การเป็นศาสนิกชนที่ดีต้องมีการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวด้วยหลักธรรมใด
ตอบ ข้อ 1 ฆราวาสธรรม ๔ คือ หลักธรรมสำหรับผู้ครองเรือน สัจจะ หมายถึง ความซื่อสัตย์ต่อกัน ทมะ หมายถึง การรู้จักข่มใจ ขันติ หมายถึง ความอดทน จาคะ หมายถึง
การเสียสละ
ตัวลวง
ข้อ 2 พละ ๕ คือ หลักธรรมที่ผู้เจริญวิปัสสนาพึงรู้ กำลัง ห้า ประการ ได้แก่ ศรัทธาพละ ความเชื่อ กำลังการควบคุมความสงสัย วิริยะพละ ความเพียร กำลังการควบคุมความ
เกียจคร้าน สติพละ ความระลึกได้ กำลังการควบคุมความประมาท การไม่ใส่ใจ ใจลอย ไร้สติ สมาธิพละ ความตั้งใจมั่น กำลังการควบคุมการวอกแวกเขว่ไขว่ ฟุ้งซ่าน ปัญญาพละ
ความรอบรู้ กำลังการควบคุมเพิกเฉยไม่สนใจ หลงงมงาย
ข้อ 3 อุบาสกธรรม ๕ คือ ธรรมของอุบาสกลอุบาสิกา ที่ดี มีศรัทธา มีศีล ไม่ถือมงคล ตื่นข่าว ไม่แสวงหาเขตบุญนอกหลักพระพุทธศาสนา กระทำความสนับสนุนในพระ
พุทธศาสนานี้เป็นเบื้องต้น
ข้อ 4 สาราณียธรรม 6 คือ ธรรมสำหรับมิตรสหายเป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน 6 ประการ เป็นคุณธรรมที่ทำให้คนเราไม่เห็นแก่ตัว เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม
แบ่งปันสิ่งที่ได้มาโดยชอบธรรม มีความประพฤติเสมอภาคกัน มีความเสมอภาคกันทางความคิด
ข้อ 5 อธิปไตย 3 คือ คำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ให้สติต่อผู้ที่เป็นผู้นำอย่างดี อัตตาธิปไตย คือ ผู้มีตนเป็นใหญ่ ต้องมีสติเป็นจุดเริ่มต้น และมีปัญญาเจริญควบคู่ โลกาธิปไตย คือ
ผู้มีโลกเป็นใหญ่ รู้จักพินิจ และเข้าใจถึงจิตของผู้อื่นด้วยจิตที่เป็นกลาง ธรรมาธิปไตย คือ ผู้มีธรรมเป็นใหญ่ บำเพ็ญกุศลกรรมที่ไม่มีโทษ บริหารตนให้หมดจดได้