นักปราชญ์ชาวกรีกโบราณกล่าวเอาไว้และเป็นความเชื่อที่ว่า ถ้าหากร่างกายเราแข็งแรงสมบูรณ์ดี จิตใจข้างในก็จะเป็นสุขเบิกบานและพร้อมที่จะเติบโตไปในทิศทางของตัวเองได้อย่างงอกงาม และตรงกับที่องค์การอนามัยโลกได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของจิตใจและร่างกายเอาไว้ วันนี้เราเลยอยากชวนทุกคนมารู้จักคุณค่าและความหมายจากการเติบโตแบบ Mind & Body กัน
คำจำกัดความที่องค์การอนามัยโลกได้ให้ไว้สำหรับคำนี้ง่าย ๆ คือ ความแข็งแรงทั้งทางกายและจิตใจ สุขภาพทางกาย หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ไม่เจ็บป่วย อวัยวะทำงานได้ตามปกติ และสุขภาพทางใจหมายถึง คุณภาพของจิตใจส่วนบุคคลที่สามารถปรับตัวอยู่ร่วมกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอย่างมีคุณภาพ
โอ้ยไม่เป็นไร ไกลหัวใจเยอะ... ในเมื่อคำนี้เกิดขึ้นเมื่อเราโดนมีดบาดที่ปลายนิ้วเจ็บอยู่นะแต่รู้สึกว่ายังไงก็ไม่ตายหรอก เพราะแผลเล็กแค่นี้แถมอยู่ไกลหัวใจขนาดนั้นเอาอะไรมาตาย แต่! ทุกคนรู้ไหมว่าความจริงแล้วคนเราไม่สามารถแยกร่างกายออกจากใจได้อย่างเด็ดขาด เพราะมันเชื่อมโยงด้วยความรู้สึกของเราเอง ความรู้สึกจะทำให้เรารำคาญกับแผล ใช้นิ้วนั้นได้ไม่เต็มที่ เล่นโทรศัพท์ไปนาน ๆ ก็ต้องหยุด รบกวนการงานที่ต้องพิมพ์ตลอดทั้งวัน นี่มันคือความทุกข์ใจระดับไมโครที่สุดท้ายแล้วก็เชื่อมโยงทางกายกับใจได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นจึงเป็นคำตอบให้กับข้อนี้ว่า กายกับใจเกี่ยวกันเป็นอย่างมาก
ปรับหัวใจ เยียวยาร่างกายนั่นแหละคือ Mind & Body แหมแต่ฟังจากที่เกริ่นมาอาจจะรู้สึกยากไปนิด แต่รู้ไหมว่าถ้าอยากเริ่มทำมันสามารถสร้างฐานรากจากกิจวัตรประจำวันของเราได้เลย เช่น การวาดภาพ การเล่นดนตรี การเขียนเล่าเรื่องราวของตัวเอง การออกกำลังกายในรูปแบบชวนให้เราเข้าใจตัวเองเช่น โยคะ พิลาทีส หรือแม้แต่การเลือกกินอาหารที่ส่งผลให้ร่างกายของเราแข็งแรง นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตจากข้างในเหมือนกัน
หากเคยได้ยิน ได้เห็นผ่านตามาบ้าง กับคำที่บอกว่า ‘คนเราเติบโตขึ้นในทุก ๆ วัน’ ประโยคนั้นกำลังจะบอกว่าไม่ใช่แค่ในช่วงเด็กเท่านั้นที่ต้องเจริญเติบโตไปเป็นวัยรุ่น จากวัยรุ่นสู่วัยทำงาน แต่คนอายุเยอะอย่างคุณตาคุณยายก็ยังมีพื้นที่ว่างในการเติบโตจากข้างในอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องสนว่าตอนนั้นตัวเลขอายุจะเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นการจะเติบโตจากข้างในทั้งกายและใจจะทำให้เราผ่านทุกช่วงวัยไปได้อย่างมีคุณภาพ แข็งแรง ดีใช่ไหมละ ถ้าความสุขที่เกิดได้นั้นมาจากเราโดยไม่ต้องอาศัยใครเลย
ใช่! มันคงจะดีแหละนะ ถ้าวันนึงในอนาคตนักวิทยาศาสตร์จับมือกับนักจิตวิทยาและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดบนโลก จับมือกันออกมาบอกว่า ข่าวดีล่าสุดของมวลมนุษยชาติตอนนี้ เราได้ค้นพบวิธีการแยกแยะกายหยาบออกจากจิตใจได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว เราจะไม่ต้องทุกข์ใจกับความเจ็บป่วยกายที่ลามมาถึงใจ ต่อจากนี้ไปเราจะใช้ชีวิตแบบที่ไร้กังวล แต่ถ้ามันไม่เกิดขึ้นจริง บทความนี้ก็อยากจะบอกว่า การที่เราฝึกฝนที่จะเติบโตจากข้างในด้วยการสร้างสมดุลให้ Mind & Body เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงวัยที่เรากำลังตั้งคำถามกับตัวเองมากที่สุดอย่างในตอนนี้ยังไงล่ะ