งานราชการ คือ การทำงานในหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานท้องถิ่น มีจุดเด่นที่หลายคนมองหา คือ
- ความมั่นคงในอาชีพ : โอกาสถูกเลิกจ้างน้อยมาก
- สวัสดิการครบถ้วน : ทั้งเรื่องค่ารักษาพยาบาล เงินเกษียณ และสวัสดิการครอบครัว
- เวลางานชัดเจน : ส่วนใหญ่ทำงานจันทร์–ศุกร์ เวลา 08.30–16.30 น.
- ขั้นเงินเดือนและตำแหน่งเติบโตตามระบบ : ไม่ต้องแข่งขันด้าน Performance มากเท่าภาคเอกชน
แต่ข้อจำกัด คือ ขั้นตอนการสอบเข้ายาก และอัตราการปรับเงินเดือนค่อนข้างช้า
งานเอกชน คือ การทำงานให้กับบริษัทหรือองค์กรที่ดำเนินธุรกิจแสวงหากำไร ซึ่งมีข้อดีที่แตกต่างจากราชการ เช่น:
- รายได้สูงกว่า (ในหลายสายงาน) และมีโบนัสตามผลงาน
- เติบโตไว ถ้ามี Performance ดี
- มีโอกาสเปลี่ยนสายงาน หรือโยกย้ายได้ง่าย
- มีวัฒนธรรมองค์กรที่หลากหลายและยืดหยุ่น
แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่า เช่น โอกาสโดนเลิกจ้าง การทำงานเกินเวลาปกติ และการแข่งขันภายในสูง
ลองตอบคำถามต่อไปนี้ เพื่อดูว่าสายงานไหนเข้ากับบุคลิกและเป้าหมายของตัวเรา
1. คุณให้ความสำคัญกับความมั่นคงหรือความท้าทาย ?
A : ความมั่นคง B : ความท้าทาย
2. คุณอยากทำงานตามเวลาหรือยืดหยุ่นได้ ?
A : เวลาชัดเจน B : ยืดหยุ่นได้
3. คุณรับได้ไหมถ้ารายได้เติบโตช้ากว่า แต่มั่นคง ?
A : รับได้ B : อยากได้เงินเร็ว
4. คุณอยากเติบโตแบบมีแผนที่ชัดเจน หรือพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ?
A : แผนที่ชัดเจน B : พร้อมเปลี่ยนแปลง
5. คุณสนใจสวัสดิการและการเกษียณในอนาคตมากน้อยแค่ไหน ?
A : มาก B : พอประมาณ
ไม่ว่าเราจะเลือกสายงานไหนสิ่งสำคัญ คือ ความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายชีวิตของตัวเอง
หากต้องการ “ความมั่นคงระยะยาว และสวัสดิการดูแล" : เลือกงานราชการ
หากต้องการ “ความเร็วในการเติบโต รายได้สูง และชอบความท้าทาย" : เลือกงานเอกชน
แต่อย่าลืมว่าทั้งสองเส้นทางมีโอกาสดี และความสำเร็จในแบบของตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถสร้างคุณค่าในตำแหน่งนั้นได้หรือไม่
การตัดสินใจเลือกงานราชการหรือเอกชนดี ไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว บางคนเหมาะกับระบบราชการที่มั่นคงและมีแบบแผน ขณะที่อีกหลายคนเติบโตในสายงานเอกชนที่มีความยืดหยุ่นและเงินเดือนสูง บทความนี้หวังว่าจะช่วยให้มองเห็นชัดขึ้นว่าสายงานไหน เหมาะกับตัวเองจริง ๆ