หากคุณเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานเรือ ไม่ว่าจะเพื่อการเดินทาง การพาณิชย์ หรือการท่องเที่ยว สิ่งสำคัญอันดับแรกที่คุณควรทราบคือ ประเภทใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ, ใบอนุญาตเรือ และใบอนุญาตขับเรือ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญตามกฎหมายที่ผู้ใช้เรือทุกประเภทต้องมีความรู้ เพื่อความปลอดภัย และไม่ละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ควบคุมการใช้ทรัพย์สิน และการรับผิดทางแพ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ทางน้ำ
ใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ คือ เอกสารที่รับรองว่าพาหนะ หรือเรือที่ใช้เดินทางในแหล่งน้ำสาธารณะมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยอ้างอิงตามระเบียบของกรมเจ้าท่า และกฎหมายแพ่งว่าด้วยทรัพย์สิน ใบอนุญาตนี้เปรียบเสมือนทะเบียนบ้านของเรือ ที่แสดงเจ้าของ ประเภทการใช้งาน และคุณสมบัติของตัวเรืออย่างชัดเจน
รับรองว่าเรือได้จดทะเบียนถูกต้อง
ระบุประเภทของเรือ เช่น ใช้ส่วนตัว พาณิชย์ ประมง ฯลฯ
ระบุชื่อเจ้าของและสถานะการใช้งาน
แสดงว่าเรือผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัย
ใบอนุญาตพาหนะทางน้ำสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีวัตถุประสงค์ และข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ดังนี้
เหมาะสำหรับ :
เรือยนต์ขนาดเล็ก
เรือใช้เพื่อการท่องเที่ยว หรือพักผ่อนส่วนตัว
เรือที่ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิชย์
คุณสมบัติของใบอนุญาต :
เจ้าของต้องยื่นขอจดทะเบียนที่สำนักงานเจ้าท่าท้องถิ่น
ไม่อนุญาตให้รับผู้โดยสาร หรือขนส่งสินค้าเพื่อการค้า
ต้องมีเครื่องยนต์ไม่เกินกำลังที่กฎหมายกำหนด
ตัวอย่าง : เรือเจ็ทสกี, เรือยอชต์ส่วนตัว, เรือยนต์เล็กขับในคลองหรือแม่น้ำ
เหมาะสำหรับ :
เรือโดยสารประจำทาง
เรือขนส่งสินค้า
เรือบริการนำเที่ยว
คุณสมบัติของใบอนุญาต :
ต้องผ่านการตรวจสภาพเรือจากเจ้าท่า
ต้องระบุจำนวนผู้โดยสารหรือสินค้าที่สามารถรับได้
ต้องมีใบอนุญาตขับเรือของผู้ควบคุมเรือที่ถูกต้อง
มีประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด
ตัวอย่าง : เรือข้ามฟาก, เรือหางยาวพานักท่องเที่ยว, เรือขนส่งในแม่น้ำเจ้าพระยา
เหมาะสำหรับ :
เรือที่ใช้เพื่อการประมงในทะเลหรือแม่น้ำ
เรือที่จดทะเบียนเพื่อกิจการเกษตรทางน้ำ
คุณสมบัติของใบอนุญาต :
ต้องได้รับอนุญาตทั้งจากกรมเจ้าท่า และกรมประมง
เรือประมงพาณิชย์ต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบ (VMS)
ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย IUU (การประมงผิดกฎหมาย)
ตัวอย่าง : เรืออวนลาก, เรือประมงชายฝั่ง, เรือประมงอุตสาหกรรม
เหมาะสำหรับ :
เรือราชการ หรือเรือหน่วยงานเฉพาะกิจ
เรือดับเพลิง เรือกู้ภัย
เรือขุดลอก หรือเรือทำการวิจัย
คุณสมบัติของใบอนุญาต :
ต้องมีการขออนุมัติเป็นกรณีไป
ต้องระบุภารกิจและพื้นที่การใช้
อาจไม่เปิดใช้งานในเชิงพาณิชย์
ตัวอย่าง : เรือกรมเจ้าท่า, เรือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, เรือเก็บขยะ
เคล็ดลับ : การเลือกประเภทใบอนุญาตให้ตรงกับการใช้งานช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย และเพิ่มความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ
เรือยนต์ที่มีกำลังตั้งแต่ 5 แรงม้าขึ้นไป
เรือที่ใช้เพื่อขนส่งคนหรือสินค้า
เรือท่องเที่ยว เรือประมง เรือราชการ
ใบอนุญาตเรือเปรียบเสมือน “ป้ายทะเบียนรถยนต์” เป็นเอกสารแสดงความถูกต้องตามกฎหมายของตัวพาหนะ
ผู้ขับเรือที่ไม่มีใบอนุญาตถือว่าผิดกฎหมายตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตราเกี่ยวกับความรับผิดของเจ้าของพาหนะและผู้ควบคุม
ข้อมูลอ้างอิง
กรมเจ้าท่า
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา