แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ม.3
แนวข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ม.3
36% Complete
26 of 50
ข้อที่ 26.

พฤติกรรมของผู้บริโภคข้อใดที่ไม่ควรนำผลจากการฟังไปใช้

สื่อที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค พบว่า การรีวิว และโซเชียลมีเดียเป็นสื่อที่ทรงพลังมากที่สุด โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มท่องเที่ยว ร้านอาหาร สินค้าเพื่อความงาม และบริการเสริมความงาม จากการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคกว่า ๕๐% มักเชื่อรีวิว และข้อมูลที่มีการแชร์บนโลกออนไลน์มากกว่าสื่ออื่นๆ เนื่องจากเป็นช่องทางที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับรู้กระแสและความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าจากผู้คนทั่วทุกมุมโลกสื่อดั้งเดิมอย่างทีวี ยังทีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ไม่ต้องใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากนัก

เฉลย

ตอบ ข้อ 4 ผู้บริหารควรเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางสังคมเพราะถ้าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงก็จะมีความรับผิดชอบสูงโอกาสที่จะหลอกลวงผู้บริโภคไม่มี

อธิบาย   "ผู้บริหารควรเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางสังคมเพราะถ้าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงก็จะมีความรับผิดชอบสูงโอกาสที่จะหลอกลวงผู้บริโภคไม่มี" เป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่

ไม่ควรนำผลจากการฟังไปใช้เพราะมีการสำรวจพบว่าคนไทยติดอันดับ ๑ ที่นิยมซื้อขายสินค้าออนไลน์มากที่สุดในโลก อัตราการเจริญเติบโตในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ของ

คนไทยเติบโตเร็วมาก อะไรที่เป็นคุณอนันต์ก็มีโทษมหันต์ มองในแง่ดีเป็นช่องทางหนึ่งในการเสนอขายสินค้าและบริการที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง โดยลงทุนต่ำ มองในแง่ร้ายเป็น

ช่องทางให้มิจฉาชีพตั้งบริษัทฯ ขึ้นมาเพื่อหลอกลวงประชาชน ทำให้ประชาชนถูกหลอกลวงได้ง่าย ดังเช่นการตั้งผู้บริหารเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางสังคมหรือที่มีชื่อเสียง โอกาส

ที่จะหลอกลวงผู้บริโภคก็มีมาก โดยเฉพาะให้ระมัดระวังเฟสบุ๊คปลอม อินสตาแกรมปลอม ที่เอาชื่อคนดังมาเป็นโปรไฟล์ หลอกลวงผู้บริโภค ก็มีอยู่หลายคดีที่มีการร้องทุกข์ต่อ

พนักงานสอบสวนอยู่เป็นจำนวนมาก

ตัวลวง 

อธิบาย                  

ข้อ 1 "ต้องตรวจสอบว่าผู้ประกอบธุรกิจจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่โดยตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า" เป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ควรนำผลจากการฟังไปใช้

เพราะร้านอาหารสินค้าเพื่อความงามและบริการเสริมความงาม สุขภาพและความปลอดภัยต่อสาธารณะได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นและด้วยกฎหมายที่พัฒนาขึ้นเพื่อปกป้องผู้บริโภค

มากขึ้น การทำให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัยปราศจากสิ่งปนเปื้อนและไม่น่าจะทำให้เกิดอันตรายได้ในทางใดๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องตรวจสอบว่าผู้ประกอบธุรกิจจดทะเบียน

ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั่นเอง

ข้อ 2 "การโฆษณาหรือการรีวิวสินค้าต้องไม่เกินความจริงหรือเหลือเชื่อ เช่น การขายสินค้าประเภทอาหารเสริมหรือยาที่ไม่มีรายงานวิจัยทางการแพทย์สนับสนุน"  เป็นพฤติกรรม

ของผู้บริโภคที่ควรนำผลจากการฟังไปใช้เพราะการโฆษณาหรือการรีวิวสินค้าเป็นการกระตุ้นความจำของผู้บริโภคเกี่ยวกับตรายี่ห้อของสินค้าของกิจการ  รักษาภาพพจน์ของ

ผลิตภัณฑ์และบริษัทให้คงไว้เสมอเพื่อเตือนความจำให้ผู้ซื้อรู้ถึงแหล่งที่จะซื้อสินค้าดังนั้นการโฆษณาหรือการรีวิวสินค้าต้องไม่เกินความจริงหรือเหลือเชื่อ

ข้อ 3 "การซื้อสินค้าที่มีราคาสูงควรเดินทางไปพบที่สำนักงานของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อตรวจสอบว่ามีอยู่จริงหรือไม่เพราะภาพที่แสดงทางอินเตอร์อาจเป็นภาพที่ตัดต่อ" เป็น

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ควรนำผลจากการฟังไปใช้เพราะคุณภาพของสินค้าจะกำหนดโดยผู้ผลิตซึ่งประกอบด้วยหน่วยผลิตรับผิดชอบควบคุมกระบวนการผลิตและหน่วยห้อง

ปฏิบัติการรับผิดชอบตรวจสอบคุณลักษณะทั้งสองหน่วยจึงช่วยกันผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตามกำหนดซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้จะได้จากงานวิจัยของผู้ผลิตเองหรือค่ามาตรฐาน

ตามกฎหมายในการเลือกซื้อสินค้าผู้บริโภคจึงต้องตรวจสอบคุณลักษณะภายนอกที่ถูกต้องด้วยตนเองอย่าเชื่อกับภาพที่แสดงทางอินเตอร์

ทบทวนบทเรียน