สิทธิและหน้าที่ของเจ้าของคอนโดตามกฎหมาย เป็นสิ่งที่เจ้าของห้องชุดทุกคนควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะเมื่อกฎหมายคอนโดมิเนียม พ.ศ. 2522 และ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้กำหนดกรอบหน้าที่ไว้อย่างชัดเจน การรู้สิทธิของตนเอง และเข้าใจข้อจำกัดตามกฎหมาย จะช่วยลดปัญหาการอยู่อาศัยร่วมกับผู้อื่น และสร้างความสงบสุขในสังคมคอนโดมิเนียมได้อย่างยั่งยืน
พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ได้ให้ความหมายของคำว่า “เจ้าของห้องชุด” ไว้ว่า
“เจ้าของห้องชุด” หมายถึง บุคคลผู้มีกรรมสิทธิ์ในห้องชุดนั้น
ซึ่งคำว่า “กรรมสิทธิ์” ในที่นี้หมายถึง สิทธิเต็มที่ในการครอบครอง ใช้สอย โอน จำนอง และจัดการห้องชุด ตามที่เจ้าของเห็นสมควร ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายและข้อบังคับของอาคารชุด โดยมีสิทธิดังนี้
เจ้าของมีกรรมสิทธิ์เฉพาะในพื้นที่ของห้องชุดที่ตนถือครอง เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ฯลฯ และสามารถตกแต่งหรือขายต่อได้ตามกฎหมาย
เจ้าของห้องชุดทุกคนมีกรรมสิทธิ์รวมในทรัพย์ส่วนกลาง เช่น ทางเดิน ลิฟต์ สระว่ายน้ำ พื้นที่สวน ซึ่งเป็นสิทธิร่วมที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกัน
เจ้าของสามารถเข้าร่วมประชุมใหญ่ของนิติบุคคลอาคารชุด และมีสิทธิออกเสียงในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเลือกคณะกรรมการ การอนุมัติงบประมาณ และการจัดการเรื่องทรัพย์ส่วนกลาง
เจ้าของคอนโดสามารถขอตรวจสอบบัญชี รายงานการเงิน หรือการดำเนินงานของนิติบุคคลอาคารชุด เพื่อความโปร่งใสในการบริหารจัดการ
ตาม พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 และอ้างอิง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336–1344 กำหนดว่า “เจ้าของห้องชุด” คือ ผู้ที่มี กรรมสิทธิ์ในห้องชุด และกรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์ส่วนกลาง เช่น ลิฟต์ สวน ทางเดิน หรือฟิตเนส
แม้จะมีสิทธิหลายประการ แต่เจ้าของคอนโดก็มีหน้าที่สำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้เช่นกัน
- เจ้าของต้องเคารพ ข้อบังคับนิติบุคคลอาคารชุด รวมถึงกฎระเบียบที่กำหนดไว้
- ห้ามใช้พื้นที่ส่วนตัวหรือส่วนกลางผิดวัตถุประสงค์ เช่น เปิดร้านค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ตาม มาตรา 1367 ของประมวลกฎหมายแพ่ง เจ้าของต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนกลางตามอัตราส่วนกรรมสิทธิ์
- ค่าบำรุงรักษา ค่ารักษาความปลอดภัย ค่าไฟฟ้าส่วนกลาง ฯลฯ ถือเป็นหน้าที่โดยตรง
- ห้ามส่งเสียงดัง ปล่อยสัตว์รบกวน หรือทำกิจกรรมที่กระทบสิทธิของผู้อื่น
- มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในอาคารตาม มาตรา 1337 แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง
- เจ้าของห้องชุดมีสิทธิเข้าร่วมประชุมใหญ่และมี หน้าที่ร่วมตัดสินใจในเรื่องสำคัญ เช่น การปรับปรุงอาคาร หรือการฟ้องร้องในนามนิติบุคคลอาคารชุด
- หากต้องการดัดแปลงใด ๆ เช่น ทุบผนัง สร้างส่วนต่อเติม ต้องได้รับอนุญาตจากนิติบุคคลก่อน
- การดัดแปลงโดยพลการอาจขัดต่อ มาตรา 420 (ละเมิด) และทำให้เจ้าของต้องรับผิดทางแพ่ง
- ข้อพิพาทกับนิติบุคคลอาคารชุด เช่น ค่าส่วนกลางแพงเกินจริง หรือการจัดการที่ไม่โปร่งใส
- เพื่อนบ้านรบกวนสิทธิ เช่น เสียงดัง กลิ่นอาหาร สูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ
- การปรับปรุงห้องที่ผิดระเบียบ ทำให้เกิดปัญหาด้านโครงสร้างหรือไฟไหม้
ในกรณีเหล่านี้ เจ้าของสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายในการแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือฟ้องร้องตามกฎหมายแพ่งได้
ข้อมูลอ้างอิง
กรมที่ดิน