Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

วิธีบริหารเวลาให้ดีตั้งแต่วันแรกของการทำงาน

Posted By channi kang | 11 ก.ย. 68
8 Views

  Favorite


การก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของทุกคน การเริ่มต้นที่ดีย่อมส่งผลต่อความสำเร็จในระยะยาว และหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดที่ควรมีตั้งแต่วันแรกของการทำงานคือ วิธีบริหารเวลาให้ดี การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณทำงานเสร็จตามเป้าหมาย แต่ยังช่วยลดความเครียด สร้างความน่าเชื่อถือ และทำให้คุณก้าวหน้าในสายอาชีพได้อย่างรวดเร็ว บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเทคนิคและหลักการสำคัญที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นการทำงานด้วยการบริหารเวลาที่เป็นเลิศ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคต

สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจคือ การบริหารเวลาไม่ได้หมายถึงการเร่งรีบทำงานให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่คือการจัดลำดับความสำคัญของงานอย่างชาญฉลาดและใช้เวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “ทำสิ่งที่สำคัญก่อน” ซึ่งเป็นหลักการที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ลองใช้หลักการนี้เป็นเข็มทิศในการวางแผนงานในแต่ละวัน โดยการจัดหมวดหมู่ของงานออกเป็น 4 ประเภท คือ 

1) สำคัญและเร่งด่วน (ทำทันที)
2) สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน (วางแผนไว้)
3) ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน (มอบหมายให้คนอื่นถ้าทำได้)
4) ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน (ไม่ต้องทำ)

การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราโฟกัสกับงานที่มีผลกระทบสูงต่อองค์กรและเป้าหมายของคุณ

หลังจากที่จัดลำดับความสำคัญของงานแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ วางแผนงานในแต่ละวัน ในช่วงเช้าก่อนเริ่มงาน ลองใช้เวลาสัก 10-15 นาทีในการเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำ (To-Do List) สำหรับวันนั้นๆ การเขียนรายการออกมาจะช่วยให้เห็นภาพรวมของงานทั้งหมด และยังเป็นการช่วยลดความกังวลว่าจะมีงานไหนตกหล่นไปหรือไม่ นอกจากนี้ การเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำยังช่วยให้รู้สึกถึงความสำเร็จเมื่อคุณได้ขีดฆ่างานที่ทำเสร็จแล้วออกไปในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำงานได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งเทคนิคที่มีประสิทธิภาพคือ การใช้เทคนิค Pomodoro ซึ่งเป็นการแบ่งเวลาทำงานออกเป็นช่วงๆ โดยแต่ละช่วงจะใช้เวลา 25 นาที ตามด้วยการพักสั้นๆ 5 นาที และเมื่อทำครบ 4 ช่วง ให้พักนานขึ้น 15-30 นาที เทคนิคนี้ช่วยให้โฟกัสกับงานได้อย่างเต็มที่ในแต่ละช่วงเวลา และยังช่วยป้องกันความเหนื่อยล้าจากการทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน นอกจากนี้ การพักสั้นๆ ยังช่วยให้สมองได้พักผ่อนและเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในรอบต่อไป

นอกเหนือจากเทคนิคเหล่านี้แล้ว การกำหนดเวลาที่เหมาะสมให้กับงานแต่ละชิ้น ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การประเมินเวลาที่ต้องใช้ในการทำงานแต่ละอย่างอย่างสมเหตุสมผลจะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น และยังช่วยป้องกันปัญหาการทำงานไม่เสร็จตามกำหนด การกำหนดเวลาที่เหมาะสมยังช่วยให้คุณมีเวลาเหลือสำหรับงานที่ไม่คาดคิดที่อาจจะเข้ามาในระหว่างวัน

อย่างไรก็ตาม การบริหารเวลาไม่ได้เป็นเรื่องของการทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึง การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธงานที่ไม่จำเป็น ในบางครั้งเราอาจได้รับมอบหมายงานที่อยู่นอกเหนือขอบเขตความรับผิดชอบ หรือเป็นงานที่ไม่ได้มีความสำคัญต่อเป้าหมาย การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธอย่างสุภาพและมีเหตุผลจะช่วยให้คุณมีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญจริงๆ มากขึ้น และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดลำดับความสำคัญของเราอีกด้วย

 

ท้ายที่สุดแล้ว การรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การทำงานหนักไม่ได้แปลว่าเราจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอไป การให้เวลาตัวเองได้พักผ่อน ได้ทำกิจกรรมที่ชอบ หรือได้ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง จะช่วยให้กลับมาทำงานด้วยพลังงานที่เต็มเปี่ยมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การบริหารเวลาที่ดีจึงไม่ใช่เพียงแค่การบริหารงาน แต่เป็นการบริหารชีวิตของคุณให้มีความสุขและสมดุลในทุกๆ ด้าน เพื่อให้คุณสามารถก้าวเดินในเส้นทางอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

 

แหล่งข้อมูล

การบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Time Management) 

5 เทคนิคบริหารวันแสนยุ่งฉบับซุปเปอร์มนุษย์เงินเดือน 

10 เทคนิคบริหารเวลาแบบมืออาชีพ 

 
เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • channi kang
  • 0 Followers
  • Follow