การสมรสตามกฎหมายไทย เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ชีวิตคู่มีสถานะถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับสิทธิและหน้าที่ที่กฎหมายรับรองไว้ การเข้าใจ ขั้นตอนการสมรส และข้อกำหนดการสมรส จะช่วยให้การจดทะเบียนสมรสดำเนินไปอย่างราบรื่น พร้อมป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต
การสมรสตามกฎหมายไทย คือ การที่ชายและหญิงทำการจดทะเบียนสมรสอย่างเป็นทางการต่อเจ้าพนักงานของรัฐ เช่น ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ
เมื่อจดทะเบียนแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะได้รับสถานะ “คู่สมรส” ตามกฎหมาย และมีสิทธิหน้าที่ตามที่ระบุใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว
ข้อควรรู้ :
การอยู่ด้วยกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส ไม่ถือเป็นการสมรสตามกฎหมาย
การสมรสต้องกระทำโดยสมัครใจทั้งสองฝ่าย
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว การสมรส คือ การที่ชายและหญิงยินยอมเป็นสามีภรรยากัน โดยต้องแสดงเจตนาต่อหน้าเจ้าพนักงาน และจดทะเบียนสมรสตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด
การสมรสถือเป็นสัญญาและสถานะที่มีผลทางกฎหมายอย่างเป็นทางการในสังคมไทย กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทย (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว) ได้กำหนด คุณสมบัติของผู้ที่สามารถสมรสได้ ไว้อย่างชัดเจน เพื่อคุ้มครองสิทธิของทั้งสองฝ่าย และเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม ดังนั้น คุณสมบัติของผู้ที่จะสมรสตามกฎหมายไทย ที่ควรต้องรู้ดังนี้
ผู้ที่จะสมรสต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์
หากมีความจำเป็น เช่น ตั้งครรภ์หรือมีเหตุพิเศษ สามารถขออนุญาตจากศาลเพื่อสมรสก่อนอายุ 17 ปีได้
หมายเหตุ :
ผู้เยาว์ที่มีอายุระหว่าง 17-19 ปี (ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์) ต้องได้รับ ความยินยอมจากผู้ปกครอง (บิดา มารดา หรือผู้ใช้อำนาจปกครอง) ก่อนทำการสมรส หากไม่มีการยินยอม จำเป็นต้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตแทน
บุคคลที่มีภาวะวิกลจริต (เช่น บกพร่องทางสติปัญญาหรือจิตใจ) หรือถูกศาลมีคำสั่งให้เป็น บุคคลไร้ความสามารถ ไม่สามารถสมรสได้
เพราะบุคคลเหล่านี้ขาดความสามารถทางกฎหมายในการแสดงเจตนาอย่างสมบูรณ์
หากบุคคลยังมีสถานะเป็นคู่สมรสของผู้อื่นอยู่ (ยังไม่ได้หย่า หรือการสมรสยังไม่สิ้นสุด) จะไม่สามารถสมรสกับบุคคลอื่นได้
การสมรสซ้อนถือว่าขัดต่อกฎหมาย และการสมรสครั้งใหม่จะตกเป็น โมฆะ โดยอัตโนมัติ
ห้ามสมรสกันในกรณีที่เกี่ยวข้องกันในสายเลือดโดยตรง ดังนี้
บิดา มารดา กับบุตร
ปู่ ย่า ตา ยาย กับหลาน
พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน หรือร่วมแต่บิดาหรือมารดาเดียวกัน
ผู้ปกครองและผู้ที่อยู่ในความปกครองที่ยังไม่สิ้นสุดความสัมพันธ์ปกครอง
เพิ่มเติม :
แม้จะเป็นความสัมพันธ์โดยการรับเป็นบุตรบุญธรรม ก็ยังคงมีข้อห้ามการสมรสเช่นกัน
หากฝ่ายหญิงเพิ่งหย่าขาดจากการสมรส ต้องรอเวลา 310 วัน ก่อนจะทำการสมรสใหม่ เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้น เช่น
มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าไม่ตั้งครรภ์
คลอดบุตรแล้ว
สมรสกับอดีตสามีเดิม
ข้อจำกัดนี้มีเพื่อป้องกันความสับสนเรื่องบุตรที่จะถือว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
การสมรสต้องเกิดจาก ความยินยอมของทั้งสองฝ่าย โดยสมัครใจอย่างแท้จริง
ห้ามมีการข่มขู่ หลอกลวง หรือบังคับให้สมรส
หากมีการข่มขู่หรือหลอกลวง การสมรสนั้นอาจถูกเพิกถอนได้ตามคำร้องของฝ่ายที่เสียหาย
ขั้นตอนการสมรสตามกฎหมายไทย เป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้ชายและหญิงได้รับสถานะคู่สมรสที่ได้รับการรับรองทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ การสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่เพียงแต่มีผลทางนิติกรรมเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสิทธิ หน้าที่ และการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรสในอนาคตด้วย ดังนั้นผู้ที่กำลังวางแผนสมรสควรศึกษาข้อมูล และเตรียมตัวให้พร้อมทุกขั้นตอน
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว กำหนดเงื่อนไขเบื้องต้นดังนี้
ชายและหญิงต้องมีอายุ ครบ 17 ปีบริบูรณ์ (หากยังไม่ถึงต้องได้รับอนุญาตจากศาล)
ทั้งสองฝ่ายต้อง ไม่มีคู่สมรสอยู่ก่อน (การมีสามีหรือภรรยาอยู่ก่อนจะถือว่าการสมรสใหม่เป็นโมฆะ)
ต้อง ไม่เป็นญาติใกล้ชิดทางสายโลหิต เช่น พ่อแม่ ลูก พี่น้อง
ต้อง ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ เช่น ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ
ต้อง ยินยอมสมรสด้วยความสมัครใจ ไม่มีการขู่เข็ญหรือหลอกลวง
เอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้
บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของทั้งสองฝ่าย
สำเนาทะเบียนบ้าน
ใบสำคัญการหย่า (ในกรณีเคยสมรสแล้วหย่า)
ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
หนังสืออนุญาตจากศาล (กรณีผู้สมรสมีอายุต่ำกว่า 17 ปี)
หนังสือยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง (ในกรณีผู้สมรสมีอายุ 17-20 ปี)
สำหรับชาวต่างชาติ ต้องมี หนังสือรับรองสถานะโสดจากสถานทูตของตน, เอกสารแปลภาษาไทยและรับรองจากกรมการกงสุล
ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทย มีดังนี้
คู่สมรสเดินทางไปพร้อมกันที่ สำนักงานเขต (ในกรุงเทพฯ) หรือ ที่ว่าการอำเภอ (ในต่างจังหวัด)
ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส พร้อมแสดงเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร ความถูกต้อง และความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย
หากทุกอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะทำการจดทะเบียนสมรส และออก ใบสำคัญการสมรส (ทะเบียนสมรส)
หมายเหตุ : การจดทะเบียนสมรสสามารถทำได้ทุกเขต/อำเภอทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
โดยปกติการจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ ไม่มีค่าธรรมเนียม
แต่หากมีการจ้างเจ้าหน้าที่ไปนอกสถานที่เพื่อทำพิธีการ อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามระเบียบ
เมื่อการสมรสมีผลตามกฎหมายแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะมี
สิทธิและหน้าที่ระหว่างคู่สมรส เช่น การอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน
สิทธิในการจัดการสินสมรส เช่น การซื้อขายทรัพย์สินบางประเภทต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรส
สิทธิในการรับมรดก ของอีกฝ่ายหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถึงแก่ความตาย
สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร หากมีบุตรเกิดขึ้นระหว่างการสมรส
เมื่อการสมรสมีผลสมบูรณ์ คู่สมรสจะมีสิทธิ และหน้าที่ตามกฎหมายดังนี้
ทรัพย์สินของคู่สมรสจะแบ่งเป็น “สินส่วนตัว” และ “สินสมรส” โดยสินสมรสต้องได้รับการจัดการร่วมกัน หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย
คู่สมรสมีสิทธิได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินร่วม เช่น รายได้จากการประกอบอาชีพ หรือทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส
ตามมาตรา 1461 คู่สมรสต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามสมควร ทั้งในด้านการเงินและการดูแลครอบครัว
หากมีบุตรเกิดระหว่างการสมรส บุตรนั้นถือเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของสามีและภรรยา
หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องการยุติความสัมพันธ์ มี 2 วิธีคือ
1. การหย่าโดยความยินยอม (ไปจดทะเบียนหย่าที่เขต/อำเภอ)
2. การหย่าโดยคำพิพากษาของศาล (กรณีมีเหตุพิพาทกัน เช่น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาในชีวิตสมรส)
การอยู่กินกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่ได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายในฐานะคู่สมรส เช่น สิทธิในทรัพย์สินหรือสิทธิในการฟ้องหย่า
การสมรสกับชาวต่างชาติ มีข้อกำหนดพิเศษเพิ่มเติม เช่น ต้องมีเอกสารรับรองโสดจากสถานทูต และการแปลเอกสารอย่างเป็นทางการ
ข้อมูลอ้างอิง
สำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรม
สถาบันนิติธรรมาลัย