Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

การอักเสบและโรคติดเชื้อที่อวัยวะสืบพันธุ์

Posted By Plookpedia | 21 เม.ย. 60
901 Views

  Favorite

การอักเสบและโรคติดเชื้อที่อวัยวะสืบพันธุ์

1. ตกขาว 
ตกขาว หรือเรียกตามชาวบ้านทั่วไปว่า "มุตกิด" เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดในโรคเฉพาะของหญิง หมายถึง สิ่งที่ขับถ่ายออกมาทางช่องคลอดที่ไม่ใช่เลือดตกขาวที่ออกมาข้างนอกนั้นอาจเป็นลักษณะปกติแต่มีจำนวนมากกว่าธรรมดาหรืออาจเป็นตกขาวที่ผิดปกติมาจากส่วนหนึ่งส่วนใดของอวัยวะสืบพันธุ์ก็ได้

ตกขาวปกติมีลักษณะสีขาวข้นคล้ายแป้งเปียกหรือเป็นมูกขาวใสมีจำนวนเล็กน้อยพอชุ่มมีกลิ่นจำเพาะมีภาวะเป็นกรดอ่อน ๆ ไม่คันอาจพบได้มากในภาวะต่อไปนี้
1. ระยะหลังและก่อนมีประจำเดือน
2. ระยะไข่ตก
3. ระยะตั้งครรภ์
4. ระยะที่มีอารมณ์กำหนัด
5. ระยะที่มีความวิตกกังวลมาก


ตกขาวผิดปกติเป็นตกขาวที่มีจำนวนมากกว่าธรรมดามีสีคล้ายหนองเป็นฟองหรือเป็นก้อน ๆ มักมีกลิ่นหรือมีอาการเจ็บและคันบริเวณช่องคลอดร่วมด้วยอาจมีสาเหตุจาก 

1. มีวัตถุแปลกปลอมในช่องคลอด 
ทำให้ผนังช่องคลอดระคายเคืองมีตกขาวเพิ่มมากขึ้นและมักมีกลิ่นเหม็นในเด็กอาจพบเป็นเมล็ดผลไม้เศษลูกโป่งเศษกระดาษในผู้ใหญ่อาจพบสำลีเศษยางตลอดจนถุงยางอนามัยเมื่อเอาวัตถุแปลกปลอมเหล่านี้ออกก็จะหายเป็นปกติได้ 

2. เกิดจากการติดเชื้อ ได้แก่
(1) เชื้อพยาธิ ซึ่งเป็นพวกโปรโตซัวชนิดหนึ่ง เรียกว่า ทริโคโมนัสวาจินาลิส (trichomonasvaginalis) ลักษณะเหมือนใบไม้ มีหนวดข้างหน้าสี่เส้นเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาอาการที่ผู้ป่วยมาพบแพทย์คือตกขาวมากกว่าธรรมดา  สีเหลืองปนเขียว เป็นฟองมีกลิ่นเหม็น มีอาการคัน เป็นผื่นที่อวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกตรงบริเวณที่เปื้อนตกขาวลักษณะการอักเสบที่ปากมดลูกและผนังช่องคลอดจะมองเห็นเป็นจุดแดง ๆ คล้ายผลสตรอเบอรี่
(2) เชื้อรา พบได้บ่อยรองลงมาเชื้อราที่พบ ได้แก่ แคนดิดาอัลบิแกน (candida albigans) อาการที่ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ คือ คันในช่องคลอดและมีตกขาวมากกว่าปกติบางทีพบเป็นก้อนคล้ายฝ้าของน้ำนมต้มสุกเป็นแผ่น
เชื้อราแคนดิดาอัลบิแกนส์
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

(3) เชื้อหนองใน โรคหนองในเป็นกามโรคชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อ ไนซ์ซีเรียโกโนร์เรีย (neisseria gonorrhea) มีลักษณะเป็นรูปไตคู่ภายในเม็ดเลือดขาวผู้ป่วยมักมีอาการถ่ายปัสสาวะแสบ ขัด ตกขาวมีลักษณะเหมือนหนอง      มีกลิ่นเหม็นการอักเสบทำให้มีอาการเจ็บขณะร่วมเพศถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษาเชื้อนี้อาจลุกลามเข้าไปในโพรงมดลูกท่อนำไข่และถึงช่องท้องได้
(4) เชื้อไวรัส ส่วนใหญ่เป็นเชื้อเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ (herpes simplex) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม มักมีการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกร่วมด้วยจะเห็นเป็นเม็ดใสขึ้นเป็นกลุ่มมีอาการปวดแสบปวดร้อนและระคายเคืองเล็ก น้อย 
(5) ติดเชื้อบัคเตรีชนิดอื่น ๆ เช่น สตาฟีโลค็อกคัส (staphylococcus) สเตรพโตค็อกคัส (streptococcus) เป็นต้น ทั้งนี้อาจพบเชื้อต้นเหตุได้มาก กว่า 1 ชนิด 
(6) เชื้อวัณโรค เชื้อชนิดนี้พบน้อยมาก 

3. เกิดจากเนื้องอก 
เนื้องอกของอวัยวะสืบพันธุ์หญิงไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกไม่ร้ายแรงหรือมะเร็งก็อาจทำให้เกิดอาการตกขาวได้ 



2. การอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน 
อวัยวะภายในอุ้งเชิงกราน ได้แก่ มดลูก ท่อนำไข่ รังไข่ เยื่อบุช่องท้องและลำไส้ใหญ่บางส่วนการอักเสบติดเชื้อของอวัยวะเหล่านี้มักจะเริ่มต้นจากการอักเสบติดเชื้อของอวัยวะสืบพันธุ์ตอนล่างตั้งแต่ช่องคลอดแล้วลุกลามเข้าไปในโพรงมดลูกเข้าสู่ท่อนำไข่แต่บางครั้งอาจเกิดจากเชื้อผ่านไปทางกระแสเลือดก็ได้เชื้อที่พบว่าเป็นสาเหตุบ่อย คือ เชื้อหนองในถ้าการอักเสบรุนแรงมากและไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดเป็นฝีหนองซึ่งถ้าแตกออกจะทำให้การอักเสบกระจายไปทั่วอุ้งเชิงกรานและช่องท้องอาจเกิดอันตรายถึงเสียชีวิตได้ 

อาการมักเริ่มด้วยเจ็บบริเวณท้องน้อย มีไข้ มีตกขาวผิดปกติ และอาจมีเลือดออก ถ้าตรวจภายในจะพบว่า กดเจ็บบริเวณที่มีการอักเสบ 

การรักษาในระยะเริ่มแรก ได้แก่ การให้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแตกของฝีหนองจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัดร่วมด้วย 

3. กามโรค 
กามโรค หมายถึง โรคที่ติดต่อโดยการร่วมเพศและมักก่อให้เกิดพยาธิสภาพที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์เป็นส่วน ใหญ่ 
แต่เดิมกามโรค หมายถึง กลุ่มโรคเพียง 5 โรค คือ ซิฟิลิส หนองใน แผลริมอ่อน โรคของต่อมน้ำเหลืองและโรคเนื้อตายที่บริเวณขาหนีบปัจจุบันพบว่ายังมีโรคอีกหลายโรคที่ติดต่อโดยการร่วมเพศแต่ไม่ใช่กามโรคที่แท้จริงรวมอยู่ในกลุ่มโรคนี้ด้วย คือ หนองในเทียม (ใช้เฉพาะในชาย) หูดหงอดไก่ เชื้อรา พยาธิในช่องคลอด เริม หูดข้าวสุก หิดที่อวัยวะสืบพันธุ์ ตัวโลน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบันจึงเปลี่ยนชื่อกามโรคว่า "โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์" (sexually transmitted diseases) 
 

ซิฟิลิส 

เกิดจากเชื้อทริโปนีมาพอลลิดุม (tryponema pollidum) มีระยะฟักตัวโดย เฉลี่ย 10-30 วัน 

อาการในระยะแรกจะมีแผลเกิดขึ้น เรียกว่า แผลริมแข็งมักเป็นที่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกลักษณะแผลมีขอบนูนสูงขึ้นก้นแผลสะอาดเรียบถูกต้องไม่เจ็บระยะนี้หากไม่รักษาก็จะหายได้เองภายใน 3-8 สัปดาห์

เชื้อซิฟิลิส
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

อาการระยะที่สองหลังจากแผลริมแข็งหายราว 3 สัปดาห์ จะมีไข้ต่ำ ๆ ปวดศีรษะ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ปวดเมื่อยและปวดตามข้อมีผื่นขึ้นตามบริเวณผิวหนัง เช่น แขน ขา ลำตัว ไม่คันและไม่เจ็บปวดอาจเป็นอยู่ไม่นานวันหรืออาจนานหลายเดือนก็ได้ส่วนใหญ่จะหายไปราว 4-8 สัปดาห์ ในระยะนี้อาจมีลักษณะเป็นตุ่มนูนขึ้นมาคล้ายยุงกัดแต่มีเนื้อยุ่ย ๆ คลุมบริเวณนี้แพร่เชื้อได้มากอาจมีต่อมน้ำเหลืองโตหรือผมร่วงได้

ผู้ที่ไม่ได้รับการรักษาเมื่ออาการทุกอย่างหายก็จะเข้าสู่ระยะแฝงซึ่งเป็นระยะที่จะไม่มีอาการอะไรทั้งสิ้นแต่จะทราบได้โดยการตรวจพบน้ำเหลืองให้ผลบวก 
อาการในระยะที่สามพบว่าหนึ่งในสี่ของระยะแฝงจะเปลี่ยนเป็นระยะที่สามซึ่งต้องใช้เวลานานโดยจะไปเกิดเป็นแผลและเนื้อตายในหัวใจหรือระบบประสาททำให้เกิดอาการคล้ายคนเป็นโรคจิต 
การวินิจฉัยโรคนี้ ส่วนใหญ่อาศัยจากการตรวจน้ำเหลืองนอกจากนี้อาจจะขูดบริเวณแผลหรือผื่นหรือเนื้อนูนมาตรวจด้วยกล้องพิเศษและอาจต้องเจาะน้ำไขสันหลังมาตรวจด้วยในบางราย 
หญิงมีครรภ์ที่เป็นซิฟิลิสต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เพราะซิฟิลิสจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ เช่น ทำให้แท้ง ทารกตายในครรภ์หรือเป็นฟิซิลิสแต่กำเนิด 

 

หนองใน 

เกิดจากเชื้อไนซ์ซีเรียโกโนร์เรีย มีระยะฟักตัว ประมาณ 3-5 วัน
อาการมักเริ่มด้วยปัสสาวะแสบ ขัด มีตกขาว ถ้าไม่ได้รับการรักษาโรคนี้อาจลุกลามเข้าไปในโพรงมดลูกท่อนำไข่และรังไข่ทำให้ท่อนำไข่ตันและเป็นหมันในที่สุด

เชื้อหนองใน
หนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 9

 

แผลริมอ่อนเกิดจากเชื้อฮีโมฟิลุสดูเครยี (hemophilus ducreyi) มีระยะฟักตัวประมาณ 2-5 วัน

อาการอาจพบได้ใน 2 ลักษณะ คือ 

(1) แผล 
มักพบบริเวณฝีเย็บและที่แคมเล็กเริ่มคันมีเม็ดพองและอักเสบต่อมาเป็นหนองแตกออกมีอาการเจ็บส่วนใหญ่เกิดหลายแผลขอบแผลไม่ชัดเจนถูกต้องเจ็บ 

(2) ฝีมะม่วง 
ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่เพียงพอต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบจะโตเป็นหนองได้ราว 5-8 วันหลังมีแผล 

กามโรคที่ต่อมน้ำเหลือง 
เกิดจากเชื้อคลาไมเดีย (chlamydia) มีระยะฟักตัว 1-4สัปดาห์ แต่โดยปกติ ประมาณ 7-12 วัน 
อาการจะเริ่มด้วยมีแผลที่อวัยวะเพศแล้วมีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เบื่ออาหารต่อมาต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณขาหนีบแล้วเป็นหนองแตกออกมาเรียกว่า ฝีมะม่วง เช่นเดียวกับแผลริมอ่อนอาการต่อมน้ำเหลืองโตนี้ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นหลังจากแผลหายไปแล้ว 

กามโรคเนื้อตายที่บริเวณขาหนีบ 
เกิดจากเชื้อโดโนแวนแกรนูโลมาติส (donovan granulomatis) มี ระยะฟักตัวไม่แน่นอน 
อาการในระยะแรกจะพบแผลเป็นตุ่มอักเสบไม่เจ็บต่อมาแตกเป็นแผลกลมนูนยุ่ยเลือดออกง่าย 

หูดหงอนไก่ 
เป็นโรคที่พบบ่อยในวัยเจริญพันธุ์เกิดจากเชื้อไวรัสปาปิลโลมา (papilloma viruses) มีลักษณะคล้ายหงอนไก่หรือดอกกะหล่ำเกิดบริเวณอวัยวะเพศและโตขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อพบร่วมกับการตั้งครรภ์ 
รักษาได้โดยยาหรือจี้ด้วยไฟฟ้า 

เริม
เกิดจากเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ พบได้บ่อย มักมีอาการ 4-5 วันหลังการร่วมเพศโดยเกิดเป็นเม็ดใส ๆ แล้วแตกออกเป็นแผลเล็ก ๆ หลายแผลเจ็บปวดแสบปวดร้อนและมีอาการอักเสบเป็นอยู่ประมาณ 10 วันก็จะหายไป อาจมีเชื้อบัคเตรีแทรกได้และอาจมีต่อมน้ำเหลืองโตเล็กน้อยเป็นแล้วมักเป็นอีก

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow