Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

วิธีรับมือกับอารมณ์ลบ ความคิดลบ ตามหลักจิตวิทยา

Posted By naminmin273 | 26 ธ.ค. 68
7 Views

  Favorite

อารมณ์ลบและความคิดลบ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ความเศร้า ความโกรธ ความรู้สึกผิด หรือการคิดวนซ้ำในเรื่องเดิม ๆ หากไม่รู้วิธีรับมืออย่างถูกต้อง อารมณ์เหล่านี้อาจสะสมจนกระทบต่อสุขภาพจิต การทำงาน และความสัมพันธ์ บทความนี้จะพาไปเรียนรู้วิธีรับมือกับอารมณ์ลบตามหลักจิตวิทยา ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง โดยไม่ต้องกดทับความรู้สึก และไม่ทำร้ายตัวเอง

อารมณ์ลบและความคิดลบ ต้องเข้าใจก่อนถึงรับมือได้

อารมณ์ลบ คือ ปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสมองรับรู้ภัย ความสูญเสีย หรือความไม่พอใจ เช่น ความเศร้าความโกรธ ความกลัว ความเครียด

ความคิดลบ คือรูปแบบความคิดที่ตีความเหตุการณ์ไปในทางร้าย เช่น โทษตัวเอง คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ คิดว่าทุกอย่างจะล้มเหลว ตามหลักจิตวิทยา อารมณ์ลบไม่ใช่ศัตรู แต่เป็น “สัญญาณ” ที่บอกว่าใจเราที่กำลังต้องการการดูแล

 

ทำไมยิ่งพยายามหนี อารมณ์ลบยิ่งแรงขึ้น

หลายคนเชื่อว่า หากไม่คิดถึงมันไม่พูดถึงมัน หรือทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ อารมณ์ลบจะค่อย ๆ หายไปเอง แต่ในทางจิตวิทยา กลับพบว่า การพยายามหนีหรือกดอารมณ์ลบ มักทำให้อารมณ์นั้นกลับมาแรงกว่าเดิม และควบคุมได้ยากขึ้น สาเหตุไม่ได้เกิดจากความอ่อนแอของเรา แต่เป็นกลไกการทำงานของสมองโดยตรง

สมองไม่ชอบการถูก “สั่งห้าม” เมื่อเราบอกตัวเองว่า “ห้ามคิด” “อย่ารู้สึกแบบนี้” สมองจะตีความว่า สิ่งนั้นคือ “ภัยคุกคาม” และยิ่งพยายามจับตาอารมณ์หรือความคิดนั้นมากขึ้น ตัวอย่างง่าย ๆ คือ เมื่อมีคนบอกว่า “อย่าคิดถึงช้างสีชมพู” สมองจะคิดถึงช้างสีชมพูทันที อารมณ์ลบก็ทำงานในลักษณะเดียวกัน

ทางออกไม่ใช่ “จมอยู่” แต่คือ “ยอมรับอย่างมีสติ” การยอมรับอารมณ์ ไม่ได้หมายความว่า ปล่อยให้มันครอบงำ คิดซ้ำ ๆ ทั้งวัน แต่หมายถึง การรับรู้ว่าอารมณ์นี้กำลังเกิดขึ้น อนุญาตให้มันอยู่ โดยไม่ตัดสิน แล้วค่อย ๆ ดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ซึ่งการทำเช่นนี้ช่วยให้เราสามารถอยู่กับอารมณ์ลบได้อย่างปลอดภัย

 

วิธีรับมือกับอารมณ์ลบ ความคิดลบ ตามหลักจิตวิทยา
1. แยกอารมณ์ ออกจากตัวตน

หนึ่งในเทคนิคสำคัญของจิตวิทยาคือ การตั้งชื่ออารมณ์ การระบุอารมณ์อย่างชัดเจน จะช่วยให้สมองส่วนเหตุผลทำงาน และลดความรุนแรงของอารมณ์ลง ว่าเราไม่ได้เป็นอารมณ์นั้น เราแค่กำลังรู้สึกแบบนั้น เช่น
- ตอนนี้ฉันกำลังโกรธ
- ตอนนี้ฉันกำลังเสียใจ
 

2. สังเกตความคิดลบ โดยไม่ต้องเชื่อทุกความคิด

ในทางจิตวิทยาความคิด ไม่ได้เท่ากับความจริงเสมอไป แต่เป็นเพียงเหตุการณ์ทางจิตใจ ที่เกิดขึ้นชั่วคราว หลายคนทุกข์ใจเพราะเผลอเชื่อความคิดลบโดยอัตโนมัติ เช่น การโทษตัวเอง การเหมารวม หรือการคาดเดาอนาคตในแง่ร้าย การฝึกสังเกตความคิด คือการถอยออกมาหนึ่งก้าว แล้วมองความคิดนั้นเหมือนเมฆที่ลอยผ่านฟ้า ไม่ต้องไล่มันไป และไม่ต้องวิ่งตามมัน เมื่อเราหยุดเชื่อทุกความคิด อารมณ์จะเริ่มเบาลง เพราะสมองไม่ถูกกระตุ้นซ้ำ ๆ จากความกลัวหรือการตัดสินตัวเอง

 

3. ใช้เทคนิค CBT เพื่อลดความคิดลบซ้ำ ๆ

CBT (Cognitive Behavioral Therapy) เป็นแนวคิดทางจิตวิทยาที่อธิบายว่า ความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมเชื่อมโยงกัน หากเราปรับวิธีคิด อารมณ์และการกระทำจะเปลี่ยนตาม คนที่มีความคิดลบซ้ำ ๆ มักติดอยู่ในวงจรเดิม เช่น คิดว่าตัวเองไม่ดี → รู้สึกแย่ → หลีกเลี่ยง → ยิ่งตอกย้ำความคิดเดิม การใช้เทคนิค CBT จะช่วยหยุดวงจรนี้ ด้วยการตั้งคำถามกับความคิดอัตโนมัติ ตัวอย่างการใช้ CBT
- ระบุความคิดลบที่เกิดขึ้น
- มองหาหลักฐานที่สนับสนุนและคัดค้านความคิดนั้น
- ปรับความคิดให้สมดุลขึ้น เช่น จาก “ฉันล้มเหลวเสมอ” เป็น “ฉันมีทั้งวันที่ทำได้ดีและวันที่พลาด”
การใช้เทคนิค CBT อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สมองสร้างรูปแบบความคิดใหม่ที่เป็นมิตรกับตัวเองมากขึ้น

 

4. อยู่กับปัจจุบัน ด้วย Mindfulness

ความคิดลบจำนวนมากไม่ได้เกิดจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า แต่เกิดจากการคิดถึงอดีตหรือกังวลกับอนาคต การฝึก Mindfulness คือการดึงจิตใจกลับมาอยู่กับ “ตอนนี้” อย่างอ่อนโยน Mindfulness ไม่ได้หมายถึงการหยุดคิด แต่คือการรับรู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น โดยไม่ตัดสิน เช่น รับรู้ลมหายใจ ความรู้สึกในร่างกาย หรือกิจกรรมที่กำลังทำ เมื่อเราฝึกอยู่กับปัจจุบัน สมองจะหยุดวนซ้ำ และระบบประสาทจะค่อย ๆ ผ่อนคลาย ลองฝึกง่าย ๆ ดังนี้
- โฟกัสลมหายใจ 3–5 นาที
- ทำกิจกรรมประจำวันอย่างมีสติ เช่น กิน เดิน อาบน้ำ
- สังเกตอารมณ์โดยไม่ต้องแก้ไขทันที

 

5. แสดงออกทางอารมณ์อย่างปลอดภัย

การเก็บอารมณ์ไว้คนเดียวอาจทำให้ความรู้สึกกดดันสะสม และระเบิดออกมาในรูปแบบที่ทำร้ายตัวเองหรือคนรอบข้าง การแสดงออกทางอารมณ์อย่างปลอดภัย คือการระบายโดยไม่ทำลายความสัมพันธ์หรือสุขภาพจิต การแสดงออกอย่างเหมาะสม ช่วยให้อารมณ์ไม่คั่งค้าง และทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น วิธีการระบายอารมณ์ที่เหมาะสม
- เขียนบันทึกความรู้สึก
- พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ
- ใช้ศิลปะ ดนตรี หรือการเคลื่อนไหวร่างกาย
- ออกกำลังกายเบา ๆ
 

6. ฝึกเมตตากับตัวเอง 

หลายคนรับมือกับความคิดลบด้วยการตำหนิตัวเอง ซึ่งยิ่งทำให้ความทุกข์เพิ่มขึ้น การฝึกเมตตากับตัวเอง  คือการปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความเข้าใจและอ่อนโยนเหมือนที่เราปฏิบัติกับคนที่เรารัก ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ
- ความเมตตาต่อตนเอง 
- การยอมรับว่าความทุกข์เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้ 
- การมีสติรับรู้อารมณ์ 
แทนที่จะถามว่า “ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้” ลองถามว่า “ตอนนี้ฉันต้องการอะไรเพื่อดูแลใจตัวเอง” การเมตตากับตัวเองไม่ทำให้เราอ่อนแอ แต่ทำให้ใจแข็งแรงขึ้นในระยะยาว

 

การรับมือกับอารมณ์ลบและความคิดลบตามหลักจิตวิทยา ไม่ใช่การกำจัดมันออกไป แต่คือการเข้าใจอยู่กับมันอย่างปลอดภัย และเรียนรู้ ทุกอารมณ์มีเหตุผลของการเกิดขึ้น และทุกคนสามารถฝึกดูแลใจตัวเองให้แข็งแรงขึ้นได้ทีละนิด

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • naminmin273
  • 0 Followers
  • Follow