- การเรียนหนัก เนื้อหาที่ซับซ้อน การบ้านและงานกลุ่มจำนวนมาก
- แรงกดดันจากการสอบ กลัวทำได้ไม่ดี
- การเปรียบเทียบ เห็นเพื่อนเก่งกว่า ทำคะแนนได้ดีกว่า
- ความคาดหวังจากสังคมและครอบครัว ถูกตั้งความหวัง ผลักดันให้เรียนดีเพื่ออนาคตของครอบครัว
- ปัญหาส่วนตัว ความสัมพันธ์กับเพื่อน ครอบครัวที่ไม่ดี
เมื่อสาเหตุต่าง ๆ รวมกัน อาจทำให้เด็กนักเรียนรู้สึกหมดพลังใจ และนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าในเด็กนักเรียนได้
ปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเริ่มจากความเครียดเล็ก ๆ แล้วลุกลามจนส่งผลต่อการใช้ชีวิต โดยมีลักษณะสำคัญคือ
- รู้สึกเศร้า สิ้นหวัง ไม่อยากทำกิจกรรมที่เคยสนุก
- ขาดสมาธิ ไม่อยากเรียนหรือทำการบ้าน
- นอนไม่หลับ หรือหลับมากผิดปกติ
- มีอาการเหนื่อยล้า ไม่มีแรง
- อารมณ์หงุดหงิดง่าย
- บางรายอาจมีความคิดด้านลบต่อตนเอง
ภาวะเหล่านี้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น “ความดื้อ” หรือ “ความไม่ตั้งใจเรียน” แต่จริง ๆ แล้วคือสัญญาณที่เด็กต้องการความช่วยเหลือ
- ผลการเรียนตกลงอย่างชัดเจน
- เก็บตัว ไม่อยากเข้าสังคม
- ร้องไห้หรือหงุดหงิดบ่อย
- ใช้เวลามากกับมือถือ หรือเกมเพื่อหลีกหนี
- มีปัญหาสุขภาพกาย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โดยไม่พบสาเหตุทางกาย
การสังเกตเร็วและให้การสนับสนุน จะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปสู่ภาวะที่รุนแรง
ความวิตก กังวล ปัญหายอดฮิตของวัยเรียน
หนึ่งในปัญหาที่นักเรียนจำนวนมากต้องเผชิญคือ ความกังวลก่อนสอบ บางคนถึงขั้นนอนไม่หลับ มือสั่น หรือจำเนื้อหาไม่ได้เมื่อเจอข้อสอบ ซึ่งทำให้ผลสอบไม่ตรงกับศักยภาพจริง ดังนั้น การเรียนรู้วิธีลดความวิตกกังวลจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงช่วยให้สอบได้ดีขึ้น แต่ยังทำให้สุขภาพจิตสมดุลมากขึ้น
1. จัดตารางอ่านหนังสืออย่างเหมาะสม
การอ่านกระชับเป็นช่วงเวลา (Pomodoro Technique) จะช่วยให้สมองจำได้ดีกว่าการอ่านยาว ๆ แบบหักโหม
2. ฝึกทำข้อสอบเก่า
การทำข้อสอบย้อนหลังจะช่วยให้คุ้นเคยกับรูปแบบคำถาม ลดความตื่นตระหนกในห้องสอบ
3. นอนหลับให้พอ
การนอนหลับมีผลโดยตรงต่อความจำและสมาธิ เด็กที่พักผ่อนเพียงพอจะควบคุมอารมณ์และความเครียดได้ดีกว่า
4. ฝึกหายใจและผ่อนคลาย
การทำสมาธิ หรือหายใจเข้าลึก ๆ ช้า ๆ ก่อนสอบ จะช่วยให้จิตใจสงบลง
5. กำลังใจจากครอบครัวและเพื่อน
คำพูดสนับสนุนง่าย ๆ เช่น “ทำดีที่สุดแล้ว” สามารถลดความกดดันได้อย่างมาก