Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ข้อกำหนดและขั้นตอนสำคัญของการสมรสตามกฎหมายไทย

Posted By Kung_nadthanan | 29 เม.ย. 68
453 Views

  Favorite

 

การสมรสตามกฎหมายไทย เป็นขั้นตอนสำคัญที่ทำให้ชีวิตคู่มีสถานะถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับสิทธิและหน้าที่ที่กฎหมายรับรองไว้ การเข้าใจขั้นตอนการสมรส และข้อกำหนดการสมรส จะช่วยให้การจดทะเบียนสมรสดำเนินไปอย่างราบรื่น พร้อมป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต

 

การสมรสตามกฎหมายไทย คืออะไร ?

การสมรสตามกฎหมายไทย คือ การที่ชายและหญิงทำการจดทะเบียนสมรสอย่างเป็นทางการต่อเจ้าพนักงานของรัฐ เช่น ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ
เมื่อจดทะเบียนแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะได้รับสถานะ “คู่สมรส” ตามกฎหมาย และมีสิทธิหน้าที่ตามที่ระบุใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว

ข้อควรรู้

- การอยู่ด้วยกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส ไม่ถือเป็นการสมรสตามกฎหมาย

- การสมรสต้องกระทำโดยสมัครใจทั้งสองฝ่าย

 

ความหมายของการสมรสตามกฎหมายไทย

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว การสมรส คือ การที่ชายและหญิงยินยอมเป็นสามีภรรยากัน โดยต้องแสดงเจตนาต่อหน้าเจ้าพนักงาน และจดทะเบียนสมรสตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด

 

คุณสมบัติของผู้ที่จะสมรสตามกฎหมายไทย

การสมรสถือเป็นสัญญา และสถานะที่มีผลทางกฎหมายอย่างเป็นทางการในสังคมไทย กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของไทย (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว) ได้กำหนด คุณสมบัติของผู้ที่สามารถสมรสได้ไว้อย่างชัดเจน เพื่อคุ้มครองสิทธิของทั้งสองฝ่าย และเพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม ดังนั้น คุณสมบัติของผู้ที่จะสมรสตามกฎหมายไทย ที่ควรต้องรู้ดังนี้

1. ต้องมีอายุครบตามกฎหมาย

- ผู้ที่จะสมรสต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์

- หากมีความจำเป็น เช่น ตั้งครรภ์หรือมีเหตุพิเศษ สามารถขออนุญาตจากศาลเพื่อสมรสก่อนอายุ 17 ปีได้

หมายเหตุ

ผู้เยาว์ที่มีอายุระหว่าง 17-19 ปี (ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์) ต้องได้รับ ความยินยอมจากผู้ปกครอง (บิดา มารดา หรือ ผู้ใช้อำนาจปกครอง) ก่อนทำการสมรส หากไม่มีการยินยอม จำเป็นต้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตแทน

 

2. ต้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ

บุคคลที่มีภาวะวิกลจริต (เช่น บกพร่องทางสติปัญญาหรือจิตใจ) หรือถูกศาลมีคำสั่งให้เป็น บุคคลไร้ความสามารถ ไม่สามารถสมรสได้ เพราะบุคคลเหล่านี้ขาดความสามารถทางกฎหมายในการแสดงเจตนาอย่างสมบูรณ์

 

3. ต้องไม่มีการสมรสอยู่กับบุคคลอื่นในขณะทำการสมรสใหม่

หากบุคคลยังมีสถานะเป็นคู่สมรสของผู้อื่นอยู่ (ยังไม่ได้หย่า หรือการสมรสยังไม่สิ้นสุด) จะไม่สามารถสมรสกับบุคคลอื่นได้ การสมรสซ้อนถือว่าขัดต่อกฎหมาย และการสมรสครั้งใหม่จะตกเป็น โมฆะ โดยอัตโนมัติ

 

4. ต้องไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในลักษณะที่กฎหมายห้ามสมรส

ห้ามสมรสกันในกรณีที่เกี่ยวข้องกันในสายเลือดโดยตรง ดังนี้

- บิดา มารดา กับบุตร

- ปู่ ย่า ตา ยาย กับหลาน

- พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน หรือร่วมแต่บิดาหรือมารดาเดียวกัน

- ผู้ปกครองและผู้ที่อยู่ในความปกครองที่ยังไม่สิ้นสุดความสัมพันธ์ปกครอง

เพิ่มเติม

แม้จะเป็นความสัมพันธ์โดยการรับเป็นบุตรบุญธรรม ก็ยังคงมีข้อห้ามการสมรสเช่นกัน

 

5. ต้องไม่ฝ่าฝืนข้อจำกัดเรื่องการรอภายหลังการหย่า (เฉพาะผู้หญิง)

หากฝ่ายหญิงเพิ่งหย่าขาดจากการสมรส ต้องรอเวลา 310 วัน ก่อนจะทำการสมรสใหม่ เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้น เช่น

- มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าไม่ตั้งครรภ์

- คลอดบุตรแล้ว

- สมรสกับอดีตสามีเดิม

ข้อจำกัดนี้มีเพื่อป้องกันความสับสนเรื่องบุตรที่จะถือว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

 

6. ต้องมีการยินยอมอย่างเสรี

- การสมรสต้องเกิดจาก ความยินยอมของทั้งสองฝ่าย โดยสมัครใจอย่างแท้จริง

- ห้ามมีการข่มขู่ หลอกลวง หรือบังคับให้สมรส

หากมีการข่มขู่หรือหลอกลวง การสมรสนั้นอาจถูกเพิกถอนได้ตามคำร้องของฝ่ายที่เสียหาย

 

 

ขั้นตอนการสมรสตามกฎหมายไทย

ขั้นตอนการสมรสตามกฎหมายไทย เป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้ชายและหญิงได้รับสถานะคู่สมรสที่ได้รับการรับรองทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ การสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายไม่เพียงแต่มีผลทางนิติกรรมเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสิทธิ หน้าที่ และการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรสในอนาคตด้วย ดังนั้น ผู้ที่กำลังวางแผนสมรสควรศึกษาข้อมูล และเตรียมตัวให้พร้อมทุกขั้นตอน

 

1. ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะสมรส

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ว่าด้วยครอบครัว กำหนดเงื่อนไขเบื้องต้น ดังนี้

- ชายและหญิงต้องมีอายุ ครบ 17 ปีบริบูรณ์ (หากยังไม่ถึงต้องได้รับอนุญาตจากศาล)

- ทั้งสองฝ่ายต้อง ไม่มีคู่สมรสอยู่ก่อน (การมีสามีหรือภรรยาอยู่ก่อนจะถือว่าการสมรสใหม่เป็นโมฆะ)

- ต้องไม่เป็นญาติใกล้ชิดทางสายโลหิต เช่น พ่อแม่ ลูก พี่น้อง

- ต้องไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ เช่น ถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ

- ต้องยินยอมสมรสด้วยความสมัครใจ ไม่มีการขู่เข็ญหรือหลอกลวง

 

2. เตรียมเอกสารที่ต้องใช้ในการสมรส

- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของทั้งสองฝ่าย

- สำเนาทะเบียนบ้าน

- ใบสำคัญการหย่า (ในกรณีเคยสมรสแล้วหย่า)

- ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)

- หนังสืออนุญาตจากศาล (กรณีผู้สมรสมีอายุต่ำกว่า 17 ปี)

- หนังสือยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครอง (ในกรณีผู้สมรสมีอายุ 17-20 ปี)

- สำหรับชาวต่างชาติ ต้องมี หนังสือรับรองสถานะโสดจากสถานทูตของตน, เอกสารแปลภาษาไทย และรับรองจากกรมการกงสุล

 

3. การดำเนินการจดทะเบียนสมรส

ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายไทย มีดังนี้

- คู่สมรสเดินทางไปพร้อมกันที่ สำนักงานเขต (ในกรุงเทพฯ) หรือ ที่ว่าการอำเภอ (ในต่างจังหวัด)

- ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส พร้อมแสดงเอกสาร และหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

- เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร ความถูกต้อง และความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย

- หากทุกอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะทำการจดทะเบียนสมรส และออกใบสำคัญการสมรส (ทะเบียนสมรส)

หมายเหตุ : การจดทะเบียนสมรสสามารถทำได้ทุกเขต/อำเภอทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

 

4. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสมรส

โดยปกติการจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ ไม่มีค่าธรรมเนียม แต่หากมีการจ้างเจ้าหน้าที่ไปนอกสถานที่เพื่อทำพิธีการ อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมตามระเบียบ

 

5. สิทธิและผลทางกฎหมายหลังการจดทะเบียนสมรส

เมื่อการสมรสมีผลตามกฎหมายแล้ว ทั้งสองฝ่ายจะมี

- สิทธิและหน้าที่ระหว่างคู่สมรส เช่น การอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน

- สิทธิในการจัดการสินสมรส เช่น การซื้อขายทรัพย์สินบางประเภทต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรส

- สิทธิในการรับมรดก ของอีกฝ่ายหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถึงแก่ความตาย

- สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร หากมีบุตรเกิดขึ้นระหว่างการสมรส

 

สิทธิและหน้าที่ของคู่สมรสตามกฎหมาย

เมื่อการสมรสมีผลสมบูรณ์ คู่สมรสจะมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายดังนี้

สิทธิในการจัดการทรัพย์สิน

ทรัพย์สินของคู่สมรสจะแบ่งเป็น “สินส่วนตัว” และ “สินสมรส” โดยสินสมรสต้องได้รับการจัดการร่วมกัน หรือ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย

สิทธิในทรัพย์สินของคู่สมรส

คู่สมรสมีสิทธิได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินร่วม เช่น รายได้จากการประกอบอาชีพ หรือทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส

หน้าที่อุปการะเกื้อกูลกัน

ตามมาตรา 1461 คู่สมรสต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามสมควร ทั้งในด้านการเงิน และการดูแลครอบครัว

สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร

หากมีบุตรเกิดระหว่างการสมรส บุตรนั้นถือเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของสามีและภรรยา

 

การยกเลิกการสมรส

หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องการยุติความสัมพันธ์ มี 2 วิธีคือ

1. การหย่าโดยความยินยอม (ไปจดทะเบียนหย่าที่เขต/อำเภอ)

2. การหย่าโดยคำพิพากษาของศาล (กรณีมีเหตุพิพาทกัน เช่น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาในชีวิตสมรส)

 

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

- การอยู่กินกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ไม่ได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายในฐานะคู่สมรส เช่น สิทธิในทรัพย์สินหรือสิทธิในการฟ้องหย่า

- การสมรสกับชาวต่างชาติ มีข้อกำหนดพิเศษเพิ่มเติม เช่น ต้องมีเอกสารรับรองโสดจากสถานทูต และการแปลเอกสารอย่างเป็นทางการ

 

การสมรสตามกฎหมายไทย เป็นขั้นตอนที่สำคัญ และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่การตรวจสอบคุณสมบัติ, การเตรียมเอกสาร ไปจนถึงการจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้ได้รับสิทธิและหน้าที่ของคู่สมรสอย่างถูกต้อง การศึกษาข้อมูลขั้นตอนการสมรส และข้อกำหนดการสมรสอย่างละเอียด จะช่วยให้คุณวางแผนชีวิตคู่ได้มั่นใจ และไม่ติดขัดเรื่องกฎหมายในอนาคต

 

ข้อมูลอ้างอิง

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ

สำนักงานกิจการยุติธรรม

สำนักกฎหมายและวิชาการศาลยุติธรรม

สถาบันนิติธรรมาลัย

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Kung_nadthanan
  • 0 Followers
  • Follow