กำหนดให้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ระหว่างประเทศเกาหลีใต้กับประเทศไทย และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ระหว่างประเทศอังกฤษกับประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม 2561 และมกราคม 2562 และเดือน เป็นดังนี้
หากกำหนดให้ราคาสินค้าระหว่างประเทศของสินค้าไทย สินค้าเกาหลีใต้และอังกฤษ ยังคงเดิม การสรุปสถานการณ์ในเดือนมกราคม 2562 ข้อใดไม่ถูกต้อง
คำตอบ ข้อ 4 จ่ายเงินปอนด์ลดลงเพื่อซื้อสินค้าจำนวนเท่าเดิมจากประเทศไทย
เพราะ ในข้อนี้จะวัดความรู้ในเรื่องการเปรียบเทียบอัตราค่าเงินระหว่างประเทศ ซึ่งเมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลที่โจทย์กำหนดมาให้นั้น จะพบกว่า
ในกรณีเงินวอน (เกาหลีใต้) ต่อเงินบาท (ไทย)
จากเดือนพฤษภาคม 2561 ไปเดือนมกราคม 2562 นั้น จะเป็นว่า เงินวอนแลกเป็นเงินบาทแล้วได้จำนวนเงินบาทเพิ่มขึ้น คือเดือนพฤษภาคม 2561 มี 1,000 วอน จะได้เงิน 33 บาท แต่พอมาเดือนมกราคม 2562 มีเงิน 1,000 วอน ได้เงินบาทเพิ่มขึ้นเป็น 36 บาท นั่นหมายความว่า หากยกตัวอย่างอย่างง่ายแล้ว ก็คือ สมมติคนเกาหลีต้องการ ซื้อสินค้าของไทย ที่วางขายไว้ชิ้นละ 36 บาทนั้น หากซื้อในเดือนพฤษภาคม 2561 เงินจำนวน 1,000 วอน จะไม่สามารถซื้อสินค้าชิ้นนี้ได้ แต่ทว่ามาเดือนมกราคม 2562 เงินจำนวนเท่าเดิม คือ 1,000 วอนนี้ กลับซื้อของชิ้นนี้ได้แล้ว แสดงว่าเงินวอนมีอำนาจซื้อมากขึ้น หรือ “แข็งตัว” มากขึ้น ทำให้ผลที่ตามมาก็คือ สินค้าที่เป็นเงินบาทดูเหมือนมีราคาถูกลง (เพราะเงินวอนซื้อสินค้าเงินบาทได้เยอะขึ้น) การนำเข้าจากเกาหลีจะมีราคาแพงขึ้น การส่งออกไปเกาหลีจะมีราคาถูกลง
ในกรณีเงินปอนด์ (อังกฤษ) ต่อเงินบาท (ไทย)
จากเดือนพฤษภาคม 2561 ไปเดือนมกราคม 2562 นั้น จะเป็นว่า เงินปอนด์แลกเป็นเงินบาทแล้วได้จำนวนเงินบาทลดลง คือเดือนพฤษภาคม 2561 มี 1,000 ปอนด์ จะได้เงิน 44,100 บาท แต่พอมาเดือนมกราคม 2562 มีเงิน 1,000 ปอนด์ ได้เงินบาทลดลงเป็น 43,200 บาท นั่นหมายความว่า หากยกตัวอย่างอย่างง่ายแล้ว ก็คือ สมมติคนอังกฤษต้องการซื้อสินค้าของไทย ที่วางขายไว้ชิ้นละ 44,100 บาทนั้น หากซื้อในเดือนพฤษภาคม 2561 เงินจำนวน 1,000 ปอนด์ จะสามารถซื้อสินค้าชิ้นนี้ได้แล้ว แต่ทว่ามาเดือนมกราคม 2562 เงินจำนวนเท่าเดิม คือ 1,000 ปอนด์นี้ กลับซื้อของชิ้นนี้ไม่ได้แล้ว เพราะแลกเป็นเงินบาทได้เพียงแค่ 43,200 บาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะซื้อของราคา 44,100 บาทได้ แสดงว่าเงินปอนด์มีอำนาจซื้อลดลง หรือ “อ่อนตัว” ลง ทำให้ผลที่ตามมาก็คือ สินค้าที่เป็นเงินบาทดูเหมือนมีราคาแพงขึ้น (เพราะเงินปอนด์ซื้อสินค้าเงินบาทได้น้อยลง) การนำเข้าจากอังกฤษจะมีราคาถูกลง การส่งออกไปอังกฤษจะมีราคาแพงขึ้น
ซึ่งจาดข้างต้น สรุปได้ง่ายๆ ว่า “เงินวอนแข็ง” “เงินปอนด์อ่อน” และเมื่อนำมาพิจารณาตัวเลือก จะพบว่าข้อสอบถามว่า ข้อใด “ไม่ถูกต้อง” ซึ่งต้องระวังมากๆ ตามที่ได้เตือนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ก็ต้องมาพิจารณาทีละตัวเลือก ดังนี้
1. เงินวอนมีค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท = ถูกต้องแล้ว ตามที่วิเคราะห์ข้างต้นว่าเงินวอนนั้นแข็งค่าขึ้น
2. เงินบาทมีค่าสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ = ถูกต้องแล้ว ตามที่วิเคราะห์ข้างต้นว่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง ดังนั้นเมื่อเทียบกับเงินบาท ย่อมหมายถึงว่าเงินบาทนั้นแข็งค่าขึ้น (เพราะเงินบาทแลกเป็นเงินปอนด์ได้เพิ่มมากขึ้น)
3. จ่ายเงินวอนลดลงเพื่อซื้อสินค้าจำนวนเท่าเดิมจากประเทศไทย = ถูกต้องแล้ว เพราะตามที่ได้ยกตัวอย่างข้างต้น ที่ว่าเอเงินวอนแข็งค่า สินค้าเดิมราคา 36 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2561 จะต้องใช้เงินมากกว่า 1.000 วอนเพื่อซื้อสินค้าชิ้นนี้ แต่มาในเดือนมกราคม 2562 สินค้าชิ้นเดียวกันและราคาเดียวกันนี้ ใช้เงินเพียง 1,000 วอน ก็สามารถซื้อได้แล้วนั่นเอง
4. จ่ายเงินปอนด์ลดลงเพื่อซื้อสินค้าจำนวนเท่าเดิมจากประเทศไทย = ไม่ถูกต้อง เพราะเนื่องจากเงินปอนด์อ่อนค่าลง ทำให้จะต้องใช้เงินเงินปอนด์มากขึ้นในการซื้อสินค้าราคาเดิมที่เป็นเงินบาทของไทย เช่น เดิมสินค้าราคา 44,100 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2561 นั้น ใช้เงินเพียง 1,000 ปอนด์ ก็สามารถซื้อได้แล้ว แต่ทว่าในเดือนมกราคม 2562 นั้น สินค้าและราคาเดิม แต่ต้องใช้เงินมากกว่า 1,000 ปอนด์ ในการซื้อ เพราะแลกเป็นเงินบาทได้ลดลง เหลือเพียง 43,200 เท่านั้น ซึ่งไม่พอที่จะซื้อนั่นเอง