“ผมเฝ้ามองชีวิต วันที่สมหวังก็มีความสุข วันที่ผิดหวังก็มีความทุกข์ มากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นกับเรื่องราวที่เข้ามา ที่พอทำใจได้ก็ให้มันผ่านเลยไปหรือลืมไป จะได้ไม่ต้องคิดถึงอีก แต่ที่ยังทำใจไม่ได้ มันทุกข์นะ กฎ “หาทางดับทุกข์” กันไป ที่แก้ไขก็ทุกข์น้อยลง ถ้าแก้ไม่ถูกวิธีก็อาจจะยิ่งทุกข์มากขึ้น แบบทุกข์แล้วทุกข์อีก ทุกข์ซ้ำซาก ชีวิตก็วนเวียนอยู่กับทุกข์และการแก้ทุกข์ ตั้งแต่ตื่นจนหลับ แล้วก็โหยหิวหาสุขที่เป็นความพึงพอใจ สบายใจ สนุกเบิกบานใจ มาช่วยเติมแต่งชีวิตจิตใจให้รู้สึกดีขึ้น ทั้งต่อตนเอง คนที่รัก และผู้อื่น สังเกตช่วงเวลาที่มีทุกข์ดูช่างยาวนานเหลือเกิน เหมือนวันเวลายืดออกได้มีคนเคยพูดว่า “ในห้วงแห่งทุกข์เวลาทุกวินาทีช่างผ่านไปได้ยากเหลือเกิน” แต่ช่วงเวลาความสุขกลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อมองให้ลึกลงไปในใจ ความปรารถนาและความต้องการของทุกคนก็คือ “ปรารถนาสุข ต้องการพ้นทุกข์” ด้วยกันถ้วนหน้า เราทุกคนจึงเป็น “เพื่อนร่วมสุข-ทุกข์” ในยานอวกาศลำใหญ่ที่มีชื่อว่า “โลก” ยานลำนี้กำลังท่องเที่ยวไปในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด รู้แบบนี้เราก็ไม่ต้องเหงาแล้ว เพราะไม่เคยมีใครต้องโดดเดี่ยวหรือพบเจอความทุกข์ตามลำพังเลย ดีใจจัง เรามีเพื่อนมากมาย” ข้อความข้างต้นนี้ ผู้เขียนใช้กลวิธีการเขียนอธิบายอย่างไร
ตอบ ง. อธิบายโดยการกล่าวซ้ำด้วยถ้อยคำที่แตกต่างออกไป
เหตุผล
เพราะ เป็นการกล่าวซ้ำโดยมีเนื้อความเท่าเดิมแต่ใช้ถ้อยคำและผูกประโยคให้ต่างออกไปเห็นได้จากข้อความว่า “ชีวิตก็วนเวียนอยู่กับทุกข์และการแก้ทุกข์ตั้งแต่ตื่นจนหลับแล้วก็
โหยหิวหาสุขตั้งแต่ตื่นจนหลับแล้วก็โหยหิวหาสุขที่เป็นความพึงพอใจ” มีความหมายเท่ากับข้อความว่า “ความปรารถนาและความต้องการของทุกคนก็คือ “ปรารถนาสุข ต้องการ
พ้นทุกข์” ด้วยกันถ้วนหน้า
ตัวเลือกอื่น
ข้อ ก, ข, ค ไม่ใช่คำตอบถูกต้อง ข้อความนี้เป็นการอธิบายโดยการกล่าวซ้ำด้วยถ้อยคำที่แตกต่างออกไป