สภากาชาดไทย
ความคิดที่จะให้มีสภากาชาดไทยเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๓๖ (ร.ศ. ๑๑๒) ซึ่งเป็นปีที่เกิดกรณีพิพาทแย่งดินแดนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสอันเป็นผลให้เกิดมีการสู้รบกันขึ้นท่านผู้หญิงเปลี่ยนภาสกรวงษ์หัวหน้าหญิงไทยสกุลสูงในสมัยนั้นมีความห่วงใยในทหารบาดเจ็บจึงนำความกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาบรมราชเทวีขอให้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ในการจัดตั้งองค์การบรรเทาทุกข์ทหารในทำนองเดียวกับสภากาชาดในต่างประเทศซึ่งในที่สุดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดตั้งองค์กรดังกล่าวโดยใช้ชื่อว่า "สภาอุณาโลมแดง" โดยมีเจ้านายฝ่ายในชั้นสูงและหญิงผู้มีเกียรติอาสาสมัครเข้าปฏิบัติงานในองค์กรที่จัดตั้งขึ้นมีกิจกรรมสำคัญ คือ การส่งเวชภัณฑ์อาหาร เสื้อผ้าและของใช้ไปบำรุงทหารในสนามรบ
กิจกรรมของสภาอุณโลมแดงได้ซบเซาภายหลังกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศสได้สิ้นสุดลงและได้กลับมาฟื้นฟูขึ้นใหม่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งทรงพระราชทานที่ดินและทุนทรัพย์ก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ให้ขึ้นอยู่กับสภากาชาดสยามที่วิวัฒนาการมาเป็นสภากาชาดไทยในปัจจุบันคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศได้รับรองสภากาชาดไทยเมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ และสันนิบาตสภากาชาดได้รับสภากาชาดไทยเข้าเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔
สภากาชาดไทยมีตัวแทนอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร ในนามของ "เหล่ากาชาดจังหวัด" ซึ่งมีหน้าที่บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยและราษฎรที่ยากจนในท้องถิ่นทุรกันดารตลอดจนสนับสนุนและส่งเสริมกิจการอนุกาชาด อาสากาชาดบริการโลหิตและบริการดวงตาอีกด้วย
ในปัจจุบันสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ทรงดำรงตำแหน่งสภานายิกาสภากาชาดไทยและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรรัฐสีมาคุณากรปิยชาติสยามบรมราชกุมารีทรงดำรงตำแหน่งอุปนายิกาสภากาชาดไทย