Sololearn เป็นแอปเรียนโค้ดดิ้งที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก มียอดผู้ใช้งานกว่า 35 ล้านคน จุดเด่นคือบทเรียนแบบ Interactive ที่เรียนง่ายแม้ไม่มีพื้นฐาน ผู้เรียนสามารถเลือกภาษาได้หลากหลาย เช่น Python, JavaScript, HTML, CSS, SQL และที่สำคัญคือมี Editor ในตัวแอป สามารถลองเขียนโค้ดได้ทันที
ฟีเจอร์เด่น
- บทเรียนสั้น กระชับ เข้าใจง่าย
- มีแบบฝึกหัด + quiz ทดสอบความเข้าใจ
- ระบบ Community ให้แชร์ผลงานและถามตอบกับผู้ใช้ทั่วโลก
- Challenge แข่งกับเพื่อน ๆ แบบเกม เพิ่มความสนุก
เหมาะกับใคร
- ผู้เริ่มต้นที่ไม่เคยเขียนโค้ด
- คนที่อยากฝึกทำโปรเจกต์เล็ก ๆ
- นักเรียน นักศึกษา ที่อยากเรียนโค้ดเสริมจากห้องเรียน
หลังจากเรียนพื้นฐาน สามารถใช้ต่อยอดไปสู่การทำ โปรเจกต์เว็บเล็ก ๆ, เขียน Script อัตโนมัติ, หรือพัฒนาทักษะเพื่อเรียน Data Science/AI ต่อได้
Programming Hub เป็นแอปที่ Google ยกให้เป็น “Editor’s Choice” มียอดดาวน์โหลดกว่า 10 ล้านครั้ง จุดเด่นคือมี ตัวอย่างโค้ดกว่า 5,000 โปรแกรม ครอบคลุมหลายภาษา เช่น C, C++, Java, Python, JavaScript
ฟีเจอร์เด่น
- มีบทเรียน + ตัวอย่างโค้ดจริงให้ลอง
- Compiler เร็ว ใช้งานได้แม้ในมือถือ
- อินเทอร์เฟซใช้ง่าย มี Infographic อธิบายโค้ด
- คอร์สให้เลือกหลากหลาย เช่น Data Science, Web Development, App Development
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่อยากเห็นโค้ดจริงและทำตามได้ทันที
- คนที่ชอบเรียนหลายภาษาเพื่อเทียบความแตกต่าง
- Developer มือใหม่ที่ต้องการคู่มือย่อไว้ใช้เวลาโค้ด
สามารถใช้สร้าง Prototype แอป/เว็บเล็ก ๆ และเก็บโค้ดไว้เป็น “คลังโค้ดส่วนตัว” ใช้ต่อยอดในงานจริงได้
Mimo เป็นแอปที่ออกแบบมาให้การเรียนโค้ดเหมือนการเล่นเกม ใช้ระบบ Gamification ทำให้ผู้ใช้สนุกไปกับการเรียน และยังเป็นแอปที่ติด Top Coding Apps ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ฟีเจอร์เด่น
- บทเรียนเป็น Step-by-Step สั้น ๆ ทำได้ทุกวัน
- มีการให้ XP และ Level Up เพื่อเพิ่มแรงจูงใจ
- รองรับภาษา Python, HTML, CSS, JavaScript
- มี “Daily Goals” กำหนดเป้าหมายการเรียนได้
เหมาะกับใคร
- คนที่ไม่ชอบเรียนแบบยาว ๆ
- ผู้เริ่มต้นที่อยากเรียนสนุกเหมือนเล่นเกม
- คนที่อยากใช้เวลาว่างวันละ 5-10 นาทีให้เกิดประโยชน์
ช่วยปูพื้นฐานการเขียนโปรแกรม แล้วต่อยอดไปเรียนคอร์สออนไลน์ระดับสูง เช่น Web Development, Data Analytics ได้
Grasshopper ถูกสร้างโดย Google เน้นสอน JavaScript ซึ่งเป็นภาษาหลักในการทำเว็บแอปพลิเคชัน จุดเด่นคือใช้ง่ายเหมาะกับผู้ที่เริ่มจากศูนย์
ฟีเจอร์เด่น
- บทเรียนสั้น ใช้เวลาไม่นาน
- มี Puzzle + เกม ให้แก้โจทย์สนุก ๆ
- เหมาะกับเด็ก มัธยม มหาลัย และผู้ใหญ่ที่อยากเริ่มใหม่
- อินเทอร์เฟซสดใส ใช้มือถือเรียนได้ทุกที่
เหมาะกับใคร
- ผู้ที่อยากเริ่มเขียนเว็บแต่ไม่รู้ภาษาไหนดี
- ครู/นักเรียน ที่ใช้เป็นสื่อการเรียนในห้องเรียน
- คนที่ต้องการเรียนโค้ดแบบไม่เครียด
หลังเรียนพื้นฐาน JavaScript แล้ว สามารถต่อยอดไปทำ Front-end Development เช่น React หรือ Vue ได้
Enki เน้นการเรียนโค้ดแบบ Daily Learning คล้าย Duolingo แต่เป็นเวอร์ชันโค้ด เน้นบทเรียนสั้น ๆ + Quiz ให้ทำทุกวัน
ฟีเจอร์เด่น
- Daily Quiz + Practice
- มีบทความและเทคนิคโค้ดใหม่ ๆ อัปเดตทุกวัน
- เรียนภาษา Python, JavaScript, SQL, Git ฯลฯ
- Dashboard ติดตามความก้าวหน้าได้
เหมาะกับใคร
- คนที่อยากฝึกโค้ดวันละนิด
- Developer ที่อยากทบทวนพื้นฐาน
- ผู้ที่อยากเรียนโค้ดพร้อมกับเรียน Data/Database
ช่วยให้ผู้เรียนติดนิสัยฝึกเขียนโค้ดประจำทุกวัน ทำให้พัฒนาทักษะยั่งยืน ใช้เป็นเสริมคู่กับการเรียนหลักสูตรออนไลน์ใหญ่ ๆ ได้