คำตอบ        ข้อ 3    แมกนา คาร์ตา หรือกฎบัตรฉบับใหญ่

เพราะ        โจทย์ระบุว่า “ยุคมืด” ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า ยุคมืด (Dark Age) นั้น ก็คือยุคกลาง (Middle Age) นั่นเอง แต่ที่ได้รับฉายา หรือที่ถูกเรียกว่ายุคมืดนั้นเป็นเพราะ เป็นยุคที่กษัตริย์ รวมทั้งประชาชนต่างๆ ในตะวันตกนั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจของศาสนจักร กล่าวคือ จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ศาสนจักรได้กำหนดเอาไว้ ไม่สามารถคิดค้นสิ่งใหม่ๆ มนุษย์สูญเสียความคิด ความมีเหตุผลไป ทำให้ไม่มีแนวคิด แนวทางการศึกษา หรือ วิวัฒนาการอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเรียกในยุคนี้ว่ายุคมืด ซึ่งกินระยะเวลายาวนานหลายพันปี คือในช่วงคริสตศตวรรษที่ 5 – คริสตศตวรรษที่ 13

ดังนั้นในข้อนี้จึงต้องหาว่าตัวเลือกใดที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งเมื่อพิจารณาจากตัวเลือกแล้ว สามารถวิเคราะห์และตัดตัวเลือก ได้ดังนี้

1. มหากาพย์อีเลียด = ตัดทิ้งได้เลย เพราะมหากาพย์อีเลียดนี้ถือเป็น signature สำคัญมากของช่วงยุคสมัยกรีก (ซึ่งออกข้อสอบบ่อยมากๆ) เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามเมืองทรอย
(ซึ่งเป็นนครรัฐหนึ่งในยุคของกรีก) ทั้งนี้มหากาพย์นี้ถูกประพันธ์โดยโฮเมอร์

2. เอกสารคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา = ตัดทิ้งได้เลย เพราะสหรัฐอเมริกานั้นพึ่งจะประกาศอิสรภาพจากประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1776 ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ช่วงของยุคกลาง (นอกจากนี้ หากน้องๆ ไม่ทราบปีจริงๆ ก็จะสามารถวิเคราะห์ต่อได้ว่า การประกาศอิสรภาพนั้น ย่อมต้องเกิดในช่วงยุคล่าอาณานิคม ซึ่งเป็นช่วงสมัยใหม่แล้ว ไม่ใช่ยุคกลางอย่างแน่นอน จึงตัดทิ้งได้เลย)

3. แมกนา คาร์ตา หรือกฎบัตรฉบับใหญ่ = ข้อนี้ถูกต้อง เพราะว่าแมกนา คาร์ตานี้ ถูดบังคับใช้ในปี ค.ศ. 1215 สมัยของพระเจ้าจอห์นแห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งอยู่ในช่วงของยุคกลางนั่นเอง โดยทั้งนี้ ถือกันว่า
มหากฎบัตรนี้คืออิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ที่มีต่อประวัติศาสตร์ศาสตร์อันยาวนานของกระบวนการที่นำมาสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญในปัจจุบัน

4. กฎหมายสิบสองโต๊ะ = ข้อนี้ตัดทิ้งได้เลย เพราะกฎหมายสิบสองโต๊ะนั้น ถือเป็น signature ของยุคโรมัน
(ซึ่งออกข้อสอบบ่อยมากๆ) ทำให้คิดถึงระบบกฎหมาย คิดถึงกฎหมายสิบสองโต๊ะ ต้องตอบยุคโรมันได้เลยทันที ทั้งนี้กฎหมายสิบสองโต๊ะนี้ ก็คือการรวบรวมกฎหมายที่มีความสำคัญและรู้จักกันอย่างกว้างขวางในสมัยนั้น เข้าเป็นหมวดหมู่ในรูปของการจารึกไว้บนโต๊ะทองเหลือง จำนวน 12 โต๊ะ เพื่อนำไปตั้งไว้ใกล้กับที่สาธารณะกลางเมือง ให้ประชาชนทุกคนได้อ่าน และเคารพในกฎหมายนี้อย่างเท่าเทียมกัน โดยกฎหมายนี้ได้มีบทบัญญัติที่ครอบคลุมถึงกฎเกณฑ์ที่ควบคุมความประพฤติของสังคมโดยอาศัยจารีตประเพณีที่สั่งสมมาและศาสนาเป็นหลัก