การเริ่มต้นชีวิตการทำงานถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการวางรากฐานทางการเงินที่มั่นคง การมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะเก็บเงินยังไงให้ไปถึงเป้าหมายใน 3 ปีแรกของการทำงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วงเวลานี้เป็นโอกาสทองที่เรามีภาระทางการเงินยังไม่มากนัก ทำให้มีศักยภาพในการออมและลงทุนสูง บทความนี้จะพาไปสำรวจเทคนิคและหลักการสำคัญที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์รถ ดาวน์บ้าน หรือมีเงินเก็บก้อนแรก
สิ่งแรกที่ต้องทำคือการ ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเป็นไปได้ (SMART Goal) คือ Specific (เจาะจง), Measurable (วัดผลได้), Achievable (ทำได้จริง), Relevant (เกี่ยวข้อง), และ Time-bound (มีกรอบเวลา) เช่น แทนที่จะบอกว่า "จะเก็บเงินให้ได้เยอะๆ" ให้เปลี่ยนเป็น "จะเก็บเงินให้ได้ 300,000 บาท เพื่อดาวน์รถในอีก 3 ปีข้างหน้า" เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว คุณจะสามารถคำนวณได้ว่าในแต่ละเดือนคุณต้องเก็บเงินเท่าไหร่เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
1. ออมก่อนใช้ (Pay Yourself First) นี่คือหลักการที่นักการเงินทุกคนแนะนำ แทนที่จะรอให้ใช้จ่ายก่อนแล้วค่อยเก็บเงินที่เหลือ ให้เปลี่ยนมาเป็นการหักเงินออมเข้าบัญชีทันทีที่เงินเดือนเข้า โดยอาจจะตั้งเป้าหมายเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน เช่น 10-20% และตั้งค่าให้ธนาคารโอนเงินอัตโนมัติในวันเงินเดือนออก การทำเช่นนี้จะช่วยให้มีเงินเก็บอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก
2. แยกบัญชีให้ชัดเจน การแยกบัญชีจะช่วยให้การบริหารเงินของคุณเป็นระบบมากขึ้น ลองเปิดบัญชีธนาคาร 3 บัญชี
บัญชีรายรับ-รายจ่าย : สำหรับรับเงินเดือนและใช้จ่ายค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในแต่ละวัน
บัญชีเงินออม : สำหรับเก็บเงินเพื่อเป้าหมายระยะสั้น-กลาง
บัญชีลงทุน : สำหรับเก็บเงินเพื่อการลงทุนระยะยาว
การแยกบัญชีจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณนำเงินออมไปใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น และยังช่วยให้เห็นภาพรวมของการเงินได้ชัดเจน
3. จัดทำงบประมาณและควบคุมรายจ่าย การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นประจำจะช่วยให้รู้ว่าเงินของเราหมดไปกับอะไรบ้างในแต่ละเดือน เมื่อเห็นภาพรวมแล้วก็จะสามารถหาจุดที่ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้ เช่น การลดค่าอาหารนอกบ้าน การลดค่ากาแฟ หรือการลดการซื้อของที่ไม่จำเป็น การควบคุมรายจ่ายเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะช่วยเพิ่มเงินออมของคุณได้เป็นกอบเป็นกำ
นอกจากรายได้หลักแล้ว การ สร้างรายได้เสริม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ในยุคดิจิทัลนี้มีช่องทางมากมายในการสร้างรายได้เสริม เช่น
ทำงานพิเศษ (Freelance) ใช้ทักษะที่มีอยู่แล้ว เช่น การเขียน การออกแบบ หรือการแปลภาษา เพื่อรับงานฟรีแลนซ์ในช่วงวันหยุดหรือนอกเวลาทำงาน
ขายของออนไลน์ หากมีความสนใจในการค้าขาย ลองเริ่มต้นขายของออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่างๆ
ลงทุนในความรู้ การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่เป็นที่ต้องการของตลาด เช่น การเขียนโค้ด หรือการตลาดดิจิทัล จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหารายได้เสริมและยังเป็นการลงทุนในตัวเองไปในตัว
ท้ายที่สุดแล้ว การเก็บเงินให้ไปถึงเป้าหมายใน 3 ปีแรกของการทำงานไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ต้องอาศัยวินัย ความตั้งใจ และการวางแผนที่ดี การเริ่มต้นด้วยก้าวเล็กๆ ตั้งแต่วันนี้จะช่วยให้คุณมีรากฐานทางการเงินที่มั่นคง และสามารถทำตามความฝันต่างๆ ได้อย่างที่ตั้งใจไว้
แหล่งข้อมูล