ผู้เชี่ยวชาญ HR วิเคราะห์ว่า ปัญหาเงินเดือนน้อยแต่งานหนัก มักเกิดจากปัจจัยต่อไปนี้
- องค์กรขาดระบบประเมินผลงาน และขึ้นเงินเดือนที่เป็นธรรม
- บทบาทงานขยายขึ้น แต่ไม่มีการปรับเงินเดือนตาม
- ความต้องการแรงงานสูง แต่ขาดคนที่มีคุณภาพ
- วัฒนธรรมองค์กรเน้นผลลัพธ์ มากกว่าคุณภาพชีวิตของพนักงาน
หากงานที่คุณทำเกินขอบเขตที่ตกลงไว้ตั้งแต่ต้น และไม่มีการพูดคุย หรือชดเชยอย่างเหมาะสม นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าองค์กรไม่ให้ความสำคัญกับความยุติธรรมในงาน
เปรียบเทียบเงินเดือนของคุณกับตลาดแรงงานในสายงานเดียวกัน ผ่านเว็บไซต์จัดหางาน หรือสอบถามจากเครือข่ายวิชาชีพ หากเงินเดือนคุณต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมีนัยสำคัญ และไม่มีแนวโน้มจะเพิ่ม ควรพิจารณาการย้ายงาน
ถ้าคุณทำงานหนักมาตลอด แต่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง หรือมีการพัฒนาทักษะใหม่เลย แสดงว่าเส้นทางในองค์กรอาจตัน การเปลี่ยนงานอาจเปิดประตูใหม่ที่ให้คุณเติบโตได้จริง
งานที่หนักและกดดันเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะหมดไฟ (burnout) ซึ่ง HR หลายคนยืนยันว่าไม่ควรปล่อยให้ถึงจุดนั้น การเปลี่ยนงานจึงอาจเป็นวิธีดูแลตัวเองที่ดีที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญ HR ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า การเปลี่ยนงานไม่ใช่เรื่องผิด หากเป็นการเปลี่ยนเพื่อพัฒนาตัวเอง เพิ่มรายได้ หรือหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องวางแผนล่วงหน้า เช่น
- เตรียมอัปเดต RESUME และ PORTFOLIO ให้พร้อม
- เสริมทักษะเพิ่มเติมที่ตลาดต้องการ เช่น AI , DATA เป็นต้น
- ควรสร้างเครือข่ายในสายงาน เพื่อให้รองรับหากต้องเริ่มงานใหม่
- สำคัญมากเราควรศึกษาบริษัทใหม่ให้ละเอียดก่อนสมัคร ทำเกี่ยวกับอะไร โดยเฉพาะหน้าที่ที่เราต้องรับผิดชอบ ต้องรู้ให้ลึกและรอบด้านที่สุด
1. งานที่ทำอยู่ส่งผลเสียต่อสุขภาพไหม ? ✔️ / ❌
2. เงินเดือนไม่พอกับค่าครองชีพหรือไม่ ? ✔️ / ❌
3. องค์กรมีแนวโน้มปรับปรุงค่าตอบแทนในเร็ว ๆ นี้หรือไม่ ? ✔️ / ❌
4. ยังมีโอกาสพัฒนา/เลื่อนตำแหน่งในองค์กรเดิมหรือไม่ ? ✔️ / ❌
5. คุณพร้อมทั้งใจ และความสามารถสำหรับการเปลี่ยนงานไหม ? ✔️ / ❌
หากตอบว่า “✔️” มากกว่า 3 ข้อขึ้นไป การพิจารณาเปลี่ยนงานอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม