Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา

Posted By Plookpedia | 20 เม.ย. 60
1,634 Views

  Favorite

เด็ก ๆ หลายคนคงจะรู้สึกดีใจเมื่อทราบว่าแม่กำลังมีน้องหรือ "ตั้งครรภ์" เพราะอีกไม่นานเกินรอเด็ก ๆ จะมีน้องเป็นเพื่อนเล่นไม่เหงาอีกต่อไป

เด็กแรกเกิด
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

ในท้องของแม่นอกจากจะมีกระเพาะอาหาร ลำไส้ ตับ ตับอ่อนและม้ามแล้วยังมีอวัยวะอีก ๒ ชนิด คือ "รังไข่" และ "มดลูก"

 

เมื่อไข่ได้รับการผสมพันธุ์กับเชื้อของพ่อไข่จะเจริญไปเป็นน้องของเด็ก ๆ โดยปกติไข่และเชื้อของพ่อมีขนาดเล็กมากอยู่แล้วเมื่อน้องของเด็ก ๆ เริ่มมีชีวิตขึ้นมาจึงมีขนาดเล็กมากด้วยระยะต่อมาน้องของเด็ก ๆ จะมีขนาดโตขึ้น แต่ก็ยังมีอวัยวะต่าง ๆ ไม่ครบไม่สามารถออกมามีชีวิตอยู่นอกท้องแม่ได้น้องของเด็ก ๆ ต้องอาศัยอยู่ในท้องของแม่โดยอยู่ในมดลูกเป็นเวลาประมาณ ๙ เดือน เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตจนมีอวัยวะครบทุกอย่างและอวัยวะเหล่านั้นสามารถทำงานได้เองเมื่อน้องของเด็ก ๆ พร้อมที่จะออกมามีชีวิตอยู่ภายนอกท้องแม่ได้แล้วแม่จะเจ็บท้องและในที่สุดก็คลอดน้องของเด็ก ๆ ออกมาอวัยวะทั้งสองนี้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการสืบพันธุ์รังไข่ทำหน้าที่ผลิตไข่ ส่วนมดลูกเป็นที่อาศัยของน้องของเด็กหรือตัวเด็ก ๆ เองขณะที่อยู่ในท้องของแม่

การเจริญเติบโตของเด็กในครร๓์
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

ในระหว่างที่น้องของเด็ก ๆ อยู่ในท้องของแม่นั้นน้องของเด็ก ๆ ต้องอาศัยอาหารและออกซิเจนจากแม่ใช้ในการดำรงชีวิตแม่จะบำรุงร่างกายและรักษาสุขภาพให้ดีอยู่ตลอดเวลาแม่จะไปหาแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์เป็นระยะ ๆ ไปจนครบกำหนดคลอดเพื่อตรวจดุว่าน้องของเด็ก ๆ เจริญเติบโตตามปกติหรือไม่ตลอดจนขอคำแนะนำต่าง ๆ มาปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อน้องของเด็ก ๆ จะได้เจริญเติบโตเต็มที่แข็งแรงและคลอดอย่างปลอดภัย

 

 

 

เด็กหญิงมี "รังไข่" และ "มดลูก" ติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิดอวัยวะทั้งสองเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ภายในเพราะทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์และอยู่ภายในร่างกายทั้งรังไข่และมดลูกจะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อเด็กหญิงมีอายุย่างเข้าสู่วัยสาว คือ ประมาณ ๑๑-๑๔ ปี

รังไข่
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

รังไข่มีขนาดเล็กมีอยู่สองอันอยู่แยกกันแต่ละอันอยู่ใกล้ "ปากท่อนำไข่""เอสโตรเจน" รังไข่ทำหน้าที่ผลิตไข่และสร้างฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งเรียกว่า (estrogen) ฮอร์โมนนี้ควบคุมการเกิดลักษณะต่าง ๆ ของเพศหญิงเมื่อมีอายุเข้าสู่วัยสาว เช่น มีเสียงแหลมเล็ก ตะโพกผาย หน้าอก และอวัยวะเพศขยายใหญ่ขึ้นมีขนขึ้นตามรักแร้และอวัยวะเพศมดลูกมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีเยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นและมีประจำเดือน เป็นต้น

 

มดลูกมีอยู่อันเดียวภายในเป็นโพรงตอนบนกว้างและติดต่อกับท่อนำไข่ตอนกลางแคบตอนล่างติดต่อกับ "ช่องคลอด" ส่วนของมดลูกซึ่งติดต่อกับช่องคลอดเรียกว่า "ปากมดลูก" มดลูกเป็นที่อาศัยของทารกขณะอยู่ในท้องแม่

ช่องคลอด
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

ภายในรังไข่แต่ละข้างมีไข่อ่อนซึ่งยังไม่เจริญเต็มที่อยู่มากมายไข่อ่อนแต่ละใบมี "ถุงไข่" (ฟอลลิเคิล) หุ้มไว้โดยปกติรังไข่ผลิตไข่สลับข้างกันและผลิตเดือนละครั้ง ครั้งละหนึ่งใบในการผลิตไข่แต่ละครั้งจะมีถุงไข่เจริญเติบโตขึ้นมาหลายถุงแต่จะมีเพียงถุงเดียวเท่านั้นที่ไข่อ่อนเจริญเต็มที่ส่วนใหญ่จะฝ่อไปเมื่อไข่อ่อนเจริญเต็มที่จะหลุดจากรังไข่ลงสู่ช่องท้องเรียกว่า "ตกไข่" ขณะที่ถุงไข่กำลังเจริญเติบโตจะมีการสร้างเอสโตเจนไปกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นด้วยเมื่อไข่ตกจากรังไข่แล้วซากถุงไข่ซึ่งยังคงเหลืออยู่ในรังไข่จะสร้างฮอร์โมนเพศหญิงอีกชนิดหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า "โปรเจสเตอโรน" (progesterone) ฮอร์โมนนี้จะทำให้เยื่อบุภายในโพรงมดลูกซึ่งหนาตัวขึ้นนั้น เตรียมพร้อมที่จะรับการฝังตัวของไข่ที่ผสมพันธุ์แล้ว

 

หลังจากหลุดจากรังไข่ตกลงสู่ช่องท้องแล้วไข่จะเคลื่อนที่เข้าสู่ท่อนำไข่ลงสู่โพรงมดลูกตามลำดับขณะที่อยู่ในท่อนำไข่ถ้ามีการผสมพันธุ์ หรือ "การปฏิสนธิ"เกิดขึ้นระหว่างไข่กับ "อสุจิ" หรือ "สเปิร์ม" (sperm) ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของเพศชายไข่ที่ผสมพันธุ์แล้วจะเคลื่อนที่ลงไปฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูกแล้วเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนและทารกต่อไปตามลำดับถ้าไม่มีการผสมพันธุ์เกิดขึ้นไข่จะฝ่อและสลายตัวแล้วเยื่อบุโพรงมดลูกจะเสื่อมและลอกหลุดจากผนังโพรงมดลูกพร้อมทั้งมีเลือดไหลปนออกมาทางช่องคลอดเรียกว่า "ประจำเดือน"หลังจากมีประจำเดือนครั้งแรกแล้วก็จะมีครั้งต่อไปอีกทุกเดือนเดือนละครั้งจนอายุประมาณ 45-50 ปี จึงจะหยุดมีประจำเดือนโดยทั่วไประยะเวลาของการมีประจำเดือนแต่ละครั้งประมาณ 3-5 วัน และปริมาณของเลือดที่ไหลออกมาประมาณ 50-70 มิลลิเมตร ต่อครั้งเราเรียก "วัยมีประจำเดือน" ได้อีกชื่อหนึ่งว่า "วัยเจริญพันธุ์"เพราะเป็นวัยที่หญิงสามารถมีลูกได้ที่เป็นเช่นนี้เพราะการตกไข่เกิดขึ้นเฉพาะในวัยนี้เท่านั้นแต่ในวัยหมดประจำเดือนจะไม่มีการตกไข่หญิงในวัยหมดประจำเดือนจึงหมดความสามารถที่จะมีลูกได้อีกต่อไป

 

การมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ใช่สิ่งผิดปกติแต่อย่างใดแต่เป็นสิ่งที่แสดงให้ทราบว่าเด็กหญิงนั้นได้เจริญเต็มที่พร้อมที่จะมีลูกได้ ดยปกติการตกไข่และการมีประจำเดือนนั้นเกิดขึ้นทุกเดือนระยะเวลาระหว่างวันแรกของประจำเดือนครั้งหนึ่งกับวันแรกของประจำเดือนครั้งต่อไปเรียกว่า "รอบเดือน" หรือ "รอบประจำเดือน" โดยทั่วไป "รอบเดือน" กินเวลาประมาณ 28 วัน ก่อนมีประจำเดือนหรือระหว่างมีประจำเดือนอาจมีอาการบางอย่างเกิดขึ้น เช่น ปวดศีรษะ เมื่อยล้า หงุดหงิด ปวดท้อง ฯลฯ อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นโดยไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใดแต่ถ้ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ประจำเดือนมาเร็วหรือช้าเกินไป มีนานกว่าปกติ หรือมากกว่าปกติขาดประจำเดือนหรือไม่มีประจำเดือนเลย ฯลฯ เหล่านี้ควรไปให้แพทย์ตรวจดูว่าความผิดปกตินั้นเกิดจากอะไรจะได้ให้การรักษาได้อย่างถูกต้อง

 

สาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการขาดประจำเดือนคือ"การตั้งครรภ์" ในระหว่างตั้งครรภ์นอกจากประจำเดือนขาดหายไปและไม่มีการตกไข่เกิดขึ้นแล้วร่างกายของแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น หน้าอกขยายใหญ่ขึ้นเพื่อเตรียมผลิตน้ำนมไว้เลี้ยงทารกมดลูกขยายใหญ่ขึ้นท้องใหญ่ขึ้น ฯลฯ และอาจมีการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะเกิดขึ้นได้

 

ในระยะหนึ่งของการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์นั้นจะมีอวัยวะสำคัญเกิดขึ้น 3 ชนิด คือ ถุงน้ำคร่ำ รก และสายสะดือ "ถุงน้ำคร่ำ" เป็นเยื่อบาง ๆ หุ้มทารกไว้โดยรอบภายในถุงมีของเหลวเรียกว่า "น้ำคร่ำ" บรรจุอยู่ถุงน้ำคร่ำทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ทารกในท้องได้รับความกระเทือน "รก" เป็นอวัยวะที่อยู่ระหว่างผนังโพรงมดลูกของแม่กับสายสะดือของทารกรกทำหน้าที่แลกเปลี่ยนอาหารอากาศและของเสียระหว่างแม่กับทารกส่วนสายสะดือทำหน้าที่สื่อสารดังกล่าวเนื่องจากเส้นเลือดของแม่และทารกไม่ได้เชื่อมติดกันโดยตรง ดังนั้น เลือดของแม่และทารกจึงไม่ปนกันอาหารและออกซิเจนจะแพร่ออกจากเลือดของแม่ผ่านรกเข้าสู่เลือดของทารกส่วนของเสียจะแพร่ออกจากเลือดของทารกผ่านรกเข้าสู่เลือดของแม่เพื่อให้ร่างกายแม่ขับออกสู่ภายนอก  

คลอดลูก
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

โดยปกติระยะเวลาของการตั้งครรภ์ประมาณ 280 วัน หรือ 40 สัปดาห์ นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายเป็นต้นไปเมื่อท้องครบกำหนดแม่จะเจ็บท้องกล้ามเนื้อมดลูกจะบีบตัวทำให้ทารกเคลื่อนที่ต่ำลงไปโดยหันศีรษะลงสู่ช่องคลอดปากมดลูกจะเริ่มเปิดและเปิดมากขึ้นตามลำดับเมื่อปากมดลูกเปิดเต็มที่ถุงน้ำคร่ำจะแตกออก ทารกจะเคลื่อนตัวผ่านออกมาทางช่องคลอดส่วนรกจะหลุดตามออกมาหลังคลอดแล้ว

 

การคลอดตามขั้นตอนดังกล่าวเป็นการคลอดตามธรรมชาติจัดได้ว่าเป็นการคลอดปกติส่วนการคลอดที่ต้องใช้เครื่องมือช่วยคลอดหรือต้องผ่าตัดเอาเด็กออกทางหน้าท้องของแม่นั้นเป็นการคลอดผิดปกติสาเหตุสำคัญที่ทำให้คลอดผิดปกติมีหลายประการ เช่น ทารกมีขนาดใหญ่เกินไปหรือไม่ได้สัดส่วนกับขนาดของช่องเชิงกรานของแม่ทารกอยู่ในท่าผิดปกติรกเกาะต่ำ เป็นต้น

การทำคลอดแบบใหม่
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

 

สมัยก่อนคนไทยนิยมคลอดตามบ้านโดยมี "หมอตำแย"เป็นผู้ทำคลอดแต่ปัจจุบันนิยมคลอดที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลเพราะปลอดภัยกว่าเนื่องจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลมีอุปกรณ์สำหรับคลอดพร้อมและทันสมัยสะอาดปราศจากเชื้อโรคมีแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์เป็นผู้ทำคลอดสามารถให้การดูแลทั้งแม่และทารกให้ปลอดภัยและปราศจากภาวะแทรกซ้อนได้เพราะทั้งแพทย์และพยาบาลผดุงครรภ์ต่างก็ได้รับการศึกษาและผ่านการฝึกฝนในเรื่องทำคลอดมาแล้วเป็นอย่างดี

การทำคลอดแบบเก่า
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

 

ในบรรดาวิชาต่าง ๆ ที่มีอยู่ในหลักสูตรแพทย์และพยาบาลนั้นมีวิชาที่ว่าด้วยระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงอยู่ 2 วิชา คือ "สูติศาสตร์" และ "นรีเวชวิทยา" คำว่า "สูติ" แปลว่าเกิด "ศาสตร์" แปลว่าวิชา ดังนั้น "สูติศาสตร์" จึงเป็นวิชาที่ว่าด้วยการเกิดซึ่งหมายรวมทั้งการตั้งครรภ์ปกติและไม่ปกติการดูแลระหว่างตั้งครรภ์การคลอดและการดูแลหลังคลอดแพทย์ซึ่งมีหน้าที่ทำคลอด เรียกว่า "สูติแพทย์" ส่วนพยาบาลซึ่งได้รับการอบรมจนสามารถทำคลอดได้เรียกว่า "พยาบาลผดุงครรภ์"

ส่วนคำว่า "นรี" แปลว่าหญิง "เวช" แปลว่านายแพทย์ "วิทยา" แปลว่าความรู้ดังนั้น "นรีเวชวิทยา" จึงหมายถึงความรู้ทางแพทย์ที่ว่าด้วยเรื่องของหญิงเป็นความรู้เกี่ยวกับความผิดปกติและโรคต่างอๆ ที่เกิดขึ้นกับอวัยวะต่าง ๆ ในระบบสืบพันธุ์ของหญิง เช่น เนื้องอก มะเร็ง การอักเสบ และการติดเชื้อของอวัยวะสืบพันธุ์ เป็นต้น

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags

Content

1
การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์
เมื่อหญิงย่างเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์หรือเริ่มมีประจำเดือนจะมีไข่สุกและหลุดออกจากรังไข่ในระยะนี้ถ้ามีการร่วมเพศตัวอสุจิของชายจำนวนหลายล้านตัวจะแหวกว่ายผ่านปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูกจนถึงท่อนำไข่และจะมีอสุจิเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่สา
1K Views
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow