การทำความเข้าใจเรื่องประกันอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและน่าสับสนสำหรับหลายคน จนบางครั้งอาจรู้สึกว่าการจ่ายเบี้ยประกันเป็นภาระที่ไม่จำเป็น แต่ความจริงแล้ว ประกันคือเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงและสร้างความมั่นคงในชีวิต หากเลือกอย่างชาญฉลาด มันจะกลายเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดอย่างหนึ่ง บทความนี้จะนำเสนอ ทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพอย่างไรให้คุ้มค่า ตั้งแต่หลักการคิดไปจนถึงเทคนิคการเลือกซื้อ เพื่อให้เราสามารถวางแผนประกันได้อย่างมืออาชีพ เราจะมาดูกันว่า การวางแผนประกัน อย่างถูกต้องนั้นต้องพิจารณาจากอะไรบ้าง เพื่อให้เบี้ยประกันที่จ่ายไปทุกปีเปลี่ยนเป็นความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ชีวิตของเราอย่างแท้จริง
ก่อนจะตัดสินใจซื้อประกัน ลองเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ อย่ามองประกันเป็นเพียงค่าใช้จ่าย แต่ให้มองว่าเป็น "เกราะป้องกัน" ทางการเงินที่ปกป้องเราจากความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด โดยมีหลักคิดสำคัญ 2 ประการ
1. การโอนความเสี่ยง ชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เช่น การเจ็บป่วยร้ายแรง, การเกิดอุบัติเหตุ, หรือการเสียชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมหาศาลที่อาจทำลายเงินเก็บที่เราสะสมมาทั้งชีวิต ประกันทำหน้าที่ "โอน" ความเสี่ยงทางการเงินเหล่านี้จากเราไปให้บริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบแทน ทำให้เราไม่ต้องแบกรับภาระหนักอึ้งเพียงลำพัง
2. ความคุ้มค่าที่มาพร้อมกับความอุ่นใจ การจ่ายเบี้ยประกันอาจดูเหมือนเป็นเงินที่เสียไป แต่ความคุ้มค่าที่แท้จริงคือ "ความอุ่นใจ" ที่เราได้มา เมื่อเรามีประกันที่เพียงพอ เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแล้วจะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล หรือครอบครัวจะไม่มีคนดูแล
การเลือกประกันให้คุ้มค่าต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจประเภทของประกันที่เหมาะสมกับเรา
1. ประกันชีวิต (Life Insurance) เน้นความคุ้มครองเรื่องการเสียชีวิต และอาจรวมถึงการทุพพลภาพถาวร- แบบชั่วระยะเวลา (Term Life) ประกันที่ให้ความคุ้มครองตามระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 10, 20 ปี) มีเบี้ยประกันต่ำที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองสูงเพื่อปกป้องภาระหนี้สินหรือดูแลคนที่รักในระยะเวลาหนึ่ง
- แบบตลอดชีพ (Whole Life) ประกันที่ให้ความคุ้มครองตลอดชีวิต และมีมูลค่าเงินสดสะสมในกรมธรรม- แบบสะสมทรัพย์ (Endowment) ประกันที่เน้นการออมทรัพย์ควบคู่ไปกับการให้ความคุ้มครองชีวิต เมื่อครบกำหนดสัญญาจะได้รับเงินคืนพร้อมผลตอบแทน
- แบบควบการลงทุน (Unit-Linked) เป็นประกันที่เบี้ยประกันแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนความคุ้มครองและส่วนที่นำไปลงทุนในกองทุนรวม ทำให้เราได้ทั้งความคุ้มครองและโอกาสในการเติบโตของเงินทุน
2. ประกันสุขภาพ (Health Insurance) เน้นความคุ้มครองเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
- ประกันสุขภาพหลัก คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาล รวมถึงค่าห้อง, ค่าแพทย์, ค่ายา
- ประกันโรคร้ายแรง ให้เงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงที่อยู่ในรายการสัญญา เช่น มะเร็ง, หัวใจ
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ให้ความคุ้มครองกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
การเลือกประกันที่คุ้มค่าไม่ใช่เรื่องของราคาที่ถูกที่สุด แต่คือการเลือก ความคุ้มครองประกัน ที่ตอบโจทย์ความเสี่ยงและงบประมาณของเรา
- เรามีภาระที่ต้องดูแลหรือไม่? หากเราเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีลูกเล็ก หรือมีหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาที่ให้วงเงินความคุ้มครองสูงคือตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุด
- สถานะการเงินของเราเป็นอย่างไร? หากเรามีรายได้จำกัด ควรให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเป็นอันดับแรก เพราะค่าใช้จ่ายจากโรคร้ายแรงสามารถทำลายเงินเก็บทั้งหมดได้ในพริบตา
- ให้ความสำคัญกับประกันสุขภาพก่อนประกันชีวิต โรคภัยไข้เจ็บสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนนั้นสูงมาก การมีประกันสุขภาพที่เพียงพอจะช่วยปกป้องเงินเก็บของเราได้ดีที่สุด
- ทำประกันชีวิตให้เหมาะสมกับภาระ คำนวณวงเงินความคุ้มครองให้เพียงพอที่จะทดแทนรายได้ของเราในกรณีที่เราเป็นอะไรไป เพื่อให้คนที่เรารักสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้โดยไม่มีผลกระทบ
- อย่าดูแค่เบี้ยประกัน เบี้ยประกันที่ถูกที่สุดอาจมาพร้อมกับความคุ้มครองที่จำกัดหรือไม่ครอบคลุมตามที่เราต้องการ
- อ่านเงื่อนไขและข้อยกเว้น ประกันสุขภาพแต่ละฉบับมีเงื่อนไขและข้อยกเว้นที่ไม่เหมือนกัน ควรทำความเข้าใจอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
- พิจารณาความน่าเชื่อถือของบริษัท เลือกบริษัทประกันที่มั่นคง มีชื่อเสียง และมีความน่าเชื่อถือ
นอกเหนือจากความคุ้มครองแล้ว ประกันยังเป็นเครื่องมือในการวางแผนภาษีที่สำคัญ เพราะเบี้ยประกันบางประเภทสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ ทำให้เราได้ประโยชน์ 2 ต่อ ทั้งความคุ้มครองและเงินภาษีที่ประหยัดได้
- เบี้ยประกันชีวิต สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพ สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท
การ ทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ที่คุ้มค่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่เป็นการวางแผนที่ชาญฉลาดและรอบคอบ โดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่แท้จริงในชีวิตของเรา เมื่อเรามีประกันที่เหมาะสม เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจและมั่นใจในทุกย่างก้าว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
[How to] เลือกประกันอย่างไรให้เหมาะกับคุณ
เทคนิค ‘การเลือกซื้อประกัน’ ให้ได้ประโยชน์สูงสุดในแต่ละวัย
ซื้อประกันลดหย่อนภาษีได้อย่างไร? ประกันแต่ละประเภทลดหย่อนภาษีได้เท่าไร? ควรซื้อตอนไหนดี?
3 ขั้นตอนวางแผนประหยัดภาษีด้วยประกันชีวิต