คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกให้ลูกเตรียมพร้อมสู่การเขียนได้ตั้งแต่ช่วงหัดเดิน (Toddlers) ด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะช่วยในการเสริมสร้างทักษะการควบคุมหรือจัดการกับประสาทนิ้ว เช่น ปั้นดินน้ำมัน ปั้นดินเหนียว การร้อยลูกปัด รวมไปถึงการต่อเลโก้ ซึ่งจะช่วยพัฒนามือเล็ก ๆ ของลูก เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจับดินสอได้
คุณพ่อคุณแม่ควรหาสีหรือกระดาษมาให้ลูกได้ลองระบายเล่น อาจจะเลอะเปรอะเปื้อนไปบ้างก็ควรปล่อยให้เขาได้มีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงาน เพราะการวาดภาพ ระบายสีภาพอย่างอิสระเป็นพื้นฐานของการเขียน และยังช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือ ฝึกความสัมพันธ์ของระบบประสาทระหว่างตากับมือ และยังทำให้เด็กมีอารมณ์แจ่มใสสนุกสนานต่อการทำงาน
คุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกเสมอไม่เว้นแม้แต่เรื่องของการเขียน โดยลองเขียนโน้ตติดตามตู้เย็นให้ลูกเห็น หรือหยิบสมุดมาวาดและเขียนให้ลูกดูบ่อย ๆ ลูกจะเกิดความสนใจและอยากลองทำตามสิ่งที่คุณพ่อกับคุณแม่ทำ ซึ่งในครั้งแรกอาจจะแย่งเอาสมุดและปากกาของคุณพ่อคุณแม่ไป ก็ไม่ควรจะดุลูกแต่ควรหาสมุดและดินสอแท่งใหม่มาเปลี่ยนให้ลูกแทน การที่ลูกเริ่มต้นการเขียนด้วยความสนใจจะทำให้เขาเรียนรู้การเขียนได้เป็นอย่างดี
การบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันนอกจากจะทำให้ลูกได้ฝึกการเขียนแล้ว ยังทำให้ลูกได้ฝึกการใช้สมาธิในการทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการถ่ายทอดความรู้สึก สำหรับเด็กเล็กในเบื้องต้นอาจให้สมุดเล่มใหญ่ที่ไม่ต้องมีเส้น ถ้าลูกยังเขียนไม่เป็นก็ให้วาดรูปแทน การที่เด็กได้รู้จักเขียนไดอารี่ตั้งแต่เล็กเมื่อเขาโตขึ้นนอกจากจะเขียนได้ดีแล้ว ยังฝึกให้เป็นคนละเอียดอ่อน ช่างสังเกตและจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย
คุณพ่อคุณแม่อาจหามุมหนึ่งในบ้านที่ไม่มีเสียงทีวีรบกวน จัดโต๊ะเล็ก ๆ หรือกระดานวาดรูป พร้อมอุปกรณ์อื่น ๆ ให้ลูกได้สร้างสรรค์หัดวาดหัดเขียนตามจินตนาการ โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยสอนให้ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เมื่อลูกใช้อุปกรณ์ได้คล่อง ลองปล่อยให้เขาได้วาดและเขียนด้วยตนเอง เพื่อฝึกให้ลูกได้คิดอย่างอิสระเพื่อพัฒนาและต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ต่อไป