Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

เรียนรู้คำวิเศษณ์ภาษาเกาหลี: เข้าใจ ใช้คล่อง พร้อมตัวอย่างประโยค

Posted By ohmm | 20 ก.ค. 68
30 Views

  Favorite

การสื่อสารด้วยภาษาเกาหลีให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่เพียงคำกริยาและคำนามเท่านั้น แต่ "คำวิเศษณ์" หรือคำที่ใช้ขยายความหมายของกริยา คุณลักษณะ หรือคำวิเศษณ์อื่น ๆ ก็มีบทบาทสำคัญไม่น้อย คำเหล่านี้ช่วยทำให้การสนทนามีสีสันมากขึ้น สื่อสารได้ชัดเจนขึ้น และเข้าใจบริบทได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนทนาในชีวิตประจำวัน คำวิเศษณ์ช่วยเน้นอารมณ์และเจตนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

         คำวิเศษณ์ในภาษาเกาหลีทำหน้าที่คล้ายกับภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ คือใช้ขยายหรืออธิบายคำกริยา คุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์อื่น เช่น “มาก”, “ช้า”, “เร็ว”, “บ่อยครั้ง” หรือ “บางครั้ง” จุดเด่นคือสามารถวางไว้หน้าคำกริยาได้อย่างยืดหยุ่น และมักไม่มีการผันรูปให้ยุ่งยากเหมือนคำกริยา จึงเป็นกลุ่มคำศัพท์ที่ผู้เรียนสามารถเริ่มจดจำและใช้งานได้เร็ว

 

คำวิเศษณ์ที่ควรรู้

아주                    อา-จู                     a-ju                                  มาก                      Very

정말                    ชอง-มัล                 jeong-mal                        จริง ๆ                    Really

너무                    นอ-มู                     neo-mu                           มาก                      Very

자주                    จา-จู                      ja-ju                                บ่อย ๆ                   Often

항상                    ฮัง-ซัง                    hang-sang                      เสมอ                     Always

가끔                    คา-กึม                    ga-kkeum                       บางครั้ง                  Sometimes

거의                    คอ-อี                      geo-ui                            แทบจะไม่                Almost 

전혀                    ชอน-ฮยอ               jeon-hyeo                        ไม่เลย                    Not at all

빨리                    ปัล-รี                      ppal-li                            เร็ว ๆ                     Quickly / Fast

천천히                ชอน-ชอน-ฮี           cheon-cheon-hi              ช้า ๆ                      Slowly

지금                    ชี-กึม                       ji-geum                          ตอนนี้                     Now

이미                    อี-มี                         i-mi                               เรียบร้อย                 Already

아직                    อา-จิก                     a-jik                               ยัง                          Still / Yet

곧                        คด                          got                                  เร็ว ๆ นี้                  Soon

다시                    ทา-ชี                      da-shi                             อีกครั้ง                    Again

일찍                    อิล-จิก                    il-jjik                               เร็ว ก่อนเวลา แต่เช้า      Early

늦게                    นึจ-เก                     neut-ge                          ช้า สาย                     Late

모두                    โม-ดู                      mo-du                             ทั้งหมด                     All / Everyone

함께                    ฮัม-เก                     ham-kke                         ด้วยกัน                     Together

혼자                    ฮน-จา                    hon-ja                             คนเดียว                    Alone

 

ตัวอย่างประโยค

저는 아주 기분이 좋아요.
ชอ-นึน อา-จู คี-บุน-อี โช-อา-โย
jeo-neun a-ju gi-bun-i jo-a-yo
ฉันรู้สึกดีมาก
 

그 사람은 정말 착해요.
คือ ซา-ราม-อึน ชอง-มัล ชัก-แค-โย
geu sa-ram-eun jeong-mal chak-hae-yo
เขาใจดีจริง ๆ
 

저는 너무 배가 고파요.
ชอ-นึน นอ-มู แพ-กา โก-พา-โย
jeo-neun neo-mu bae-ga go-pa-yo
ฉันหิวมาก
 

우리 가족은 자주 외식해요.
อู-รี คา-จก-อึน จา-จู เว-ชิก-แฮ-โย
u-ri ga-jok-eun ja-ju oe-sik-hae-yo
ครอบครัวของเรากินข้าวนอกบ้านบ่อย
 

친구는 항상 웃고 있어요.
ชิน-กู-นึน ฮัง-ซัง อุท-โก อิซ-ซอ-โย
chin-gu-neun hang-sang ut-go it-seo-yo
เพื่อนยิ้มอยู่เสมอ
 

저는 가끔 친구를 만나요.
ชอ-นึน คา-กึม ชิน-กู-รึล มัน-นา-โย
jeo-neun ga-kkeum chin-gu-reul man-na-yo
ฉันเจอเพื่อนบางครั้ง
 

우리는 거의 연락하지 않아요.
อู-รี-นึน คอ-อี ยอน-รัก-ฮา-จี อา-นา-โย
u-ri-neun geo-ui yeon-rak-ha-ji a-na-yo
เราแทบไม่ได้ติดต่อกันเลย
 

저는 전혀 몰랐어요.
ชอ-นึน ชอน-ฮยอ มล-รัด-ซอ-โย
jeo-neun jeon-hyeo mol-rat-seo-yo
ฉันไม่รู้เลย
 

동생은 빨리 뛰어갔어요.
ทง-แซง-อึน ปัล-รี ตวี-ออ-กัด-ซอ-โย
dong-saeng-eun ppal-li ttwi-eo-gat-seo-yo
น้องวิ่งไปเร็วมาก
 

저는 천천히 걸었어요.
ชอ-นึน ชอน-ชอน-ฮี คอ-รอด-ซอ-โย
jeo-neun cheon-cheon-hi geo-reot-seo-yo
ฉันเดินช้า ๆ
 

우리는 지금 영화 보고 있어요.
อู-รี-นึน ชี-กึม ยอง-ฮวา โพ-โก อิซ-ซอ-โย
u-ri-neun ji-geum yeong-hwa bo-go it-seo-yo
เรากำลังดูหนังอยู่ตอนนี้
 

엄마는 이미 시장에 갔어요.
ออม-มา-นึน อี-มี ชี-จัง-เอ กัด-ซอ-โย
eom-ma-neun i-mi si-jang-e gat-seo-yo
แม่ไปตลาดเรียบร้อยแล้ว
 

저는 아직 집에 있어요.

ชอ-นึน อา-จิก ชี-เบ อิซ-ซอ-โย
jeo-neun a-jik jib-e it-seo-yo
ฉันยังอยู่ที่บ้าน
 

곧 비가 올 것 같아요.
คด พี-กา อล กอด กา-ทา-โย
got bi-ga ol geot gat-a-yo
ฝนจะตกเร็ว ๆ นี้
 

저는 다시 시작할 거예요.
ชอ-นึน ทา-ชี ชี-จัก-ฮัล กอ-เย-โย
jeo-neun da-si si-jak-hal geo-ye-yo
ฉันจะเริ่มใหม่อีกครั้ง
 

저는 일찍 일어났어요.
ชอ-นึน อิล-จิก อี-รอ-นัด-ซอ-โย
jeo-neun il-jjik i-reo-nat-seo-yo
ฉันตื่นเช้า
 

친구는 늦게 도착했어요.
ชิน-กู-นึน นึจ-เก โด-ชัก-แคด-ซอ-โย
chin-gu-neun neut-ge do-chak-haet-seo-yo
เพื่อนมาสาย
 

우리는 모두 준비됐어요.
อู-รี-นึน โม-ดู ชุน-บี-ดเวด-ซอ-โย
u-ri-neun mo-du jun-bi-dwaet-seo-yo
พวกเราทุกคนเตรียมพร้อมแล้ว
 

우리는 함께 여행했어요.
อู-รี-นึน ฮัม-เก ยอ-แฮง-แฮด-ซอ-โย
u-ri-neun ham-kke yeo-haeng-haet-seo-yo
เราไปเที่ยวด้วยกัน
 

그는 혼자서 밥을 먹었어요.
คือ-นึน ฮน-จา-ซอ พา-บึล มอ-กอด-ซอ-โย
geu-neun hon-ja-seo bap-eul meo-geot-seo-yo
เขากินข้าวคนเดียว
 

เทคนิคง่าย ๆ ในการจดจำคำวิเศษณ์

         การจดจำคำวิเศษณ์สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยการจัดกลุ่มคำตามประเภท เช่น คำที่บอกเวลา ระดับ หรือวิธีการ รวมถึงการเขียนประโยคด้วยตนเองจากคำวิเศษณ์แต่ละคำ และฝึกพูดออกเสียงจริงในบริบทที่คล้ายสถานการณ์จริง

 

การสร้าง Flashcards โดยใส่คำศัพท์ด้านหนึ่ง และตัวอย่างประโยคอีกด้านหนึ่ง เป็นเครื่องมือที่ช่วยจำได้ดี อีกวิธีหนึ่งคือการตั้งเป้าหมายแต่งประโยควันละ 3-5 ประโยค ด้วยคำวิเศษณ์ใหม่ ๆ พร้อมพูดออกเสียงซ้ำหลาย ๆ ครั้ง

 

ข้อควรระวังในการใช้คำวิเศษณ์

         ผู้เรียนบางคนมักสับสนระหว่างคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น

많이 (มันฮี) ใช้สำหรับ “มาก” ที่เกี่ยวกับปริมาณ เช่น “많이 먹었어요.” (กินเยอะ)

ส่วน 아주 (อาจู) ใช้เพื่อขยายคำคุณศัพท์ เช่น “아주 예뻐요.” (สวยมาก)

 

การใช้ 너무 (นอมู) ต้องระวังด้วย เพราะแม้จะแปลว่า “มาก” แต่ในบางบริบทอาจฟังดูว่าเป็นการตำหนิหรือไม่สุภาพ เช่น “너무 늦었어요.” (มาสายมากเกินไป)

 

อีกจุดหนึ่งคือการหลีกเลี่ยงการวางคำวิเศษณ์ผิดตำแหน่งในประโยค เพราะแม้จะไม่ทำให้ผิดไวยากรณ์ แต่ก็อาจทำให้ประโยคฟังดูแปลก หรือไม่เป็นธรรมชาติในมุมมองของเจ้าของภาษา

 

ฝึกใช้ในชีวิตจริง สร้างความคุ้นเคย

         การนำคำวิเศษณ์ไปใช้ในสถานการณ์จำลองจะช่วยให้จดจำได้แม่นขึ้น เช่น

- ลองสั่งอาหารโดยใช้คำว่า 빨리 주세요 (ขอเร็ว ๆ หน่อยค่ะ)

- หรือขอให้เพื่อนอธิบายช้า ๆ ด้วยคำว่า 천천히 설명해 주세요 (อธิบายช้า ๆ หน่อย)

 

การพูดซ้ำ ๆ จนเกิดความคุ้นเคย จะทำให้สามารถเรียกใช้คำวิเศษณ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องแปลก่อนในใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการเรียนภาษาต่างประเทศ

 

         คำวิเศษณ์เป็นส่วนประกอบสำคัญของภาษาเกาหลีที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับการสื่อสาร ทั้งในด้านอารมณ์ ความหมาย และความชัดเจนของประโยค ยิ่งเรียนรู้และใช้บ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความคล่องแคล่วในการสนทนาได้มากขึ้นเท่านั้น คำวิเศษณ์จำนวนมากไม่ต้องผันรูป และมีโครงสร้างง่าย จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการยกระดับทักษะภาษาเกาหลีให้เหมือนเจ้าของภาษาอย่างแท้จริง

 

ติดตามชมเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • ohmm
  • 0 Followers
  • Follow