64 Views
Favorite
1.acheter
(อัช-เต /ash-tey)
ซื้อ-to buy
2.boire
(บัวร์/bwahr)
ดื่ม-to drink
3.chercher
(แชร์ร์-เช่/shair-shay)
หา-to look for
4.comprendre
(ค็อง-พร็องดร์/kom-prondr)
เข้าใจ-to understand
5.déjeuner
(เด-เฌอ-เน่/day-zhuh-nay)
กินอาหารกลางวัน-to have lunch
6.dîner
(ดี-เน่/dee-nay)
กินอาหารเย็น-to have dinner
7.écouter
(เอ-กู-เต้/ay-goo-tay)
ฟัง-to listen
8.entrer
(อ็อง-เตร/on-tray)
เข้า-to enter
9.fermer
(แฟร์-เม่/fair-may)
ปิด-to close
10.habiter
(อา-บิ-เต้/ah-bee-tay)
อาศัยอยู่-to live
11.jouer
(ชู-เว่/zhoo-ay)
เล่น-to play
12.laver
(ลา-เว่/lah-vay)
ล้าง-to wash
13.manger
(ม็อง-เฌ่/ mon-zhay)
กิน-to eat
14.nager
(นา-เฌ่/nah-zhay)
ว่ายน้ำ-to swim
15.parler
(พาร์-เล่/par-lay)
พูด-to speak
16.penser
(ป็อง-เซ่/pon-say)
คิด-to think
17.prendre
(พร็องดร์ /prondr)
เอา / รับ-to take
18.rester
(เรส-เต้/res-tay)
พักอยู่-to stay
19.sortir
(ซอร์-ทีร์/sor-teer)
ออกไป-to go out
20.travailler
(ตรา-วา-เย่/tra-va-yay)
ทำงาน-to work
21.utiliser
(อู-ที-ลี-เซ่/oo-tee-lee-zay)
ใช้-to use
22.venir
(เวอ-เนียร์/vuh-neer)
มา-to come
23.voir
(วัวร์/vwar)
เห็น-to see
24.vouloir
(วู-ลัวร์/voo-lwar)
ต้องการ-to want
25.dire
(ดีร์/deer)
พูด-to say
26.écrire
(เอ-ครีร์/ay-kreer)
เขียน -to write
27.lire
(ลีร์/leer)
อ่าน-to read
28.attendre
(อา-ตอนดร์/ah-ton-dr)
รอ-to wait
29.répondre
(เคร-ปองดร์/ray-pondr)
ตอบ-to answer
30.aimer
(เอ-เม่/ay-may)
ชอบ/รัก-to like/love
31.aider
(เอ-เด่/ay-day)
ช่วยเหลือ-to help
32.appeler
(แอ็ป-เล่/ah-play)
เรียก-to call
33.arriver
(อา-รี-เว่/ah-ree-vay)
มาถึง-to arrive
34.changer
(ช็อง-เฌ่/shon-zhay)
เปลี่ยน-to change
35.commencer
(ค็อม-ม็อง-เซ่/kom-mon-say)
เริ่ม-to start
36.décider
(เด-ซี-เด่/day-see-day)
ตัดสินใจ-to decide
37.demander
(เดอ-ม็อง-เด่/duh-mon-day)
ขอ/ถาม-to ask
38.donner
(โด-เน่/doh-nay)
ให้-to give
39.garder
(การ์-เด่/gar-day)
เก็บไว้-to keep
40.inviter
(แอ็ง-วี-เต้/an-vee-tay)
เชิญ-to invite
41.marcher
(มาร์-เช่/mar-shay)
เดิน-to walk
42.montrer
(ม็อง-เตร/mon-tray)
แสดงให้ดู-to show
43.oublier
(อู-บลี-เย่/oo-blee-yay)
ลืม-to forget
44.ouvrir
(อู-วรีร์/oo-vreer)
เปิด-to open
45.payer
(เป-เย่/pay-yay)
จ่าย-to pay
46.porter
(ปอร์-เต้/por-tay)
ถือ/ใส่-to carry/wear
47.4présenter
(เพร-ซ็อง-เต้/pray-zon-tay)
แนะนำ-to introduce
48.promettre
(โพร-แมตร์/pro-mett)
สัญญา-to promise
49.rencontrer
(ร็อง-ค็อง-เตร/ron-kon-tray)
พบ/เจอ-to meet
50.rentrer
(ร็อง-เตร/ron-tray)
กลับ (บ้าน)-to return (home)
51.réussir
(เรอ-อู-ซีร์/ruh-oo-seer)
สำเร็จ-to succeed
52.savoir
(ซา-วัวร์/sah-vwar)
รู้-to know
53.se réveiller
(เซอ เร-เว-เย่/suh ray-vay-yay)
ตื่น-to wake up
54.se lever
(เซอ เลอ-เว่/suh luh-vay)
ลุกขึ้น-to get up
55.se coucher
(เซอ คู-เช่/suh koo-shay)
เข้านอน-to go to bed
56.se laver
(เซอ ลา-เว่/suh lah-vay)
อาบน้ำ-to wash oneself
57.s’habiller
(ซา-บิ-เย่/sah-bee-yay)
แต่งตัว-to get dressed
58.s’amuser
(ซา-มู-เซ่/sah-moo-zay)
สนุก-to have fun
59.tomber
(ท็อง-เบ่/tom-bay)
ล้ม-to fall
60.utiliser
(อู-ที-ลี-เซ่/oo-tee-lee-zay)
ใช้-to use
61.voyager
(วัว-ยา-เฌ่/vwah-yah-zhay)
เดินทาง-to travel
62.apprendre
(อา-พร็องดร์/ah-prondr)
เรียนรู้-to learn
63.apporter
(อา-ปอร์-เต้/ah-por-tay)
นำมา-to bring
64.arriver en retard
(อา-รี-เว อ็อง รอ-ทาร์/ah-ree-vay on roh-tar)
มาสาย-to arrive late
65.écouter la radio
(เอ-กู-เต ลา รา-ดี-โอ/ay-goo-tay lah rah-dee-oh)
ฟังวิทยุ-to listen to the radio
66.regarder la télévision
(เรอ-การ์-เด ลา เท-เล-วี-ซิยง/ruh-gar-day lah tay-lay-vee-zyon)
ดูทีวี-to watch TV
67.faire les courses
(แฟร์ เล คูร์ส/fair lay koors)
ไปซื้อของ-to do the shopping
68.faire le ménage
(แฟร์ เลอ เม-นาจ/fair luh may-nazh)
ทำความสะอาดบ้าน-to do the housework
69.faire la cuisine
(แฟร์ ลา ควี-ซีน/fair lah kwee-zeen)
ทำอาหาร-to cook
70.prendre le bus
(พร็องดร์ เลอ บุส/prondr luh boos)
ขึ้นรถเมล์-to take the bus
71.aller à l’école
(อา-เล อา เล-โกล/ah-lay ah lay-kol)
ไปโรงเรียน-to go to school
72.aller au travail
(อา-เล โอ ตรา-ไวย์/ah-lay oh tra-vai)
ไปทำงาน-to go to work
73.avoir faim
(อา-วัว ฟ็อง/ah-vwar fan)
หิว-to be hungry
74.avoir soif
(อา-วัวร์ ซวาฟ/ah-vwar swaf)
กระหายน้ำ-to be thirsty
75.avoir besoin
(อา-วัวร์ เบอ-ซว็อง/ah-vwar buh-zwan)
ต้องการ-to need
76.il faut
(อิล โฟ/eel fo)
จำเป็น-it is necessary
77.c’est important
(เซ็ส ต็อง-ปอร์-ต็อง/set om-por-ton)
มันสำคัญ-it is important
78.il y a
(อิล ยา/eel yah)
มี-there is/there are
79.il n’y a pas
(อิล นียา ปา/eel nya pah)
ไม่มี-there isn’t/there aren’t
80.il fait beau
(อิล เฟ โบ/eel fay boh)
อากาศดี-it’s nice weather
81.il fait chaud
(อิล เฟ โช/eel fay show)
อากาศร้อน-it’s hot
82.il fait froid
(อิล เฟ ฟรัว/eel fay frwah)
อากาศหนาว-it’s cold
83.il pleut
(อิล เพลอ/eel pleuh)
ฝนตก-it’s raining
84.il neige
(อิล แนช/ eel nej)
หิมะตก-it’s snowing
85.aujourd’hui
(โอ-ชูร์-ดุย/oh-zhoor-dwee)
วันนี้-today
86.demain
(เดอ-แม็ง/duh-man)
พรุ่งนี้-tomorrow
87.hier
(อี-แยร์/ee-yair)
เมื่อวาน-yesterday
88.maintenant
(แม็ง-ตอน-น็อง/man-ten-on)
ตอนนี้-now
89.bientôt
(เบียง-โต/byan-toh)
เร็วๆ นี้-soon
90.toujours
(ตู-ชูร์/too-zhoor)
เสมอ-always
91.souvent
(สู-ว็อง/soo-von)
บ่อยๆ-often
92.parfois
(ปาร์-ฟัว/par-fwah)
บางครั้ง-sometimes
93.rarement
(ราร์-ร็อง-ม็อง/rar-mon)
นานๆ ครั้ง-rarely
94.jamais
(ฌา-เม่/zha-may)
ไม่เคย-never
95.pourquoi
(ปูร์-กัว/poor-kwah)
ทำไม-why
96.parce que
(ปาร์ส-กือ/pars-kuh)
เพราะว่า-because
97.comment
(กอ-ม็อง/koh-mon)
อย่างไร-how
98.où
(อู/oo)
ที่ไหน-where
99.quand
(ก็อง/kon)
เมื่อไร-when
100.combien
(ค็อง-เบียง/kom-byen)
เท่าไหร่-how much/how many
1.
Je vais acheter du pain à la boulangerie.
(เฌอ แว อัช-เต ดู แปง อา ลา บูลองเฌอรี)
I’m going to buy some bread at the bakery.
ฉันจะไปซื้อขนมปังที่ร้านเบเกอรี่
2.
Elle aime boire du jus d’orange le matin.
(แอล เอม บัวร์ ดู ฌู ดอรองจฺ เลอ มาตัง)
She likes to drink orange juice in the morning.
เธอชอบดื่มน้ำส้มตอนเช้า
3.
Nous cherchons un bon restaurant pour ce soir.
(นู แชร์ร์-โชง อัง บง เฮสโตฮอง ปูร์ ซอ ซัวร์)
We’re looking for a good restaurant for tonight.
เรากำลังหาร้านอาหารดีๆ สำหรับคืนนี้
4.
Je ne comprends pas cette phrase.
(เฌอ เนอ ค็องพร็อง ปา เซ็ต ฟราส)
I don’t understand this sentence.
ฉันไม่เข้าใจประโยคนี้
5.
On va déjeuner ensemble au café.
(ออง วา เดเฌอเน อองซ็องบลฺ โอ กาเฟ่)
We are going to have lunch together at the café.
เราจะไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันที่ร้านกาแฟ
6.
Ils dînent toujours à 19 heures.
(อิล ดีน ตูชูร์ อา ดิซ-เนิฟ เออร์)
They always have dinner at 7 p.m.
พวกเขากินข้าวเย็นเสมอตอนหนึ่งทุ่ม
7.
Tu écoutes la radio chaque matin ?
(ทู เอกูตฺ ลา ราดีโอ ชัค มาตัง)
Do you listen to the radio every morning?
ฟังวิทยุทุกเช้าใช่ไหม?
8.
Elle entre dans la maison sans frapper.
(แอล อ็องเทร ด็อง ลา เมซง ซ็อง ฟรัปเป)
She enters the house without knocking.
เธอเข้าบ้านโดยไม่เคาะประตู
9.
Ferme la porte, s’il te plaît.
(แฟร์ม ลา ปอร์ท ซิล เตอ แปล)
Close the door, please.
ช่วยปิดประตูหน่อย
10.
J’habite à Paris depuis trois ans.
(ฌา-บิท อา ปารี เดอ-พุย ตรัว อง)
I have been living in Paris for three years.
ฉันอาศัยอยู่ที่ปารีสมาสามปีแล้ว
11.
Les enfants jouent dans le jardin.
(เล ซองฟ็อง ฌู ด็อง เลอ ฌาร์แดง)
The children are playing in the garden.
เด็กๆ กำลังเล่นกันในสวน
12.
Il faut laver les légumes avant de les cuire.
(อิล โฟ ลาเว เล เลอกูม อาว็อง เดอ เล กวีร์)
The vegetables must be washed before cooking.
ผักต้องล้างก่อนปรุง
13.
On mange souvent ensemble le week-end.
(ออง ม็องฌ ซูว็อง อองซ็องบลฺ เลอ วีคเอนด์)
We often eat together on the weekend.
เรามักจะกินข้าวด้วยกันตอนวันหยุด
14.
Je vais nager dans la piscine demain.
(เฌอ แว นาเฌ ด็อง ลา ปีซีน เดอแม็ง)
I’m going to swim in the pool tomorrow.
ฉันจะไปว่ายน้ำในสระพรุ่งนี้
15.
Elle parle trois langues couramment.
(แอล พาร์ล ตรัว ล็องกฺ กู-ราม็อง)
She speaks three languages fluently.
เธอพูดได้สามภาษาอย่างคล่องแคล่ว
16.
Il pense souvent à ses vacances.
(อิล ป็องซฺ ซูว็อง อา เซ วาก็องซ์)
He often thinks about his holidays.
เขาคิดถึงวันหยุดของเขาบ่อยๆ
17.
Je prends toujours un café le matin.
(เฌอ พร็อง ตูชูร์ อัง คาเฟ่ เลอ มาตัง)
I always have a coffee in the morning.
ฉันดื่มกาแฟทุกเช้าเสมอ
18.
Nous restons chez nous ce soir.
(นู เรส-ตง เช นู ซอ ซัวร์)
We are staying home tonight.
พวกเราจะอยู่บ้านคืนนี้
19.
Ils sortent souvent avec leurs amis.
(อิล ซอร์ท ซูว็อง อาเวค เลอร์ ซามี)
They often go out with their friends.
พวกเขามักออกไปกับเพื่อนบ่อยๆ
20.
Je travaille dans une école primaire.
(เฌอ ตราวาย ด็อง ซูน เออกอล พรีแมร์)
I work in a primary school.
ฉันทำงานในโรงเรียนประถม
พื้นฐานแน่นเท่ากับความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในการสอบ DELF การรู้จักและฝึกใช้ คำศัพท์ภาษาฝรั่งเศสที่ออกบ่อย
จะช่วยให้ประหยัดเวลา ทำข้อสอบได้เร็วขึ้น และเข้าใจเนื้อหาได้แม่นยำขึ้น การเรียนภาษาฝรั่งเศสจึงไม่ใช่แค่เรื่องของภาษา
แต่เป็นการเปิดโอกาสใหม่ ๆ ทั้งในด้านการศึกษาและอาชีพ ใครที่เริ่มจากคำศัพท์ก่อน จะเห็นผลลัพธ์ไวแบบชัดเจนแน่นอน
ติดตามชมเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ
