เนื้องอกของอวัยวะสืบพันธุ์
เนื้องอกชนิดธรรมดาของอวัยวะสืบพันธุ์ที่พบบ่อย ได้แก่
1. เนื้องอกของกล้ามเนื้อมดลูก (myoma uteri)
เป็นเนื้องอกของอวัยวะสืบพันธุ์หญิงที่พบบ่อยที่สุดมักพบในผู้ที่มีบุตรน้อยหรือไม่มีบุตรพบมากในวัยเจริญพันธุ์ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์เนื่องจากมีประจำเดือนออกมากผิดปกติหรือคลำได้ก้อนในท้องแต่บางรายอาจไม่มีอาการแต่อย่างใด
การรักษาขึ้นกับขนาดของเนื้องอก อายุ ความต้องการมีบุตรและอาการของผู้ป่วยถ้าเนื้องอกมีขนาดเล็กและผู้ป่วยไม่มีอาการผิดปกติอาจไม่จำเป็นต้องทำผ่าตัดในกรณีที่ทำผ่าตัดอาจทำเพียงเลาะเฉพาะเนื้องอกออกหรือตัดมดลูกออกทั้งนี้แล้วแต่ความเหมาะสมในแต่ละราย
2. เนื้องอกของรังไข่ (overian tumur) พบได้ทุกวัยมักไม่มีอาการผู้ป่วยบางรายอาจคลำได้ก้อนในท้องหากมีการแตกหรือบิดขั้วของเนื้องอกจะทำให้เกิดปวดท้องอย่างมากได้การรักษา คือ การผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออก
3. ถุงน้ำบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกที่พบบ่อย คือ ถุงน้ำของต่อมบาร์โทลิน (bartholin cyst)
เนื้องอกชนิดร้ายหรือมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์
มะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์หญิงเกิดได้ในทุกตำแหน่งแบ่งเป็นชนิดต่าง ๆ ตามตำแหน่งของอวัยวะที่เป็นมะเร็งได้ ดังนี้
1. มะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
2. มะเร็งที่ช่องคลอด
3. มะเร็งปากมดลูก
4. มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและกล้ามเนื้อมดลูก
5. มะเร็งรังไข่และท่อนำไข่
สาเหตุของมะเร็งเหล่านี้ยังไม่ทราบแน่นอน
ส่วนใหญ่ของมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์หญิงในระยะต้นจะไม่มีอาการแต่เมื่อผ่านระยะต้นไปแล้วจึงจะมีอาการต่าง ๆ ปรากฏให้เห็น เช่น
อาการของมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกมักเริ่มโดยมีก้อนหรือเม็ดเล็ก ๆ และคันต่อมาจะกลายเป็นแผลที่รักษาเท่าไรก็ไม่หายแต่จะกลับโตขึ้นตามลำดับอาจมีเลือดออกจากแผลอาจตรวจพบว่าต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตแต่ไม่เจ็บปวด
อาการของมะเร็งที่ช่องคลอดมักเริ่มต้นด้วยอาการตกขาวผิดปกติอาจมีเลือดหรือช้ำเลือดช้ำหนองและมีกลิ่นเหม็นเน่า
อาการของมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกที่สำคัญ คือ มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เช่น มีประจำเดือนออกมากหรือนานกว่าปกติหรือมีเลือดออกในวัยหมดประจำเดือน
อาการของมะเร็งปากมดลูก ที่พบได้ คือ ตกขาวผิดปกติบางครั้งอาจมีเลือดปนในรายที่เป็นมากอาจมีกลิ่นเหม็นเน่าบางรายมีเลือดออกผิดปกติเมื่อได้รับการกระทบกระเทือน เช่น หลังร่วมเพศเมื่อเป็นมากขึ้นจะมีเลือดออกกะปริบกะปรอยแม้จะไม่มีการกระทบกระเทือนใดๆ
อาการของมะเร็งรังไข่และท่อนำไข่มักปรากฏเมื่อโรคลุกลามไปมากแล้วผู้ป่วยมักมาพบแพทย์เนื่องจากคลำพบก้อนในท้องบางรายอาจตรวจพบว่ามีน้ำในช่องท้องด้วย (ท้องมาน)
จากอาการต่าง ๆ ข้างต้นนี้สรุปได้ว่าอาการสำคัญของมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์หญิง คือ
1. มีตกขาวผิดปกติ
2. มีเม็ดและคันบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก
3. มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
4. มีก้อนในท้อง
ทำอย่างไรจึงจะตรวจพบมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์หญิงตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
มะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์หญิงในระยะเริ่มแรก มักไม่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติใด ๆ แต่อาจตรวจพบได้จากการตรวจภายในซึ่งควรได้รับการตรวจเป็นประจำทุกปีแพทย์อาจทำการตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติมอีก เช่น ตรวจดูลักษณะของปากมดลูกด้วยกล้องขยายตัดเนื้อบริเวณที่สงสัยหรือขูดมดลูกไปตรวจ
การรักษา มะเร็งส่วนใหญ่รักษาให้หายได้ถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและได้รับการรักษาที่เหมาะสมวิธีรักษามีหลายแบบ ได้แก่ การผ่าตัด การฝังแร่กัมมันตรังสี การฉายรังสีและการใช้ยาแพทย์จะเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละรายโดยพิจารณาจากชนิดของมะเร็งการลุกลามของโรคและสภาพของผู้ป่วย