Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ขั้นตอนการขอใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ สิ่งที่คุณควรรู้

Posted By Kung_nadthanan | 29 เม.ย. 68
134 Views

  Favorite

 

การขอใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ เป็นขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของเรือทุกคนต้องดำเนินการตามกฎหมายไทย เพื่อให้สามารถใช้เรือหรือพาหนะทางน้ำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การขอใบอนุญาตนี้เกี่ยวข้องกับ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยพาหนะทางน้ำ ซึ่งกำหนดรายละเอียดขั้นตอนการขอใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ เอกสารที่ต้องใช้ และเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติอย่างครบถ้วน หากคุณกำลังมองหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีดำเนินการอย่างถูกต้อง

 

ยานพาหนะทางน้ํา

อ้างอิง “พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ํา ไทย พระพุทธศักราช ๒๔๕๖” ในพระราชบัญญัตินี้ กล่าวว่า 

เรือ” หมายความว่า ยานพาหนะทางน้ำทุกชนิด ไม่ว่าจะใช้เพื่อบรรทุกลําเลียง โดยสาร ลาก จูง ดัน ยก ขุด หรือลอก รวมทั้งยานพาหนะอย่างอื่นที่สามารถใช้ในน้ำได้ทํานองเดียวกัน

 

ใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ

ใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ เป็นเอกสารสำคัญที่แสดงว่าเรือ หรือพาหนะทางน้ำของคุณได้ผ่านการจดทะเบียน และได้รับอนุญาตให้ใช้งานได้ตามกฎหมาย หากไม่มีใบอนุญาต อาจถูกปรับหรือดำเนินคดีได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการรับรองความปลอดภัยของตัวเรือ ซึ่งส่งผลต่อประกันภัย และการใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวทางน้ำ

การขอใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ เป็นกระบวนการทางกฎหมายที่ผู้มีพาหนะทางน้ำ เช่น เรือยนต์ เรือโดยสาร เรือประมง หรือเรือเพื่อการพาณิชย์ ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อให้สามารถใช้งานเรือได้อย่างถูกต้องตาม พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย และข้อกำหนดของ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยพาหนะทางน้ำ

 

 

ขั้นตอนการขอใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ

1. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

การเตรียมเอกสารเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด เพื่อป้องกันการเสียเวลาเอกสารไม่ครบ โดยทั่วไปเอกสารที่ใช้ประกอบการขอใบอนุญาต ได้แก่

แบบฟอร์มคำขออนุญาตใช้พาหนะทางน้ำ กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ รายละเอียดเกี่ยวกับเรือ แบบฟอร์มนี้สามารถขอรับได้ที่สำนักงานเจ้าท่า หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ทางการ

- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของเรือ เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง หรือกรณีเป็นนิติบุคคล ต้องใช้หนังสือรับรองนิติบุคคล และสำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม

สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของเรือ ใช้เพื่อยืนยันที่อยู่

หลักฐานการได้มา หรือกรรมสิทธิ์ในเรือ เช่น สัญญาซื้อขายเรือ, ใบเสร็จรับเงิน, ใบส่งมอบเรือจากผู้ผลิตหรือผู้ขาย และสำเนาทะเบียนเรือเก่า (กรณีโอนเรือ)

ใบรับรองมาตรฐานตัวเรือ (ถ้ามี) ใช้กรณีเรือใหม่ หรือเรือที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากหน่วยงานที่รับรองแล้ว เช่น โรงงานผลิตเรือที่ได้มาตรฐาน

รูปถ่ายตัวเรือ ด้านหน้า, ด้านข้าง, ด้านหลังของเรือ และต้องเห็นหมายเลขตัวเรือ (Hull Number) ชัดเจน (ถ้ามี)

ใบรับรองการตรวจเรือ (กรณีจำเป็น) เรือที่มีขนาดใหญ่ หรือเรือเพื่อการพาณิชย์ จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบ และมีใบรับรองจากเจ้าหน้าที่เจ้าท่า

หนังสือมอบอำนาจ (กรณีมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน) พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

ใบเสร็จการชำระค่าภาษีเรือ (กรณีเรือที่ต้องเสียภาษีประจำปี) แนบเพื่อยืนยันว่าเรือไม่มีภาระค้างภาษี

หมายเหตุ : เอกสารอาจแตกต่างตามประเภทของเรือ และข้อกำหนดของสำนักงานเจ้าท่าในแต่ละพื้นที่

 

2. ยื่นคำขอที่สำนักงานเจ้าท่า

เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วน ให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่

- สำนักงานเจ้าท่ากลาง (ในกรุงเทพฯ)

- สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค (ต่างจังหวัด)

- หน่วยงานท้องถิ่นที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพาหนะทางน้ำ

เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับตัวเรือ และความครบถ้วนของเอกสาร

 

3. การตรวจสภาพเรือ

หลังการยื่นเอกสาร เจ้าหน้าที่จะนัดหมายเพื่อตรวจสภาพเรือ ซึ่งรวมถึง

- ความแข็งแรงของตัวเรือ

- ระบบขับเคลื่อน

- อุปกรณ์ช่วยชีวิต เช่น เสื้อชูชีพ, ห่วงชูชีพ

- อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ไฟสัญญาณ, ระบบดับเพลิง

- ความเหมาะสมในการใช้งานตามประเภทของพาหนะทางน้ำ

หากพบข้อบกพร่อง เจ้าหน้าที่อาจสั่งให้แก้ไขก่อนดำเนินการขั้นตอนถัดไป

 

4. ชำระค่าธรรมเนียม

เมื่อผ่านการตรวจสภาพเรือแล้ว ผู้ขอต้องชำระค่าธรรมเนียมที่กำหนด โดยอัตราค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับ

- ขนาดของเรือ (ระวางน้ำหนักตันกรอสส์)

- ประเภทการใช้งาน (ส่วนตัว หรือพาณิชย์)

- อายุกี่ปีที่ต้องต่ออายุใบอนุญาต

ตัวอย่างค่าธรรมเนียม

- เรือขนาดเล็ก : 100-500 บาท

- เรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ : หลายพันบาทขึ้นไป

 

5. รับใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ

เมื่อดำเนินการทุกขั้นตอนเรียบร้อย และเอกสารถูกต้องครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะออกใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ ซึ่งระบุข้อมูลสำคัญ เช่น

- ชื่อเจ้าของเรือ

- หมายเลขทะเบียนเรือ

- ข้อมูลจำเพาะของเรือ (ขนาด, วัสดุ, ระบบขับเคลื่อน)

- ระยะเวลาในการใช้ใบอนุญาต

ใบอนุญาตนี้ต้องนำติดไว้กับเรือทุกครั้งที่มีการใช้งาน

 

คำแนะนำเพิ่มเติม ในการเตรียมเอกสาร

- ควรเตรียมเอกสารให้ครบทุกชุด และสำเนาอย่างน้อย 2 ชุด

- ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล และหมายเลขเรือในเอกสารทุกใบให้ตรงกัน

- เซ็นรับรองสำเนาถูกต้องในทุกหน้าที่ทำสำเนา

- นำตัวจริงของเอกสารสำคัญไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันยื่นคำขอด้วย

 

สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การขอใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ

- หากมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ ต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์ และแจ้งสำนักงานเจ้าท่าทันที

- ใบอนุญาตมีอายุการใช้งาน ต้องต่ออายุทุก 1-3 ปี แล้วแต่ประเภทเรือ

- ในกรณีที่ไม่ต่ออายุในระยะเวลาที่กำหนด อาจต้องเสียค่าปรับหรือดำเนินการใหม่ทั้งหมด

- เรือบางประเภท เช่น เรือยนต์ขนาดเล็กอาจได้รับการยกเว้นบางขั้นตอน แต่ควรตรวจสอบกับสำนักงานเจ้าท่าก่อนเสมอ

 

การขอใบอนุญาตพาหนะทางน้ำ เป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อนหากเตรียมเอกสารครบถ้วน และปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อความมั่นใจว่าคุณสามารถใช้งานพาหนะทางน้ำได้อย่างปลอดภัย ถูกกฎหมาย และไร้ปัญหาในอนาคต อย่าลืมศึกษาขั้นตอนการขอใบอนุญาต และเตรียมเอกสารที่ต้องใช้ให้พร้อมก่อนยื่นคำขอ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น

 

ข้อมูลอ้างอิง

กรมเจ้าท่า

สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Kung_nadthanan
  • 0 Followers
  • Follow