SMART Goals คือหลักการตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้เรากำหนดเป้าหมายได้อย่างชัดเจน มีระบบ และสามารถติดตามผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำว่า SMART ย่อมาจาก
S – Specific (เฉพาะเจาะจง)
M – Measurable (วัดผลได้)
A – Achievable (สามารถทำได้จริง)
R – Relevant (สอดคล้องกับเป้าหมายชีวิตหรือวิสัยทัศน์)
T – Time-bound (มีกรอบเวลาชัดเจน)
การตั้งเป้าหมายทั่วไป เช่น “อยากมีสุขภาพดี” หรือ “อยากรวย” อาจฟังดูดี แต่ขาดความชัดเจนและแนวทางปฏิบัติจริง SMART Goals เข้ามาช่วย “เปลี่ยนความอยาก” ให้เป็น “แผนที่” ที่เราสามารถเดินตามได้อย่างมั่นคง และลดความเครียดจากการไม่รู้ว่าเริ่มต้นอย่างไร
1. Specific (เฉพาะเจาะจง)
ถามตัวเองว่า : เราต้องการอะไรจริง ๆ?
วิธีผิด : อยากเก่งภาษาอังกฤษ
วิธีถูก : ต้องการพูดภาษาอังกฤษได้คล่องในระดับสนทนา
2. Measurable (วัดผลได้)
ระบุให้ชัดเจนว่าจะวัดผลสำเร็จได้อย่างไร
วิธีผิด : อ่านหนังสือเยอะขึ้น
วิธีถูก : อ่านหนังสืออย่างน้อย 12 เล่มใน 1 ปี
3. Achievable (สามารถทำได้จริง)
เป้าหมายควรท้าทายแต่ไม่เกินจริง
วิธีผิด : ลดน้ำหนัก 10 กิโลใน 1 สัปดาห์
วิธีถูก : ลดน้ำหนัก 2 กิโลใน 1 เดือน ด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย
4. Relevant (สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ชีวิต)
เป้าหมายควรมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราอยากเป็น
ตัวอย่าง : หากอยากเป็นผู้บริหาร เป้าหมายในการเรียนหลักสูตร MBA จะสอดคล้องกับทิศทางชีวิต
5. Time-bound (กำหนดเวลาแน่นอน)
ตั้งเดดไลน์ให้ตัวเองเพื่อกระตุ้นการลงมือทำ
ตัวอย่าง : สำเร็จเป้าหมายภายใน 6 เดือน หรือก่อนอายุ 30 ปี
- การเงิน : เก็บเงินให้ได้ 100,000 บาท ภายใน 12 เดือน โดยออมอย่างน้อยเดือนละ 8,500 บาท
- สุขภาพ : ออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 30 นาทีต่อวัน ติดต่อกัน 3 เดือน
- การเรียน/พัฒนา : ลงเรียนคอร์สออนไลน์เพื่อพัฒนา Presentation Skill ให้จบภายใน 2 เดือน
- เขียนลงบนกระดาษหรือแอปแล้วอ่านทุกวัน
- บอกคนใกล้ตัว เพื่อเพิ่มแรงบรรดาลใจและแรงสนับสนุนมากขึ้น
- รีวิวความคืบหน้า ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน
- ปรับเปลี่ยนเป้าหมายได้ตามสถานการณ์ โดยไม่รู้สึกผิดต่อตัวเอง หรือเครียดจนเกินไป