6 Views
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการมีวันที่รู้สึกแย่ เศร้า เหนื่อย หรือไม่อยากทำอะไรไม่ใช่ความผิด และไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นสัญญาณธรรมชาติที่จิตใจต้องการการดูแล เช่นเดียวกับร่างกายที่ต้องพักเมื่อป่วย การยอมรับความรู้สึกของตัวเอง คือจุดเริ่มต้นสำคัญของการฟื้นฟูสุขภาพจิต
หลายคนพยายามฝืนเข้มแข็ง หรือบอกตัวเองว่า “อย่าคิดมาก” “คนอื่นแย่กว่าเราอีก” แต่ในทางจิตวิทยา การกดทับอารมณ์จะยิ่งทำให้ความเครียดสะสมมากขึ้น วิธีดูแลสุขภาพจิตที่ถูกต้อง
- ยอมรับว่าตอนนี้ตัวเรารู้สึกไม่โอเค
- ไม่จำเป็นต้องรีบแก้ไขทุกอย่างทันที การใช้เวลากับตัวเอง ทบทวนตัวเองแบบค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยให้จิตใจเราฟื้นฟูขึ้น ลองใช้การบอกตัวเองว่า “ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นได้ และมันจะค่อย ๆ ผ่านไป”
สุขภาพกายส่งผลต่อสุขภาพจิตโดยตรง หากร่างกายอ่อนล้า ใจก็จะอ่อนแรงตามไปด้วย แม้เป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่ช่วยให้สารเคมีในสมองกลับมาสมดุล และทำให้ตัวเราอารมณ์ดีขึ้นได้จริง สิ่งที่ตัวเราควรใส่ใจ
- นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 6–8 ชั่วโมง
- กินอาหารให้ครบ ไม่ปล่อยให้หิวหรือกินแต่ของหวาน
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน
- ขยับร่างกายเบา ๆ เช่น เดิน ยืดเส้น โยคะ
Mindfulness หรือ การมีสติอยู่กับปัจจุบัน คือการฝึกให้จิตใจรับรู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น “ตรงหน้า” โดยไม่ตัดสิน ไม่ผลักไส และไม่ดึงตัวเองไปจมอยู่กับอดีตหรือกังวลกับอนาคต ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเครียด ความคิดฟุ้งซ่าน และอารมณ์ลบ ในวันที่สุขภาพจิตไม่แข็งแรง การฝึก Mindfulness จะช่วยให้สมองได้พักจากความคิดวนซ้ำ และค่อย ๆ กลับเข้าสู่ภาวะสมดุล โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งยา วิธีฝึก Mindfulness แบบง่าย ที่ใครก็ทำได้
- โฟกัสที่ลมหายใจ : เริ่มต้นง่ายที่สุดด้วยการหายใจเข้า–ออกช้า ๆ หายใจเข้า รับรู้ว่าลมเข้าทางไหน หายใจออก รับรู้ว่าร่างกายผ่อนคลายตรงไหน ไม่ต้องควบคุมลมหายใจ แค่ “รู้ตัว” ว่ากำลังหายใจ เพียง 3–5 นาที ก็ช่วยให้ใจสงบลงได้
- อยู่กับกิจกรรมที่กำลังทำ : เลือกกิจกรรมธรรมดาในชีวิตประจำวัน เช่น อาบน้ำ ดื่มชา หรือกาแฟ เดิน ล้างหน้า ขณะทำให้โฟกัสกับสัมผัส กลิ่น เสียง และความรู้สึก โดยไม่เล่นโทรศัพท์หรือคิดเรื่องอื่น วิธีนี้ช่วยดึงจิตใจกลับมาอยู่กับปัจจุบันได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- สังเกตความคิด โดยไม่ต้องตามมันไป : เมื่อความคิดลบหรือความกังวลผุดขึ้น ไม่ต้องห้าม ไม่ต้องด่า หรือโทษตัวเอง แค่รับรู้ว่า “ตอนนี้กำลังคิด” แล้วค่อย ๆ พาความสนใจกลับมาที่ลมหายใจหรือร่างกาย วิธีนี้ช่วยลดอำนาจของความคิดที่ทำร้ายใจเรา
การเขียนเป็นเครื่องมือเยียวยาสุขภาพจิตที่ทรงพลังมาก เพราะช่วยจัดระเบียบความคิด และลดแรงกดดันภายในใจ ลองเริ่มเขียนอะไรก็ได้ง่าย ๆ เช่่น วันนี้รู้สึกอะไร, อะไรทำให้ใจเราคิดมาก คิดหนัก, ตอนนี้เราต้องการอะไรที่สุด และไม่ต้องให้ใครอ่าน แค่เขียนเพื่อเข้าใจตัวเอง ก็เพียงพอแล้ว
ในวันที่สุขภาพจิตไม่แข็งแรง การเสพข่าวร้ายหรือเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมากเกินไป จะยิ่งทำให้รู้สึกแย่ การปกป้องใจตัวเอง ไม่ใช่การหนีปัญหา แต่คือการดูแลตัวเองอย่างมีสติ ลองใช้วิธีดูแลใจ ดังนี้
- ลดเวลาหน้าจอลง Unfollow หรือ mute เนื้อหาที่กระทบใจ
- เลือกเสพคอนเทนต์ที่ให้พลังบวก หรือความรู้ทักษะที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง
บางครั้งการได้พูดออกมา โดยไม่ต้องมีคำแนะนำใด ๆ ก็ช่วยได้มาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนในครอบครัว หรือคนที่พร้อมฟัง ถ้าไม่มีใครใกล้ตัว การพูดคุยกับนักจิตวิทยาหรือสายด่วนสุขภาพจิต ก็เป็นอีกทางเลือกที่ปลอดภัย
ในบทความนี้จะเน้นการดูแลสุขภาพจิตโดยไม่ต้องพึ่งยารักษา แต่หากตัวเรามีอาการเหล่านี้ต่อเนื่อง ควรพบผู้เชี่ยวชาญ
- รู้สึกเศร้าหนัก ว่างเปล่า นานเกิน 2 สัปดาห์
- นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หรือไม่อยากใช้ชีวิต
- มีความคิดทำร้ายตัวเอง
การขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่คือความกล้าหาญในการดูแลตัวเอง