1. เพิ่มโอกาสในการแก้ปัญหา
การคิดเชิงสร้างสรรค์ช่วยให้เรามีวิธีแก้ปัญหาหลายรูปแบบ โดยไม่ยึดติดกับแนวทางเดิมๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากทั้งในด้านการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน
2. ช่วยให้ธุรกิจเติบโตและแตกต่าง
ในโลกของการแข่งขัน ธุรกิจที่สามารถคิดนอกกรอบและนำเสนอสิ่งใหม่ๆ มักจะได้เปรียบคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ บริการ หรือการตลาด
3.เสริมสร้างความสามารถในการปรับตัว
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และผู้ที่มีทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์จะสามารถปรับตัวได้ดีกว่าคนที่คิดแบบเดิมๆ
1. เปิดใจรับแนวคิดใหม่ๆ
อย่าจำกัดตัวเองด้วยความเชื่อหรือความคิดเดิมๆ ลองสำรวจความคิดเห็นจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น อ่านหนังสือ ฟังพอดแคสต์ หรือพูดคุยกับคนที่มีมุมมองแตกต่าง
2. ตั้งคำถามให้มากขึ้น
การตั้งคำถามเป็นกุญแจสำคัญของการคิดนอกกรอบ แทนที่จะยอมรับทุกสิ่งตามที่เป็นอยู่ ลองตั้งคำถามว่า "ทำไมถึงเป็นแบบนี้?" หรือ "ถ้าเราทำสิ่งนี้ในอีกวิธีหนึ่งจะเกิดอะไรขึ้น?"
3. ลองทำสิ่งใหม่ๆ
การทดลองทำสิ่งใหม่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ทักษะใหม่ การเดินทางไปสถานที่ที่ไม่เคยไป หรือการทดลองทำงานในลักษณะที่แตกต่างจากเดิม
4. ฝึกฝนการระดมสมอง (Brainstorming)
การระดมสมองเป็นกระบวนการที่ช่วยให้เราได้ไอเดียใหม่ๆ อย่างไม่จำกัด ลองเขียนไอเดียที่นึกขึ้นได้โดยไม่ต้องตัดสินความเป็นไปได้ในตอนแรก แล้วค่อยนำมาพัฒนาและต่อยอดภายหลัง
5. สังเกตและเชื่อมโยงสิ่งรอบตัว
บางครั้งไอเดียใหม่ๆ มาจากการสังเกตสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว แล้วนำมาปรับใช้ในบริบทที่แตกต่าง การฝึกมองหาความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกันสามารถช่วยให้เกิดนวัตกรรมได้
การคิดเชิงสร้างสรรค์และคิดนอกกรอบเป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนได้ และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ปัญหา การทำงาน และการพัฒนานวัตกรรม หากเราฝึกฝนให้เป็นนิสัย ก็จะสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับตนเองและองค์กรได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด