การใช้ "Law of Attraction" (กฎแรงดึงดูด) คือ การทำความเข้าใจและนำหลักการที่ว่า "สิ่งที่เราคิดและรู้สึก จะดึงดูดสิ่งเหล่านั้นเข้ามาในชีวิต" มาประยุกต์ใช้เพื่อเนรมิตความปรารถนาให้เป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จทางการงาน ความสัมพันธ์ที่ดี สุขภาพที่แข็งแรง หรือความมั่งคั่งร่ำรวย กฎแรงดึงดูดไม่ใช่เวทมนตร์หรือการนั่งรอคอย แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจ การลงมือทำ และการปรับคลื่นพลังงานของตนเองให้สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการ บทความนี้จะเจาะลึกถึงหลักการสำคัญและ วิธีใช้ Law of Attraction อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้เราสามารถดึงดูดสิ่งที่ปรารถนาเข้ามาในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักการของ Law of Attraction ไม่ได้เป็นแนวคิดใหม่ แต่เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงในหลายวัฒนธรรมและปรัชญาโบราณ ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากหนังสือและภาพยนตร์ "The Secret" กฎนี้ทำงานบนพื้นฐานที่ว่าทุกสิ่งในจักรวาลล้วนประกอบด้วยพลังงาน และพลังงานที่คล้ายกันย่อมดึงดูดซึ่งกันและกัน
- ความคิดคือพลังงาน ทุกความคิดที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบ ล้วนเป็นพลังงานที่มีแรงสั่นสะเทือน เมื่อเราคิดถึงสิ่งใดซ้ำๆ พลังงานนั้นจะถูกส่งออกไปในจักรวาล
- ความรู้สึกคือตัวเร่ง ความรู้สึกของเราเป็นตัวขยายพลังงานของความคิด ความรู้สึกที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความรัก หรือความกลัว จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังจักรวาล
- จักรวาลตอบสนอง จักรวาลจะตอบสนองต่อพลังงานที่เราส่งออกไป และดึงดูดสิ่งที่มีคลื่นความถี่ใกล้เคียงกันกลับคืนมาสู่เรา
ดังนั้น หากเราสามารถควบคุมความคิดและความรู้สึกให้สอดคล้องกับสิ่งที่ปรารถนา เราก็จะสามารถดึงดูดสิ่งเหล่านั้นเข้ามาในชีวิตได้
การใช้ Law of Attraction อย่างมีประสิทธิภาพต้องอาศัยการฝึกฝนและวินัยใน 7 ขั้นตอนหลักนี้
นี่คือขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด เพราะจักรวาลไม่สามารถตอบสนองความปรารถนาที่ไม่ชัดเจนได้
- เฉพาะเจาะจง แทนที่จะบอกว่า "ฉันอยากรวย" ให้ระบุตัวเลขที่ชัดเจน เช่น "ฉันต้องการมีรายได้ 100,000 บาทต่อเดือนภายใน 6 เดือน" หรือ "ฉันต้องการซื้อบ้านที่มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ในย่านสุขุมวิท ภายใน 2 ปี"
- เขียนออกมา การเขียนความปรารถนาลงบนกระดาษจะช่วยให้ความคิดของเราชัดเจนและมีพลังมากขึ้น
- เชิงบวก เขียนสิ่งที่ต้องการในรูปแบบเชิงบวก หลีกเลี่ยงคำว่า "ไม่" เช่น แทนที่จะบอกว่า "ฉันไม่อยากเป็นหนี้" ให้เปลี่ยนเป็น "ฉันต้องการมีอิสระทางการเงินและมีเงินเก็บเพียงพอ"
ความรู้สึกคือเชื้อเพลิงสำคัญที่ทำให้ Law of Attraction ทำงาน การจินตนาการและสัมผัสถึงความรู้สึกของการได้รับสิ่งที่ปรารถนาแล้ว จะช่วยปรับคลื่นพลังงานของเราให้สอดคล้องกับความปรารถนานั้น
- จินตภาพ หลับตาและจินตนาการถึงภาพของสิ่งที่เราต้องการอย่างละเอียด เห็นตัวเองกำลังใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งนั้น ได้สัมผัส ได้กลิ่น ได้ยินเสียง
- สัมผัสความรู้สึก สิ่งสำคัญที่สุดคือการเชื่อมโยงกับ "ความรู้สึก" ที่เราจะมีเมื่อได้รับสิ่งนั้นแล้ว เช่น ความสุข ความตื่นเต้น ความอิ่มเอมใจ ความมั่นคง
- ทำอย่างสม่ำเสมอ ใช้เวลา 5-10 นาทีทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าหลังตื่นนอนและก่อนนอน เพื่อจินตนาการและสัมผัสความรู้สึกเหล่านั้น
กฎแรงดึงดูดทำงานได้ดีที่สุดเมื่อความคิดและความเชื่อของเราสอดคล้องกับความปรารถนา หากเรายังมีความคิดเชิงลบหรือความเชื่อที่จำกัดตัวเองอยู่ เราจะดึงดูดสิ่งเหล่านั้นเข้ามา
- สังเกตความคิด หมั่นสังเกตความคิดของตัวเองตลอดทั้งวัน หากพบความคิดเชิงลบ ให้หยุดและเปลี่ยนไปคิดถึงสิ่งตรงกันข้าม
- เปลี่ยนความเชื่อที่จำกัด ความเชื่อฝังลึก เช่น "ฉันไม่มีทางทำได้" หรือ "เงินหายาก" เป็นอุปสรรคสำคัญในการดึงดูดสิ่งที่ต้องการ ให้ท้าทายความเชื่อเหล่านั้นและหาหลักฐานที่พิสูจน์ว่ามันไม่จริง
- ใช้คำยืนยันเชิงบวก (Affirmations) พูดหรือคิดคำยืนยันเชิงบวกซ้ำๆ ทุกวัน เช่น "ฉันคู่ควรกับความสำเร็จ" "ฉันสามารถสร้างความมั่งคั่งได้ง่ายดาย" "ฉันมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข"
Law of Attraction ไม่ใช่การนั่งรอโชคชะตา แต่คือการที่เราต้องลงมือทำในสิ่งที่เรารู้สึก "ถูกดึงดูด" ให้ทำ การกระทำเหล่านี้มักจะนำพาเราไปใกล้เป้าหมายมากขึ้น
- ฟังเสียงภายใน เมื่อเราจินตนาการถึงเป้าหมายและมีความคิดเชิงบวก บางครั้งเราจะได้รับแรงบันดาลใจหรือความคิดเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปที่ต้องทำ ให้เชื่อในสัญชาตญาณนั้นแล้วลงมือทำ
- ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม การสร้างเครือข่าย การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือการปรับปรุงตัวเองในด้านที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมาย
- อย่ารอความสมบูรณ์แบบ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ การลงมือทำสำคัญกว่าการรอให้ทุกอย่างพร้อม
การรู้สึกขอบคุณเป็นคลื่นความถี่ที่มีพลังงานสูงและเป็นบวกอย่างยิ่ง การแสดงความขอบคุณต่อสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว และสิ่งที่เรากำลังจะได้รับ จะช่วยดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้น
- เขียนบันทึกขอบคุณ จดบันทึกสิ่งที่เรารู้สึกขอบเราอย่างน้อย 3-5 อย่างทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน เช่น อากาศดีๆ อาหารอร่อยๆ หรือการมีสุขภาพที่ดี
- ขอบคุณสำหรับสิ่งที่กำลังจะมาถึง แสดงความขอบเราล่วงหน้าสำหรับสิ่งที่เราปรารถนา เหมือนกับว่าเราได้รับมันมาแล้ว
หลังจากที่เราได้กำหนดความปรารถนา จินตนาการ สัมผัสความรู้สึก และลงมือทำแล้ว สิ่งสำคัญคือการปล่อยวางความยึดติดกับผลลัพธ์ และเชื่อใจว่าจักรวาลจะจัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ในเวลาที่เหมาะสม
- อย่าจมปลักกับ "เมื่อไหร่" หรือ "อย่างไร" ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจักรวาลที่จะจัดสรรวิธีการและจังหวะเวลาที่เหมาะสม เรามีหน้าที่เพียงเชื่อใจ
- ลดความวิตกกังวล ความวิตกกังวล ความสงสัย หรือความกลัว จะส่งสัญญาณเชิงลบออกไปและขัดขวางกระบวนการดึงดูด
- รู้ว่ากำลังมา มีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราปรารถนากำลังเดินทางมาหาเรา เหมือนกับการสั่งอาหารจากร้าน เราแค่รู้ว่าอาหารกำลังมา ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าพ่อครัวจะทำอย่างไร
บางครั้งสิ่งที่ต้องการอาจมาในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง หรือมาในจังหวะที่ไม่คาดฝัน การเปิดใจรับโอกาสใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
- สังเกตสัญญาณ จักรวาลมักส่งสัญญาณ โอกาส หรือผู้คนมาให้เรา เพื่อนำพาเราไปสู่เป้าหมาย ให้สังเกตและคว้าโอกาสเหล่านั้นไว้
- ต้อนรับสิ่งที่ไม่คาดฝัน บางครั้งสิ่งที่มาถึงอาจไม่ใช่รูปแบบที่เราคิดไว้เป๊ะๆ แต่อาจเป็นสิ่งที่ดีกว่าหรือเหมาะสมกว่า ให้เปิดใจรับสิ่งเหล่านั้น
การใช้ "Law of Attraction" (กฎแรงดึงดูด) อย่างมีประสิทธิภาพคือการผสานพลังของความคิด ความรู้สึก และการลงมือทำอย่างมีสติ เพื่อปรับคลื่นพลังงานของตนเองให้สอดคล้องกับสิ่งที่ปรารถนา ไม่ใช่การนั่งรอปาฏิหาริย์ แต่คือการที่เราต้องเป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์เหล่านั้นด้วยตัวเอง ด้วยการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน จินตนาการด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมสุข ปรับความคิดและความเชื่อเชิงลบ ลงมือทำอย่างได้รับแรงบันดาลใจ ฝึกฝนความกตัญญู ปล่อยวางความกังวล และเปิดใจรับโอกาสใหม่ๆ เราก็จะสามารถดึงดูดความสำเร็จ ความสุข และทุกสิ่งที่ต้องการเข้ามาในชีวิตได้อย่างแท้จริง ขอให้การเดินทางสู่การสร้างสรรค์ชีวิตของเราเต็มไปด้วยพลังและสิ่งดีๆ ที่จะดึงดูดเข้ามา เราพร้อมแล้วหรือยังที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของเราเอง?
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
กฎแรงดึงดูด ตัวช่วยเปลี่ยนแผนการเก็บเงินด้วยพลังบวก
Law of Attraction คืออะไร? ทำไมคนเรามักถูกดึงดูดด้วยคนประเภทเดียวกัน