สิทธิและหน้าที่ของนักเรียนเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ปกครอง ครู และนักเรียนควรเข้าใจอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาพิจารณาภายใต้กรอบของ กฎหมายการศึกษา และเชื่อมโยงกับ กฎหมายแพ่ง ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ของบุคคลในสังคม การรู้เท่าทันสิทธิและหน้าที่เหล่านี้ช่วยให้นักเรียนดำรงชีวิตในโรงเรียนได้อย่างมีความสุข รู้จักเคารพกฎระเบียบ และสามารถปกป้องตนเองได้อย่างเหมาะสมเมื่อเกิดปัญหา
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
- พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
- พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ถือเป็นกฎหมายแม่บทของระบบการศึกษาไทย ซึ่งออกมาเพื่อกำหนดแนวทางและเป้าหมายของการจัดการศึกษาในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ และมีการปฏิรูปในหลายด้าน โดยกฎหมายฉบับนี้ได้กำหนด มาตราสำคัญหลายประการที่นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาควรรู้ เพื่อให้เข้าใจสิทธิ หน้าที่ และบทบาทของตนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่น
มาตรา 6 ผู้เรียนมีสิทธิและหน้าที่ในการพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ มีสิทธิได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ และรัฐต้องส่งเสริมให้การศึกษาทั่วถึง
มาตรา 7 การศึกษาต้องพัฒนาทั้งคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
มาตรา 11 การจัดการศึกษาต้องยึดหลักความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันทางการศึกษา
มาตรา 66 นักเรียนควรปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมไทย
กฎหมายฉบับนี้เน้นย้ำว่า นักเรียนไม่เพียงแค่ “เรียนหนังสือ” เท่านั้น แต่ต้อง “พัฒนาทั้ง ความรู้ และ คุณธรรม” ควบคู่กันไป
ในทาง กฎหมายแพ่ง นักเรียนส่วนใหญ่มีสถานะเป็น ผู้เยาว์ คือบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งก่อให้เกิดข้อจำกัดและการคุ้มครองทางกฎหมาย เช่น
- ผู้เยาว์ไม่สามารถทำสัญญาบางประเภทได้เอง เช่น การซื้อขายทรัพย์สินมูลค่าสูง ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง
- หากผู้เยาว์ก่อความเสียหายแก่ผู้อื่น เช่น ทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน ผู้ปกครองอาจต้องรับผิดชอบร่วม
สิทธิของนักเรียน หมายถึง สิ่งที่นักเรียนพึงได้รับตามหลักกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียม เสรีภาพ และการคุ้มครองจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งสิทธิเหล่านี้ได้รับการรับรองจากหลายกฎหมาย เช่น
สิทธิต่าง ๆ ที่นักเรียนพึงมีตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีดังนี้
นักเรียนทุกคนมี สิทธิในการศึกษา โดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเพศ เชื้อชาติ ศาสนา หรือฐานะ ครอบคลุมถึงการเข้าถึงอุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอน และโอกาสทางการศึกษาอย่างเป็นธรรม
นักเรียนมีสิทธิได้รับการปกป้องจากการใช้ความรุนแรง การกลั่นแกล้ง หรือการลงโทษที่ไม่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและขัดต่อ กฎหมายสิทธิเด็ก
ตามรัฐธรรมนูญ นักเรียนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ และเหมาะสมในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็นต่อกิจกรรมของโรงเรียน หรือการเสนอแนะแนวทางการเรียนการสอน
นักเรียนมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผลการเรียน สุขภาพ หรือข้อมูลครอบครัว ซึ่งโรงเรียนและครูต้องรักษาความลับและไม่เปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต
โรงเรียนต้องให้ความเป็นธรรมกับนักเรียนทุกคน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ไม่ลำเอียงในการประเมินผล หรือการให้โอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติม
ทั้งนี้ สิทธิเหล่านี้สอดคล้องกับ "สิทธิตามกฎหมายแพ่ง" เช่น สิทธิในชีวิต ร่างกาย ชื่อเสียง และทรัพย์สินของผู้เยาว์
นักเรียนต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนตามหลักสูตรของสถานศึกษา เข้าชั้นเรียนตามเวลา ส่งงานตามกำหนด และตั้งใจทำกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางที่โรงเรียนจัดไว้
นักเรียนต้องปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด เช่น การแต่งกาย การใช้ภาษา การเข้าแถว เคารพครู และการปฏิบัติตนตามมารยาทสังคมที่ดี
นักเรียนต้องไม่ละเมิดสิทธิของเพื่อน ครู หรือบุคลากรในโรงเรียน ไม่รังแกหรือกลั่นแกล้งผู้อื่น ทั้งทางร่างกาย คำพูด และผ่านสื่อออนไลน์
นักเรียนต้องมีความรับผิดชอบในการรักษาความสะอาดในห้องเรียน โรงเรียน และพื้นที่สาธารณะ รวมถึงการไม่ทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน
นักเรียนควรเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน เช่น กิจกรรมจิตอาสา วันสำคัญต่าง ๆ หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อฝึกความรับผิดชอบและสร้างทักษะทางสังคม
ข้อมูลอ้างอิง
สภาการศึกษา
ยูนิเซฟ
กรมกิจการเด็กและเยาวชน