- เป็นคนที่ทำได้หลายเรื่อง เช่น พูดได้หลายภาษา เล่นดนตรีเป็น ทำอาหารได้ ใช้เทคโนโลยีได้
- มีความรู้รอบกว้าง มากกว่าความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (specialist)
- มักถูกเปรียบว่า “รู้หลายเรื่องแต่ไม่สุดสักเรื่อง” แต่ในอีกมุมหนึ่งก็สามารถประยุกต์ความรู้จากหลายแขนงเพื่อแก้ปัญหาได้
1. ปรับตัวเก่ง
โลกเปลี่ยนเร็ว คนที่ทำได้หลายอย่างมีโอกาสรับมือสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้ดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น เมื่อต้องเปลี่ยนสายงาน ก็สามารถนำทักษะจากงานเก่ามาปรับใช้ได้
2. ทำงานได้หลากหลาย
คนเก่งแบบเป็ดสามารถรับผิดชอบงานหลายด้านพร้อมกัน ในองค์กรเล็ก ๆ หรือสตาร์ทอัพ คนเก่งแบบเป็ดจึงเป็นที่ต้องการมาก
3. มีมุมมองกว้าง
การรู้รอบหลายด้านทำให้เข้าใจปัญหาได้จากหลายมิติ สิ่งนี้ช่วยให้คิดแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์และครบถ้วน
4. เป็นตัวเชื่อมระหว่างทีม
เมื่อทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่าย คนเก่งแบบเป็ดสามารถสื่อสารและประสานงานได้ดี ทำให้ทีมทำงานได้ราบรื่นขึ้น
5. ไม่ตกงานง่าย
เพราะมีทักษะหลายด้าน หากงานหนึ่งหายไปยังสามารถโยกไปทำงานอื่นได้ ถือเป็นความปลอดภัยในอาชีพเลยก็ว่าได้
1. ขาดความเชี่ยวชาญลึก
มักถูกมองว่า “เก่งแต่ไม่สุด” ในบางสายงานที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญลึก คนเก่งแบบเป็ดอาจเสียเปรียบ
2. อาจรู้สึกด้อยค่าเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญ
บางครั้งคนเก่งแบบเป็ดอาจเปรียบเทียบตัวเองกับคนที่เก่งเฉพาะด้าน แล้วรู้สึกว่าไม่โดดเด่นพอ
3. งานบางประเภทไม่เหมาะสม
เช่น งานวิจัย งานแพทย์เฉพาะทาง หรืองานวิศวกรรมระดับสูง ที่ต้องใช้ทักษะลึกเฉพาะด้าน หากเป็นคนเก่งแบบเป็ดเพียงอย่างเดียวอาจไปได้ไม่ไกล
4. เสี่ยงต่อการ ทำหลายอย่างแต่ไม่สำเร็จสักเรื่อง
ถ้าไม่โฟกัส อาจทำให้พัฒนาทักษะไม่สุดสักด้าน ส่งผลให้เสียเวลาและไม่ก้าวหน้าในสายอาชีพ
5. ต้องใช้พลังใจมากในการแข่งขัน
ในบางวงการคนที่เก่งรอบด้าน อาจต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ต่างจากผู้เชี่ยวชาญที่มีจุดขายชัดเจนอยู่แล้ว
คำตอบขึ้นอยู่กับมุมมองและเป้าหมายของชีวิต หากถามว่าเป็นคนเก่งแบบเป็ด ดีหรือไม่ ต้องบอกว่า “ดีและไม่ดีไปพร้อมกัน”
ถ้าคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องการคนทำงานรอบด้าน เช่น ธุรกิจขนาดเล็ก สตาร์ทอัพ หรือสายงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ คนเก่งแบบเป็ดถือว่ามีคุณค่ามาก
แต่ถ้าคุณอยู่ในวงการที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญลึก เช่น การแพทย์ กฎหมาย วิศวกรรมเฉพาะทาง อาจต้องพัฒนาตัวเองเชิงลึกเพิ่ม
- เลือกพัฒนาทักษะให้เป็น : รู้รอบกว้างหลายเรื่อง แต่มีอย่างน้อยหนึ่งเรื่องที่เชี่ยวชาญลึก
- เน้น Soft Skills : เช่น การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดแข็งของคนเก่งแบบเป็ด
- สร้าง Personal Branding : แสดงให้คนอื่นเห็นคุณค่าในความเป็นคนที่ทำได้หลายอย่าง
- อัปสกิลตามเทรนด์ใหม่ : เช่น AI, Digital Marketing, Data Analytics เพื่อให้ทันโลก
- ผู้จัดการโครงการ (Project Manager) : ต้องเข้าใจหลายฝ่ายและประสานงานได้
- ผู้ประกอบการ/สตาร์ทอัพ : ต้องทำทุกอย่างตั้งแต่คิดธุรกิจจนถึงทำการตลาด
- นักการตลาดดิจิทัล : ใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์ การวิเคราะห์ข้อมูล และการใช้เทคโนโลยี
- ที่ปรึกษา (Consultant) : ต้องประเมินปัญหาและเชื่อมโยงความรู้หลายด้าน
- คอนเทนต์ครีเอเตอร์ : ต้องวางแผน คิดไอเดีย เขียน ทำกราฟิก และสื่อสารกับผู้ติดตาม