Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

5 วิธีบริหารเงินเดือนให้พอใช้และเหลือออมทุกเดือน

Posted By MyDream23 | 21 ก.ค. 68
13 Views

  Favorite

ปัญหาการเงินที่หลายคนต้องเผชิญในแต่ละเดือนคือการที่เงินเดือนดูเหมือนจะ "หายไป" อย่างรวดเร็ว บางครั้งยังไม่ทันสิ้นเดือนก็เริ่มมีอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง หรือถึงแม้จะพอใช้ แต่ก็ไม่เคยเหลือพอที่จะเก็บออมได้สักที หากเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ บทความนี้คือคำตอบสำหรับเรา เราจะมาเผย 5 วิธีบริหารเงินเดือนให้พอใช้และเหลือออมทุกเดือน ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใครๆ ก็สามารถนำไปใช้ได้จริง และไม่ใช่เรื่องของการอดออมแบบสุดโต่ง แต่เป็นเรื่องของการสร้างระบบที่ทำให้การเงินของเรามีระเบียบวินัยมากขึ้นโดยที่เราแทบไม่ต้องคิดอะไรเลย

เราจะเริ่มต้นจากการสร้างนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงสถานะทางการเงินของเราให้ดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

 

1 จ่ายให้ตัวเองก่อนเสมอ (Pay Yourself First)

นี่คือหลักการที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างวินัยการออมและเป็นหัวใจสำคัญของการ บริหารเงินเดือนให้พอใช้ ในระยะยาว กฎนี้ง่ายมาก เมื่อเงินเดือนเข้าบัญชี ให้โอนเงินส่วนหนึ่งไปเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ทันที ก่อนที่เราจะนำไปใช้จ่ายอย่างอื่น หากเรารอใช้จ่ายก่อนแล้วค่อยออม ส่วนใหญ่มักจะไม่เหลือเงินให้เก็บเลย การกำหนดเปอร์เซ็นต์ที่ชัดเจนสำหรับการออม เช่น 10% หรือ 20% ของเงินเดือน หรือใช้แอปพลิเคชันของธนาคารตั้งค่า "โอนเงินอัตโนมัติ" ในวันเงินเดือนออก เพื่อให้เงินส่วนนี้ถูกย้ายไปที่บัญชีออมทรัพย์โดยอัตโนมัติ วิธีนี้จะทำให้การออมเป็นเรื่องที่ "บังคับตัวเอง" ในทางที่ดี เราจะบริหารจัดการเงินส่วนที่เหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะไม่รู้สึกว่าเงินออมถูกใช้ไปโดยไม่ตั้งใจ

2 ใช้ระบบบัญชี 3 ส่วน

เพื่อช่วยให้การจัดการเงินเป็นเรื่องที่มองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ลองแบ่งบัญชีธนาคารออกเป็น 3 บัญชีตามวัตถุประสงค์การใช้งาน แบ่งออกเป็น
- บัญชีรายจ่ายประจำวัน (Daily Expense Account) บัญชีนี้คือบัญชีเงินเดือนที่เราใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าซื้อของใช้ส่วนตัว
- บัญชีออมทรัพย์เพื่อเป้าหมาย (Goal-Oriented Savings Account) บัญชีนี้สำหรับเงินออมเพื่อเป้าหมายระยะสั้นถึงกลาง เช่น เงินดาวน์รถ, ค่าท่องเที่ยว, หรือค่าซื้อของชิ้นใหญ่ที่เราอยากได้ เงินจากวิธีที่ 1 (Pay Yourself First) จะถูกโอนเข้ามาที่บัญชีนี้
- บัญชีเงินสำรองฉุกเฉิน (Emergency Fund Account) บัญชีนี้ควรเป็นบัญชีที่เข้าถึงยากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เราเผลอใช้เงินในส่วนนี้ เงินในบัญชีนี้มีไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดเท่านั้น เช่น ค่าซ่อมรถ, ค่ารักษาพยาบาล, หรือกรณีตกงานชั่วคราว
การแยกบัญชีช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการเงินได้ชัดเจนขึ้น และช่วยป้องกันการใช้เงินผิดประเภทได้เป็นอย่างดี

3 ใช้กฎ 50/30/20 ในการจัดสรรเงิน

สำหรับคนที่รู้สึกว่าการทำบัญชีรายรับรายจ่ายแบบละเอียดนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและน่าเบื่อ กฎ 50/30/20 คือทางออกที่เรียบง่ายและยืดหยุ่น
- 50% สำหรับ "สิ่งที่จำเป็น" (Needs) แบ่งเงินครึ่งหนึ่งของเงินเดือนไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าเช่าบ้าน, ค่าผ่อนรถ, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอาหาร, และค่าเดินทาง
- 30% สำหรับ "สิ่งที่ต้องการ" (Wants) แบ่งเงินส่วนนี้ไว้สำหรับค่าใช้จ่ายที่ช่วยเติมเต็มความสุขในชีวิต เช่น ค่าดูหนัง, ค่าสังสรรค์, ค่าช้อปปิ้งเสื้อผ้า, หรือค่าสมัครสมาชิกต่างๆ
- 20% สำหรับ "การออมและชำระหนี้" (Savings & Debt Repayment) เงินส่วนนี้คือหัวใจสำคัญของการ เหลือออมทุกเดือน และนำไปใช้ในการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต เช่น การออม, การลงทุน, หรือการชำระหนี้สินที่มีอยู่
กฎนี้ช่วยให้เรามีกรอบการใช้จ่ายที่ชัดเจน โดยที่ไม่รู้สึกว่าต้องอดทนอดกลั้นมากเกินไป เรายังคงสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ในขณะที่การออมก็ดำเนินไปอย่างสม่ำเสมอ

4 ใช้กฎ "ดีเลย์ 3 วัน" เพื่อลดการซื้อของตามอารมณ์

การซื้อของตามอารมณ์หรือการซื้อของออนไลน์ที่เห็นจากโฆษณาบ่อยๆ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เงินเก็บของเราหายไปอย่างไม่รู้ตัว กฎนี้เรียบง่ายมาก เมื่อเราอยากซื้อของที่ไม่ใช่ของจำเป็น ให้หยุดคิดและรออย่างน้อย 3 วันก่อนตัดสินใจ
- เมื่อเจอของที่อยากได้ ให้บันทึกชื่อสินค้าและราคาไว้
- รอ 3 วัน โดยห้ามกลับไปดูสินค้านั้นอีก
- เมื่อครบ 3 วันแล้ว ให้ถามตัวเองอีกครั้งว่า "เรายังอยากได้สินค้านั้นอยู่ไหม?"
บ่อยครั้งที่ความอยากจะลดลงอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป และเราอาจตระหนักได้ว่าสินค้านั้นไม่ใช่สิ่งจำเป็นจริงๆ วิธีนี้ช่วยให้เราได้ไตร่ตรองและตัดสินใจอย่างมีสติมากขึ้น ซึ่งช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี

5 ใช้ระบบอัตโนมัติให้เป็นประโยชน์

ในยุคดิจิทัล การจัดการเงินให้เป็นเรื่องง่ายและอัตโนมัติคือทางลัดสู่ความสำเร็จ ลองใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อลดภาระทางความคิดและเพิ่มวินัยทางการเงินให้ตัวเอง
- ตั้งค่าการโอนเงินออมอัตโนมัติ เป็นการย้ำถึงวิธีที่ 1 และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
- ตั้งค่าการชำระบิลอัตโนมัติ ตั้งให้ค่าใช้จ่ายประจำเดือน เช่น ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์, ค่าบัตรเครดิต ถูกหักจากบัญชีธนาคารอัตโนมัติในวันใกล้ครบกำหนดชำระ เราจะไม่ต้องกังวลว่าจะลืมจ่ายและโดนค่าปรับ
- ตั้งค่าการลงทุนแบบ DCA สำหรับคนที่พร้อมลงทุน เราสามารถตั้งค่าให้มีการซื้อกองทุนรวมหรือหุ้นอย่างสม่ำเสมอทุกเดือนด้วยเงินจำนวนเท่าๆ กัน ซึ่งเป็นวิธีสร้างความมั่งคั่งระยะยาวที่มีประสิทธิภาพ

 

การวางแผนการเงิน ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากและน่าปวดหัวอีกต่อไป หากเรานำ 5 วิธีข้างต้นไปปรับใช้ให้เข้ากับชีวิต การมีเงินใช้พอดี และเหลือเงินสำหรับออมทุกเดือนจะไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นความจริงที่เราสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง


 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
5 วิธีจัดการเงิน ฉบับ มนุษย์เงินเดือน
สูตรบริหารเงินเดือน มีกิน มีเก็บ เหลือลงทุน 
แจกสูตรลับ วิธีเก็บเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • MyDream23
  • 0 Followers
  • Follow