือสารเคมี ระหว่างนี้แม้ว่าจะไม่ใช้สารเคมีกับผลผลิต แต่ก็อาจจะมีสารเคมีตกค้างและนั่นทำให้ผลิตผลที่ได้ออกมายังไม่สามารถเรียกว่าเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดสารอย่างแท้จริง
มันคือพืชผักที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงใช่หรือไม่ ? คำตอบคือ มันก็ไม่ตรงประเด็นเท่าไหร่นักเพราะเกษตรกรยังสามารถใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อกำจัดและป้องกันการบุกรุกของแมลงได้ แต่สารที่ใช้เหล่านั้นจะต้องไม่ใช่สารที่สังเคราะห์ขึ้น ดังนั้นการใช้สารกำจัดแมลงที่สกัดหรือผลิตจากพืชอื่น ๆ เช่น การใช้สารสกัดจากสะเดา หรือน้ำส้มควันไม้ หรือแม้แต่การใช้แมลงชนิดอื่นเพื่อกำจัดแมลงศัตรูพืชอย่างการปล่อยแมลงเต่าทองเพื่อกำจัดเพลี้ย ยังคงทำได้
อย่างไรก็ตามมีผลงานการวิจัยบอกว่าสารกำจัดศัตรูพืชที่สกัดจากธรรมชาติบางชนิดกลับเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่าที่สังเคราะห์ขึ้นเสียอีก สารจากธรรมชาติจึงไม่ใช่สิ่งที่ปลอดภัยและดีต่อคุณและธรรมชาติเสมอไป นอกจากนั้นการที่ผลิตผลทางการเกษตรซึ่งเพาะปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ในการบำรุงและกำจัดศัตรูพืชกลับได้ผลผลิตที่ต่ำกว่าการเพาะปลูกแบบปกติทั่วไป และนั่นทำให้ต้องกลับมาคิดอีกครั้งว่า การทำเกษตรแบบอินทรีย์เพื่อให้ได้ผลผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดอาจจะทำลายธรรมชาติมากกว่าปกติเพราะว่าคุณต้องใช้พื้นที่มากขึ้น นั่นแปลว่าต้องบุกรุกผืนป่าธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงการใช้ทรัพยากรในการเพาะปลูกที่มากขึ้นไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ รวมถึงการดูแลที่ต้องใช้เวลามากขึ้น แต่การปลูกพืชหมุนเวียนหรือการปลูกพืชผสมผสานหลายชนิดในแปลงก็เป็นการดีต่อพื้นดินและสิ่งแวดล้อมจริง ๆ