รายได้หลังเกษียณไม่ใช่เพียงเรื่องของเงิน แต่ยังหมายถึงคุณภาพชีวิต สุขภาพกาย สุขภาพใจ และความมั่นคงของครอบครัว หากไม่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า อาจทำให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่อง ต้องพึ่งพาลูกหลาน หรือเสี่ยงต่อหนี้สิน ดังนั้นการวางแผนลงทุนเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงจึงเป็นสิ่งจำเป็น
การมีรายได้หลังเกษียณสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท ซึ่งควรเลือกผสมผสานให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและเป้าหมายชีวิต
- บำนาญข้าราชการหรือบำนาญบริษัท
- เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
- เงินประกันสังคมกรณีชราภาพ
แม้จะเป็นรายได้ที่มั่นคง แต่ส่วนใหญ่ไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด จึงควรมีรายได้เสริมอื่นๆ เพิ่มเติม
- ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ
- พันธบัตรรัฐบาล
- กองทุนรวมตราสารหนี้
- หุ้นปันผล
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้เกษียณที่ต้องการความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง เพราะช่วยสร้าง passive income ได้สม่ำเสมอ
- การปล่อยเช่าบ้าน คอนโด หรือที่ดิน
- การลงทุนใน REITs (กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์)
แม้จะต้องมีเงินลงทุนก้อนใหญ่ แต่ถือเป็นวิธีสร้างรายได้หลังเกษียณที่ให้ผลตอบแทนต่อเนื่องและมักเติบโตตามค่าเช่า
- เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ
- ขายของออนไลน์
- ทำงานเสริมที่ถนัด เช่น สอนพิเศษ ทำงานฝีมือ
การทำธุรกิจช่วยให้ผู้เกษียณยังคงมีบทบาทในสังคม แต่ต้องเลือกงานที่ไม่หนักเกินไปและสอดคล้องกับสุขภาพ
- เขียนหนังสืออีบุ๊กแล้วขายออนไลน์
- ทำคอร์สเรียนออนไลน์
- สร้างช่อง YouTube หรือ Blog ที่สามารถสร้างรายได้จากโฆษณา
แม้จะใช้เวลาเตรียมการในช่วงแรก แต่หากทำได้สำเร็จ จะเป็นแหล่งรายได้หลังเกษียณที่สร้างผลตอบแทนยาวนาน
การลงทุนหลังเกษียณควรเน้นความปลอดภัย และผลตอบแทนที่สม่ำเสมอมากกว่าการหวังรวยเร็ว เพราะหากขาดทุนการฟื้นฟูกลับมาอาจทำได้ยาก แนวทางเลือกลงทุนที่เหมาะสม ได้แก่
- กระจายความเสี่ยงในหลายแหล่งรายได้ เช่น หุ้นปันผล + กองทุนตราสารหนี้ + อสังหาริมทรัพย์
- หลีกเลี่ยงการลงทุนที่เสี่ยงสูง เช่น หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น หรือคริปโตฯ ที่ผันผวนมาก
- ปรึกษาที่ปรึกษาการเงิน เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับเป้าหมายและอายุ
- เน้นการลงทุนที่มีสัญญารับประกันผลตอบแทน เช่น พันธบัตรรัฐบาล กองทุนรวมตลาดเงิน
- เลือกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
- ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เช่น สร้างรายได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์
- ปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะกับรายได้จริง เพราะการลดค่าใช้จ่ายคือการเพิ่มเงินเหลือใช้