คำตอบ        ข้อ 3    ราคาดุลยภาพเพิ่มขึ้น ปริมาณดุลยภาพลดลง

เพราะ        ในข้อนี้จะวัดความรู้ในเรื่องสินค้าทดแทนกัน (Substitute Goods) หมายถึงสินค้าที่ใช้แทนกันด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันและความสามารถใช้แทนกันได้ เมื่อราคาสินค้าชนิดหนึ่งเปลี่ยนแปลงไป ราคาสินค้าอีกชนิดหนึ่งจะมีราคาเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้าม เช่น ชากับกาแฟ เนื้อหมูกับเนื้อไก่ น้ำมันพืชกุ๊กกับน้ำมันพืชองุ่น สบู่ยี่ห้อแคร์และสบู่ยี่ห้อจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นต้น

จากโจทย์ในข้อนี้ที่กำหนดว่า สินค้า T และ R เป็นสินค้าทดแทนกันได้ และเมื่ออุปทาน (Supply) ไม่เปลี่ยนแปลง (ซึ่งหมายถึงไม่ต้องสนใจอุปทาน) ดังนั้นเมื่อสินค้า R มีราคาลดลง จะเกิดปรากฏการณ์ตามภาพด้านล่างนี้

กล่าวคือ เมื่อสินค้า R มีราคาลดลงจาก P1 ไปยัง P2 ก็จะทำให้ปริมาณการซื้อสินค้าของสินค้า R นั้น เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จาก Q1 ไป Q2  ซึ่งตามหลักการของสินค้าทดแทนกันได้นั้น สินค้า T จะต้องเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม นั่นก็คือสินค้า T จะมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น และจะมีปริมาณที่ลดน้อยลง ตามตัวเลือกที่ 3 นั่นเอง ซึ่งอาจยกตัวอย่างเป็นรูปธรรมได้ว่า

จากรูปภาพเมื่อราคาชาจีน คือห่อละ 10 บาท นายสุชาติจะซื้อชาจีน จำนวน 3 ห่อ ต่อมาชาจีน ลดลงเป็น 8 บาทต่อชิ้น นายสุชาติจะซื้อชาเขียวลดลง เพราะกลายเป็นว่าราคาชาเขียวที่ขายในราคา 10 บาทเท่าเดิมนั้น เป็นราคาที่แพงขึ้น เมื่อเทียบกับชาจีน ซึ่งเป็นสินค้าที่ใช้ทดแทนกันได้ ทำให้ปริมาณขายของชาเขียวมีจำนวนที่ลดลงจากเดิม