ในยุคที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ การแข่งขัน และแรงกดดันมากมาย การตามหา "ความสุข" ในชีวิตประจำวันอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่ท้าทาย หลายคนเชื่อว่าความสุขคือปลายทางที่ต้องวิ่งไขว่คว้า หรือขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ แต่แท้จริงแล้ว ความสุขที่ยั่งยืนเริ่มต้นจากภายใน และถูกหล่อหลอมขึ้นจากนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่เราปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน เราอาจเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนถึงดูมีความสุขอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรก็ตาม? บทความนี้จะเปิดเผย 7 นิสัยของคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกวัน พร้อมเจาะลึกถึงแก่นแท้ของแต่ละนิสัย และชี้ให้เห็นว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพียงเล็กน้อย สามารถนำพาคุณไปสู่ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความพึงพอใจ และความสงบในใจได้อย่างไร เพื่อให้ได้ค้นพบเส้นทางสู่การเป็นคนที่มีความสุขในแบบของตัวเอง

ทำความเข้าใจความสุข

ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่สถานะถาวรที่ปราศจากความเศร้าหรือความยากลำบาก แต่เป็นความสามารถในการรับมือกับความท้าทายด้วยทัศนคติเชิงบวก การชื่นชมสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต และการสร้างความหมายให้กับทุกๆ วัน คนที่มีความสุขไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่มีปัญหา แต่หมายถึงพวกเขามีนิสัยบางอย่างที่ช่วยให้จัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้ดี และยังคงมองเห็นความงดงามในชีวิต นิสัยเหล่านี้ไม่ใช่พรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นทักษะที่สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้ หากเราตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลง และนี่คือ 7 นิสัยสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวเข้าสู่การเป็นคนที่มีความสุขในทุกๆ วัน

7 นิสัยของคนที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกวัน

1. ฝึกสำนึกในบุญคุณ (Practice Gratitude) 

นี่คือนิสัยพื้นฐานและทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่ง คนที่มีความสุขมักจะใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อสำนึกในบุญคุณของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม
- เขียนบันทึกขอบคุณ (Gratitude Journal) ทุกวันก่อนนอน หรือในตอนเช้า ลองจดสิ่งดีๆ 3-5 อย่างที่รู้สึกขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เช่น สุขภาพที่ดี หรือเรื่องเล็กน้อย เช่น แสงแดดยามเช้า กาแฟแก้วโปรด หรือรอยยิ้มจากคนแปลกหน้า
- แสดงความขอบคุณ บอกหรือแสดงออกถึงความขอบคุณกับคนรอบข้างบ่อย การโฟกัสกับสิ่งดีๆ ช่วยปรับมุมมองของสมองให้มองเห็นด้านบวกมากขึ้น ลดความคิดลบ และเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจในชีวิต

2. โอบรับการเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้จากความล้มเหลว (Embrace Change & Learn from Failure)

คนที่มีความสุขไม่ได้กลัวความล้มเหลวหรือการเปลี่ยนแปลง พวกเขามองว่าสิ่งเหล่านี้คือโอกาสในการเติบโตและเรียนรู้
- มองความล้มเหลวเป็นบทเรียน เมื่อเจออุปสรรคหรือความผิดพลาด แทนที่จะจมอยู่กับความรู้สึกแย่ ให้ถามตัวเองว่า "ฉันเรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้ได้บ้าง?"
- เปิดใจกับสิ่งใหม่ ลองทำสิ่งที่ไม่คุ้นเคย ออกจาก Comfort Zone บ้าง เพื่อเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และพัฒนาตัวเอง
การโอบรับการเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้จากความล้มเหลวจะช่วยให้มีความยืดหยุ่นทางจิตใจ (Resilience) สามารถฟื้นตัวจากความยากลำบากได้เร็วขึ้น และมองเห็นโอกาสในทุกสถานการณ์

3. ใช้เวลากับคนที่คุณรักและมีความสุข (Spend Time with Loved Ones)

ความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรอบข้าง คือหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญที่สุดของความสุข
​- จัดสรรเวลาให้คนสำคัญ กำหนดเวลาในตารางชีวิตเพื่อใช้กับคนที่คุณรักอย่างมีคุณภาพ ไม่ว่าจะโทรศัพท์หากัน ไปทานอาหาร หรือทำกิจกรรมร่วมกัน
- สร้างความสัมพันธ์ที่ดี ตั้งใจฟังผู้อื่นอย่างแท้จริง แสดงความเห็นอกเห็นใจ และให้การสนับสนุน
การมีเครือข่ายทางสังคมที่แข็งแกร่งช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว เพิ่มความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และเป็นแหล่งสนับสนุนทางอารมณ์

4. ดูแลสุขภาพกายและใจ (Prioritize Physical & Mental Health)

ร่างกายและจิตใจมีความเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก การดูแลทั้งสองส่วนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสุขที่ยั่งยืน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยลดความเครียด เพิ่มพลังงาน และกระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุข (Endorphins)
- กินอาหารที่มีประโยชน์ เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานที่เพียงพอและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- นอนหลับให้เพียงพอ ตั้งเป้าหมายนอน 7-9 ชั่วโมงต่อคืน และสร้างสุขอนามัยการนอนที่ดี
- ฝึกสติ/สมาธิ ใช้เวลาเพียง 5-10 นาทีต่อวันเพื่อฝึกสมาธิ หรืออยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ เพื่อลดความฟุ้งซ่านและความเครียด
ร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจที่สงบคือรากฐานของพลังงานและความสุขในทุกๆ วัน

5. ตั้งเป้าหมายที่มีความหมายและลงมือทำ (Set Meaningful Goals & Take Action)

คนที่มีความสุขมักจะมีเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ และมีความมุ่งมั่นที่จะลงมือทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้น
- กำหนดเป้าหมายที่จับต้องได้ ตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกับคุณค่าและความปรารถนาของคุณเอง
- แบ่งเป้าหมายใหญ่ให้เป็นเป้าหมายย่อย ทำให้ดูไม่น่ากลัวและง่ายต่อการเริ่มต้น
- ลงมือทำทีละน้อย ไม่ต้องรอให้พร้อม 100% แค่เริ่มต้นทำทีละก้าวเล็กๆ
การมีความหมายและเป้าหมายในชีวิตช่วยให้เรามีทิศทาง มีแรงจูงใจ และรู้สึกเติมเต็มเมื่อทำสิ่งต่างๆ สำเร็จ

6. ช่วยเหลือผู้อื่น (Help Others)

การให้และช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นวิธีหนึ่งที่นำมาซึ่งความสุขและความพึงพอใจอย่างลึกซึ้ง
- อาสาช่วยเหลืองานต่างๆ ไม่ว่าจะช่วยเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว หรือองค์กรการกุศล
- แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ แนะนำหรือให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่ต้องการ
- ทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เปิดประตูให้คนอื่น ยิ้มให้คนแปลกหน้า
การช่วยเหลือผู้อื่นกระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุข ทำให้รู้สึกเชื่อมโยงกับสังคม และเพิ่มความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง

7. จำกัดการเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น (Limit Social Comparison)

ในยุคของโซเชียลมีเดีย การเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นกลายเป็นเรื่องง่าย แต่ก็เป็นสาเหตุสำคัญของความไม่พอใจและความทุกข์
- โฟกัสที่เส้นทางของตัวเอง ตระหนักว่าทุกคนมีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกัน ไม่มีความจำเป็นต้องเปรียบเทียบความสำเร็จหรือความสุขกับผู้อื่น
- ลดการเสพโซเชียลมีเดีย จำกัดเวลาการใช้งาน หรือเลือกติดตามเฉพาะบัญชีที่สร้างแรงบันดาลใจและให้พลังงานบวก
- เปรียบเทียบกับตัวเองในอดีต หันมาเปรียบเทียบความก้าวหน้าของตัวเองกับตัวคุณในอดีต จะช่วยให้เห็นการเติบโตและรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น
ลดเปรียบเทียบตัวเอง ลดความรู้สึกด้อยค่า ความอิจฉา และเพิ่มความพึงพอใจในชีวิตของตัวเอง

การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทุกวันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลผลิตจากการสร้างและฝึกฝนนิสัยที่ดีอย่างสม่ำเสมอ นิสัยทั้ง 7 ข้อนี้คือแผนที่นำทางที่จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางสู่ความสุขที่ยั่งยืนได้ หากคุณพร้อมที่จะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง ลองเลือกนิสัยที่คุณรู้สึกว่าทำได้ง่ายที่สุดสัก 1-2 ข้อ แล้วลงมือทำตั้งแต่วันนี้ การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน จะค่อยๆ สะสมและนำพาคุณไปสู่ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข ความสงบ และความหมายอย่างแท้จริง

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
5 นิสัยง่ายๆ ที่ช่วยให้เรารักษาความสุขได้มากขึ้น
Four habits of happy people – as recommended by a psychologist
7 นิสัยที่จะทำให้ทุกวันของคุณมีความสุข