หลายคนใช้ชีวิตแบบ “ตามน้ำ” ทำงานไปวัน ๆ โดยไม่มีแผน จนสุดท้ายต้องมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแทนการพัฒนาให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง คนที่ประสบความสำเร็จมักจะให้ความสำคัญกับการวางแผน และใช้เวลาอย่างชาญฉลาด พวกเขารู้ว่าไม่ใช่ทุกสิ่งที่ "เร่งด่วน" จะ "สำคัญ"
การจัดลำดับเริ่มต้นจากการรู้ว่า “เป้าหมายชีวิตของเราคืออะไร” เช่น เป้าหมายด้านอาชีพ ครอบครัว สุขภาพ การเงิน หรือการเรียนรู้ อาจใช้เทคนิค SMART Goals เพื่อให้เป้าหมายวัดผลได้จริงมีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ
SMART Goal คือ เทคนิคในการตั้งเป้าหมายอย่างเจาะจง (Specific) วัดผลได้ (Measurable) ทำได้จริง (Achievable) เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการ (Relevant) และอยู่ในกรอบเวลาที่เหมาะสม(Time-bound)
ใช้เครื่องมือยอดนิยมอย่าง Eisenhower Matrix แบ่งกิจกรรมออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
- สำคัญและเร่งด่วน → ทำทันที
- สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน → วางแผนและทำอย่างต่อเนื่อง
- ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน → มอบหมายให้ผู้อื่น
- ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน → ตัดออก
หลักการ (80/20 Rule) บอกว่า 20% ของกิจกรรมมักให้ผลลัพธ์ถึง 80% เช่น มีแค่บางงานเท่านั้นที่สร้างรายได้หลัก หรือส่งผลต่อการเติบโตของเรามากที่สุด จึงควรให้เวลากับงานเหล่านั้นก่อน
การวางแผนเป็นรายช่วงเวลาช่วยให้มีภาพรวมและติดตามเป้าหมายระยะยาวได้ง่ายขึ้น ควรจดสิ่งที่ต้องทำประจำวัน และกำหนดเวลาให้กับกิจกรรมที่สำคัญก่อนกิจกรรมอื่น
สิ่งที่เราเห็นว่าสำคัญในวันนี้ อาจไม่เหมือนกับอีก 5 ปีข้างหน้า การทบทวนเป้าหมายหรือคุณค่าที่เราให้ความสำคัญ จะช่วยให้ไม่หลงทาง และจัดลำดับความสำคัญได้สอดคล้องกับเป้าหมายใหม่
ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย การแจ้งเตือน หรือคนรอบตัว สิ่งเหล่านี้สามารถเบี่ยงเบนเราจากสิ่งที่สำคัญที่สุดได้ ควรมีช่วงเวลาปลอดรบกวนเพื่อโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญจริง ๆ
การพูดคำว่า "ไม่" เป็นทักษะที่จำเป็น คนที่ประสบความสำเร็จ มักปฏิเสธกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของพวกเขา เพื่อรักษาเวลาและพลังงานไว้ใช้กับสิ่งที่มีคุณค่าจริง
อย่าโฟกัสแค่ “งาน” จนลืม “สุขภาพ” หรือ “ครอบครัว” การจัดลำดับความสำคัญควรคำนึงถึงสมดุลชีวิต เช่น การแบ่งเวลาออกเป็นส่วนของงาน การพักผ่อน การออกกำลังกาย และเวลาสำหรับคนที่เรารัก