สำหรับฟรีแลนซ์หรือผู้ที่มีรายได้จากการรับงานอิสระ การรู้จักและเข้าใจเรื่อง “การยื่นภาษีฟรีแลนซ์” ถือเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะแม้ว่าจะไม่ได้มีนายจ้างหักภาษี ณ ที่จ่ายให้เหมือนพนักงานประจำ แต่ก็ยังมีหน้าที่ต้องเสีย “ภาษีเงินได้ฟรีแลนซ์” ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีปัญหากับกรมสรรพากรในภายหลัง
คำตอบคือ “ต้องเสียภาษี” ถ้าคุณมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยกรมสรรพากรถือว่าฟรีแลนซ์คือ “ผู้มีเงินได้ประเภทที่ 2 และ 3” ตามประมวลรัษฎากร เช่น ค่าจ้างทำของ ค่าบริการ หรือค่าตอบแทนในลักษณะอื่น ๆ ซึ่งต้องนำมาคำนวณรวมเป็นรายได้ทั้งปีเพื่อยื่นแบบแสดงรายได้ประจำปี (แบบ ภ.ง.ด. 90)
- ถ้ามีรายได้เกิน 60,000 บาทต่อปี (โสด) หรือ 120,000 บาทต่อปี (สมรส) → ต้องยื่นภาษี
- ถ้ารายได้เกิน 150,000 บาทต่อปี → ต้องเสียภาษีด้วย (หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน)
เงื่อนไขรายได้ที่ต้องยื่นภาษี
- บุคคลโสด รายได้รวมทั้งปีเกิน 60,000 บาท ต้องยื่นแบบแสดงรายได้
- สมรส (แยกยื่น) รายได้เกิน 60,000 บาท ต่อคน ต้องยื่น
- มีรายได้สุทธิเกิน 150,000 บาทต่อปี ต้องเสียภาษี
หมายเหตุ : ฟรีแลนซ์จัดอยู่ในกลุ่ม ผู้มีเงินได้ประเภทที่ 2 และ 3 เช่น ค่าจ้าง ค่าออกแบบ ค่าบริการต่าง ๆ
ก่อนยื่นภาษี ควรจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไว้ให้ครบถ้วน ได้แก่
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ถ้ามี)
- เอกสารรับเงิน หรือรายงานรายได้ (เช่น รายการรับงานจากลูกค้า)
- หลักฐานค่าใช้จ่าย (ถ้าจะหักค่าใช้จ่ายตามจริง)
- เอกสารลดหย่อนภาษี เช่น เบี้ยประกันชีวิต, กองทุน SSF/RMF, ดอกเบี้ยบ้าน, ค่าบุตร, ค่าพ่อแม่, ใบเสร็จบริจาค ฯลฯ
ขั้นตอนการคำนวณภาษีฟรีแลนซ์ มี 3 ส่วนหลัก
1. รวมรายได้ตลอดปี เช่น ได้งานออกแบบ 10,000 บาท/เดือน รวมทั้งปี = 120,000 บาท
2. หักค่าใช้จ่าย
- แบบเหมา : หักได้ 60% ของรายได้
- แบบตามจริง : ต้องมีใบเสร็จรับเงิน, บิล หรือเอกสารยืนยัน
3. หักค่าลดหย่อน เช่น เบี้ยประกันชีวิต 100,000 บาท, กองทุน SSF อีก 50,000 บาท เป็นต้น
- ผลลัพธ์จาก (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ลดหย่อน) = เงินได้สุทธิ
- ถ้าเงินได้สุทธิเกิน 150,000 บาท → ต้องเสียภาษี
ขั้นตอนยื่นภาษีผ่านระบบออนไลน์ของกรมสรรพากร
1. เข้าเว็บไซต์ : https://efiling.rd.go.th
2. สมัครใช้งาน (ถ้ายังไม่มีบัญชี) หรือเข้าสู่ระบบ
3. เลือกแบบฟอร์ม “ภ.ง.ด. 90” สำหรับผู้มีรายได้จากงานอิสระ
4. กรอกรายได้, ค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนตามจริง
5. ระบบจะคำนวณภาษีให้อัตโนมัติ
6. ตรวจสอบความถูกต้อง แล้ว กดยืนยันการยื่น
เคล็ดลับ : หากมีภาษีต้องชำระ และยอดเกิน 3,000 บาท สามารถเลือก “ผ่อนชำระ” ได้ 3 งวด (ไม่มีดอกเบี้ย)
เมื่อระบบแจ้งยอดที่ต้องจ่าย คุณสามารถเลือกวิธีชำระได้ดังนี้
- Mobile Banking
- พร้อมเพย์ (สแกน QR Code)
- ตัดบัญชีธนาคาร
- ชำระที่เคาน์เตอร์ธนาคารหรือไปรษณีย์
หลังจากยื่นภาษีแล้ว อย่าลืม
- บันทึกเลขที่อ้างอิงการยื่น
- ดาวน์โหลดใบเสร็จ/ใบยื่นแบบ
- เก็บเอกสารไว้เผื่อการตรวจสอบย้อนหลัง
การทำงานแบบ ฟรีแลนซ์หรืออาชีพอิสระ กำลังเป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ กราฟิกดีไซเนอร์ นักเขียน โปรแกรมเมอร์ หรือนักการตลาดออนไลน์ ล้วนมีรายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เช่นเดียวกับมนุษย์เงินเดือน แต่การยื่นภาษีของฟรีแลนซ์มีรายละเอียด และจุดเสี่ยงมากกว่าที่หลายคนคิด หากยื่นไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่ปัญหา ถูกตรวจสอบย้อนหลัง ถูกปรับ หรือเสียดอกเบี้ยภาษี ดังนั้น ข้อควรระวังในการยื่นภาษีเงินได้สำหรับฟรีแลนซ์ เพื่อให้คุณไม่พลาด และสามารถจัดการภาษีได้อย่างมืออาชีพ
ฟรีแลนซ์บางคนเข้าใจผิดว่า ไม่มีนายจ้าง = ไม่ต้องเสียภาษี
ความจริงแล้ว หากคุณมีรายได้เกินเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด แม้ไม่มีการหักภาษี ณ ที่จ่าย คุณก็มีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 ทุกปี
เกณฑ์เบื้องต้น
- รายได้รวมต่อปีเกิน 60,000 บาท (บุคคลโสด) ต้อง “ยื่นภาษี”
- รายได้สุทธิเกิน 150,000 บาท ต้อง “เสียภาษี”
หากไม่ยื่นภาษี = มีความผิดตามกฎหมาย เสี่ยงโดนค่าปรับและเบี้ยปรับย้อนหลัง
ฟรีแลนซ์หลายคนมักได้รับเอกสาร “หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย” จากลูกค้า (เช่น หัก 3% หรือ 5%) แต่ลืมว่ารายได้บางส่วนอาจไม่ได้มีการหักไว้ล่วงหน้า
สิ่งที่ต้องทำ
- รวมรายได้ทั้งหมดที่ได้รับ (ทั้งหักและไม่หัก)
- กรอกข้อมูลให้ครบในการยื่นแบบ
- ถ้ามีเอกสารหัก ณ ที่จ่าย ให้นำไป “เครดิตภาษีคืน” ได้
หากกรอกเฉพาะรายได้ที่หักภาษีไว้ อาจถูกมองว่า ปกปิดรายได้บางส่วน มีความเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบ
ฟรีแลนซ์สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 แบบ
- หักเหมาตามกฎหมาย (60%)
- หักตามจริง (ต้องมีหลักฐาน)
ข้อควรระวัง
- หักตามจริง ต้องมีใบเสร็จรับเงิน/บิลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- ไม่ควรใส่ค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าซื้อของส่วนตัว ค่าเที่ยว ฯลฯ
หากเลือกหักตามจริงแต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอ กรมสรรพากรอาจไม่รับพิจารณา และเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
ฟรีแลนซ์หลายคน เสียภาษีแพงโดยไม่จำเป็น เพราะลืมใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่รัฐให้ เช่น
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว (60,000 บาท)
- ค่าลดหย่อนบุตร, พ่อแม่
- เบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ
- กองทุน SSF, RMF
- ดอกเบี้ยบ้าน
- ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา/การบริจาค
ควรศึกษาหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญว่า ปีนั้น ๆ มีสิทธิ์อะไรใช้ได้บ้าง เพื่อ ลดภาระภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ฟรีแลนซ์ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 เท่านั้น
เพราะคุณมีรายได้จากค่าจ้างที่ไม่ใช่เงินเดือนประจำ ซึ่งต่างจากมนุษย์เงินเดือนที่ใช้ ภ.ง.ด. 91
หากกรอกผิดแบบ ระบบอาจไม่คำนวณภาษีได้ถูกต้อง และถือว่า ยื่นไม่สมบูรณ์
กำหนดยื่นภาษีรายปี
- ภายในวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี (แบบกระดาษ)
- ขยายได้ถึงต้นเมษายน หากยื่นออนไลน์
หากเลยกำหนดจะมีผลตามนี้
- ค่าปรับ : 200 – 2,000 บาท
- เบี้ยปรับ : 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ค้างชำระ
ควรตั้งเตือนล่วงหน้า หรือยื่นแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับโดยไม่จำเป็น
แม้จะยื่นผ่านระบบออนไลน์แล้ว แต่ควร
- เก็บใบเสร็จการชำระภาษี
- เก็บหนังสือรับรองการหัก ณ ที่จ่าย
- เก็บหลักฐานค่าใช้จ่ายและลดหย่อนภาษี
กรมสรรพากรมีสิทธิ์เรียกตรวจสอบย้อนหลังได้ถึง 5 ปี
หากไม่มีเอกสารยืนยัน คุณอาจต้องชำระภาษีใหม่พร้อมดอกเบี้ย
- วางแผนล่วงหน้า เช่น ลงทุนในกองทุนลดหย่อน (SSF, RMF)
- หมั่นเก็บหลักฐานรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับงาน
- หักค่าใช้จ่ายตามจริงถ้ามีเยอะ อาจประหยัดได้มากกว่าการหักเหมา
- แบ่งจ่ายภาษีเป็น 3 งวด (ถ้ายอดภาษีเกิน 3,000 บาท)
ข้อมูลอ้างอิง
กรมสรรพากร