ข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ม.6
ข้อสอบ O-NET ภาษาไทย ม.6
25% Complete
33 of 89
ข้อที่ 33.

“ผมเฝ้ามองชีวิต วันที่สมหวังก็มีความสุข วันที่ผิดหวังก็มีความทุกข์ มากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นกับเรื่องราวที่เข้ามา ที่พอทำใจได้ก็ให้มันผ่านเลยไปหรือลืมไป จะได้ไม่ต้องคิดถึงอีก แต่ที่ยังทำใจไม่ได้  มันทุกข์นะ กฎ “หาทางดับทุกข์” กันไป ที่แก้ไขก็ทุกข์น้อยลง ถ้าแก้ไม่ถูกวิธีก็อาจจะยิ่งทุกข์มากขึ้น แบบทุกข์แล้วทุกข์อีก ทุกข์ซ้ำซาก ชีวิตก็วนเวียนอยู่กับทุกข์และการแก้ทุกข์ ตั้งแต่ตื่นจนหลับ แล้วก็โหยหิวหาสุขที่เป็นความพึงพอใจ สบายใจ สนุกเบิกบานใจ มาช่วยเติมแต่งชีวิตจิตใจให้รู้สึกดีขึ้น ทั้งต่อตนเอง คนที่รัก และผู้อื่น สังเกตช่วงเวลาที่มีทุกข์ดูช่างยาวนานเหลือเกิน เหมือนวันเวลายืดออกได้มีคนเคยพูดว่า “ในห้วงแห่งทุกข์เวลาทุกวินาทีช่างผ่านไปได้ยากเหลือเกิน” แต่ช่วงเวลาความสุขกลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อมองให้ลึกลงไปในใจ ความปรารถนาและความต้องการของทุกคนก็คือ “ปรารถนาสุข ต้องการพ้นทุกข์” ด้วยกันถ้วนหน้า เราทุกคนจึงเป็น “เพื่อนร่วมสุข-ทุกข์” ในยานอวกาศลำใหญ่ที่มีชื่อว่า “โลก” ยานลำนี้กำลังท่องเที่ยวไปในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด รู้แบบนี้เราก็ไม่ต้องเหงาแล้ว เพราะไม่เคยมีใครต้องโดดเดี่ยวหรือพบเจอความทุกข์ตามลำพังเลย ดีใจจัง เรามีเพื่อนมากมาย” ข้อความข้างต้นนี้ ผู้เขียนใช้กลวิธีการเขียนอธิบายอย่างไร

เฉลย

ตอบ ง. อธิบายโดยการกล่าวซ้ำด้วยถ้อยคำที่แตกต่างออกไป

เหตุผล

เพราะ เป็นการกล่าวซ้ำโดยมีเนื้อความเท่าเดิมแต่ใช้ถ้อยคำและผูกประโยคให้ต่างออกไปเห็นได้จากข้อความว่า “ชีวิตก็วนเวียนอยู่กับทุกข์และการแก้ทุกข์ตั้งแต่ตื่นจนหลับแล้วก็

โหยหิวหาสุขตั้งแต่ตื่นจนหลับแล้วก็โหยหิวหาสุขที่เป็นความพึงพอใจ” มีความหมายเท่ากับข้อความว่า “ความปรารถนาและความต้องการของทุกคนก็คือ “ปรารถนาสุข ต้องการ

พ้นทุกข์” ด้วยกันถ้วนหน้า

ตัวเลือกอื่น

ข้อ ก, ข, ค ไม่ใช่คำตอบถูกต้อง ข้อความนี้เป็นการอธิบายโดยการกล่าวซ้ำด้วยถ้อยคำที่แตกต่างออกไป