Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

AI GUIDE คู่มือใช้งาน ที่ทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายขึ้น

Posted By Plook TCAS | 25 มี.ค. 68
1,194 Views

  Favorite

ปัจจุบันปัญญาประดิษฐ์ AI ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิดไกลตัวอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราอย่างแนบเนียน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย AI ไม่เพียงช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในหลายด้าน ทั้งการศึกษา การทำงาน และการใช้ชีวิต

1. AI Basics พื้นฐาน & การใช้งานในชีวิตประจำวัน

AI กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การใช้ AI ในการค้นหาข้อมูล การใช้ AI ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ไปจนถึงการใช้ AI เพื่อช่วยในการทำงานอัตโนมัติและการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ธุรกิจ หรือชีวิตประจำวัน 

 

AI คืออะไร 

AI (Artificial Intelligence) คือ เทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์หรือระบบสามารถ "คิด" และ "ตัดสินใจ" ได้เหมือนกับมนุษย์ โดยอาศัยข้อมูล (Data) และอัลกอริทึม (Algorithm) ในการเรียนรู้และประมวลผล เพื่อให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างชาญฉลาด

 

การใช้ AI ในชีวิตประจำวัน ให้ประหยัดเวลาและได้ผลจริง

ใช้ AI ค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
- ตัวอย่างเช่น Google Search ใช้ AI วิเคราะห์ความตั้งใจของผู้ใช้ เพื่อแสดงผลการค้นหาที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด หรือ ChatGPT ที่สามารถตอบคำถามได้ในรูปแบบบทความ รูปภาพ หรือคำแนะนำต่าง ๆ

 

ใช้ AI ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ
- แอปแปลภาษา เช่น Google Translate ที่ใช้ Machine Learning แปลภาษาหลายรูปแบบ
- แอปแนะนำคอนเทนต์ เช่น YouTube หรือ Netflix ที่ใช้ AI แนะนำวิดีโอที่ผู้ใช้น่าจะชอบ
- แอปแต่งภาพและเสียง เช่น Lensa AI หรือ Adobe Firefly ที่สามารถแก้ไขภาพอัตโนมัติ

 

ใช้ AI เพื่อช่วยในการทำงาน คิดไอเดีย
- งานเขียน : ใช้ AI ช่วยร่างอีเมล, รายงาน หรือบทความ
- งานวิเคราะห์ข้อมูล : ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ยอดขาย หรือแนวโน้มของตลาด
- งานออกแบบ : AI ช่วยออกแบบโลโก้ เว็บไซต์ ส่วนการออกแบบรูปภาพ ก็มีโปรแกรม Midjourney, Canva AI, หรือ Adobe Firefly ที่สามารถออกแบบภาพได้ทันที

 

การใช้ AI ช่วยตัดสินใจและทำงานอัตโนมัติ
- ระบบแนะนำสินค้าบนเว็บไซต์
- ระบบอีเมลอัตโนมัติ หรือ Chatbot ตอบคำถามลูกค้า
- ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องจักรอัตโนมัติ

 

10 ตัวอย่าง AI ใกล้ตัว ที่ใช้ทุกวันโดยไม่รู้ตัว

1. Google Search (AI ช่วยเดาคำค้นหา)
ทุกครั้งที่พิมพ์ในช่องค้นหาของ Google ระบบ AI จะช่วยคาดเดาคำที่เราต้องการค้นหา พร้อมแสดงผลลัพธ์ที่ตรงกับความสนใจของเรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์คำสะกด ความนิยม หรือพฤติกรรมการค้นหาก่อนหน้า

 

2. Facebook และ Instagram Feed
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งาน เช่น โพสต์ที่เรากดไลก์หรือคอมเมนต์ เพื่อจัดลำดับเนื้อหาที่น่าสนใจในฟีดให้ตรงใจมากที่สุด

 

3. ระบบแนะนำวิดีโอของ YouTube
AI จะติดตามสิ่งที่เราเคยดู เวลาที่ดู และหัวข้อที่สนใจ เพื่อแนะนำวิดีโอที่เราอาจชอบถัดไปแบบแม่นยำสุด ๆ


4. Google Maps และแอปนำทาง
AI ช่วยคำนวณเส้นทางที่เร็วที่สุดแบบเรียลไทม์ โดยวิเคราะห์สภาพจราจร ความเร็วรถบนถนน และพฤติกรรมของผู้ใช้จำนวนมาก


5. ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face ID)
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ใช้ AI ในการตรวจจับใบหน้าเพื่อปลดล็อกเครื่อง ซึ่งเรียนรู้รูปลักษณ์ของเจ้าของแม้มีการเปลี่ยนทรงผมหรือใส่หน้ากาก


6. ฟังก์ชันแปลภาษาอัตโนมัติ (Google Translate)
AI ประมวลผลภาษาธรรมชาติ ทำให้สามารถแปลข้อความหรือบทความได้อย่างรวดเร็ว และใกล้เคียงกับภาษาคนจริง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ


7. ผู้ช่วยอัจฉริยะ (Siri, Google Assistant)
AI ทำหน้าที่ตอบคำถาม สั่งงานโทรศัพท์ ควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือช่วยจัดการปฏิทินผ่านคำสั่งเสียงได้

 

8. อีเมลอัตโนมัติ และการจัดหมวดหมู่ใน Gmail
Gmail ใช้ AI แยกประเภทอีเมล เช่น โฆษณา งาน สำคัญ หรือสแปม และยังสามารถช่วยตอบอีเมลแบบอัตโนมัติ (Smart Reply)


9. แอปแต่งภาพและฟิลเตอร์หน้า
แอปอย่าง Snapchat, Instagram, หรือแอปแต่งรูป AI ช่วยตรวจจับใบหน้าเพื่อปรับแต่งผิวหน้า ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่เปลี่ยนพื้นหลังได้ทันที


10. ระบบแจ้งเตือนสุขภาพและการนอน (Smartwatch, Health App)
อุปกรณ์สวมใส่และแอปสุขภาพใช้ AI ประมวลผลการเดิน นอน อัตราการเต้นของหัวใจ และให้คำแนะนำเพื่อปรับพฤติกรรมสุขภาพ

 

จะเห็นได้ว่าไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กลับอยู่ในแทบทุกอุปกรณ์และแอปพลิเคชันที่เราใช้ประจำวันแบบไม่รู้ตัว ความฉลาดของ AI ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น รวดเร็วขึ้น และแม่นยำยิ่งขึ้น เพียงแค่เรารู้จักเข้าใจ และใช้อย่างมีสติ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มที่ในทุกวัน

 

2. AI Tools สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย

ปัจจุบันมีเครื่องมือ AI มากมายที่ช่วยให้การเรียนง่ายขึ้น ประหยัดเวลา และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมขึ้น ด้วยความสามารถในการสรุปข้อมูล ค้นคว้า แปลภาษา วางแผนการเรียน หรือแม้กระทั่งสร้างสื่อการเรียนแบบอัตโนมัติ
 

AI ช่วยสรุปข้อมูลได้อย่างไร

การสรุปข้อมูลด้วย AI คือกระบวนการที่ AI วิเคราะห์เนื้อหาทั้งหมด และเลือกสาระสำคัญมาแสดงในรูปแบบย่อโดยไม่เสียประเด็นหลัก

เทคนิคที่ AI ใช้ในการสรุปข้อมูล

- Extractive Summarization : ดึงประโยคสำคัญจากต้นฉบับมาเรียงใหม่
- Abstractive Summarization : เขียนใหม่โดยใช้ภาษาที่กระชับและเข้าใจง่ายกว่า
- Contextual Understanding : เข้าใจบริบท เช่น โครงสร้างของบทความหรือประเด็นหลัก
 
 

ความสามารถของ AI ในการเขียนรายงาน

- ตั้งหัวข้อ & วางโครงสร้าง ตามแนวทางทางวิชาการ
- เขียนบทนำ สาระสำคัญ และบทสรุป
- อ้างอิงข้อมูล จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ (ขึ้นกับเครื่องมือที่ใช้) ตัวอย่าง ChatGPT, Gemini เป็นต้น
- ตรวจไวยากรณ์ & ความถูกต้องของภาษา
- ปรับระดับภาษาให้เหมาะสม (เป็นทางการ/กึ่งทางการ)
 

9 เครื่องมือ AI ที่นักศึกษาต้องมีในยุคดิจิทัล

1. ChatGPT ผู้ช่วยตอบคำถามและสรุปบทเรียน
ChatGPT คือ AI ที่สามารถช่วยสรุปบทเรียน อธิบายเนื้อหาที่ยาก หรือแม้แต่ร่างรายงานเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว เพียงพิมพ์คำถามหรือหัวข้อที่สนใจ
 
2. Grammarly เช็กแกรมม่าและพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษ
Grammarly เป็น AI ตรวจสอบไวยากรณ์ การสะกดคำ และช่วยปรับปรุงสำนวนภาษาอังกฤษให้น่าอ่าน เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ต้องเขียนรายงานหรือบทความภาษาอังกฤษ
 
3. Notion AI วางแผน เรียบเรียง และจดโน้ตแบบมืออาชีพ
Notion AI ช่วยจัดระเบียบงาน จดโน้ต สรุปเนื้อหา หรือแม้แต่ร่างเอกสารสำหรับการเรียน เป็นอีกเครื่องมือยอดนิยมของนักศึกษาในต่างประเทศมาก
 
4. DeepL Translator 
AI แปลภาษาที่มีความแม่นยำสูงกว่าหลายแอปพลิเคชัน เหมาะสำหรับการแปลบทความวิชาการหรือสื่อการเรียนจากต่างประเทศ
 
5. Perplexity.ai ค้นคว้า + อ้างอิงแหล่งข้อมูล
หากต้องการค้นคว้าแบบมีการอ้างอิง แหล่งที่มาอย่างถูกต้อง Perplexity คือเครื่องมือ AI ที่สรุปคำตอบจากแหล่งข้อมูลจริง พร้อมลิงก์อ้างอิง
 
6. Tome สร้างสไลด์อัตโนมัติ
Tome ช่วยสร้าง Presentation หรือสไลด์แบบอัตโนมัติ เพียงใส่หัวข้อที่ต้องการ AI จะสร้างโครงสไลด์ พร้อมข้อความและภาพที่เกี่ยวข้องให้ทันที
 
7. Speechify แปลงข้อความเป็นเสียง
เครื่องมือนี้เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ต้องการฟังบทความ หรือเอกสารการเรียนขณะเดินทาง หรือเตรียมสอบ มีเสียงอ่านหลายภาษาและสำเนียง ช่วยฝึกฟังไปในตัว
 
8. Canva Magic Studio สร้างอินโฟกราฟิกด้วย AI
Canva มีฟีเจอร์ AI ที่ช่วยออกแบบอินโฟกราฟิกหรือภาพประกอบการเรียน ไม่ว่าจะเป็นสรุปบทเรียน หรือเนื้อหาวิชาใด ๆ เหมาะสำหรับสาย Visual Learner ที่เรียนรู้จากภาพ
 
9. Khanmigo by Khan Academy ติวเตอร์ AI ส่วนตัว
Khanmigo คือ AI Assistant จาก Khan Academy ที่ตอบคำถามวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวิชาอื่น ๆ ให้เข้าใจง่ายมากขึ้น
 

แอป AI ตัวช่วยจัดการเวลาเรียน ที่ควรลอง

- Notion AI
ความสามารถ : จัดตาราง, เตือนงาน, สรุปบทเรียน
เหมาะสำหรับ : นักเรียน-นักศึกษา
 
- Google Calendar
ความสามารถ :  เตือนเวลาเรียน ประชุม และสอบ
เหมาะสำหรับ : ทุกคน
 
- Motion
ความสามารถ : AI จัดตารางเวลาจาก task list อัตโนมัติ
เหมาะสำหรับ : คนที่มีตารางงานจำนวนมาก จะช่วยจัดสรรเวลาได้ดีขึ้น
 

3. การใช้ AI เพื่อพัฒนาทักษะในอาชีพ

>> กลุ่มอาชีพนักพัฒนาและโปรแกรมเมอร์ : รู้จักการใช้ AI ในการเขียนโค้ด, การสร้างโปรแกรมด้วย AI

- AI สร้างเว็บไซต์ คู่มือสำหรับมือใหม่ >>Click

- เครื่องมือ AI ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างเว็บไซต์ >>Click

- แนวโน้มอนาคต การสร้างเว็บไซต์ด้วย AI >>Click

 

>> กลุ่มอาชีพการตลาดและธุรกิจ : รู้จักการใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า, การทำการตลาดดิจิทัล

- 5 วิธีปรับตัวกับเทรนด์ AI Marketing >>Click

- AI มีบทบาทในวงการ Marketing ยังไง >>Click

- AI Marketing คืออะไร ใช้พัฒนาตลาดยุคดิจิทัลยังไง >>Click

- เทรนด์ AI Marketing อนาคตเป็นยังไง >>Click

- เครื่องมือ AI ที่สายการตลาดควรรู้จัก >>Click

ทำไมต้องใช้ AI ในการยิงโฆษณา >>Click

ข้อดีการใช้ AI ยิงโฆษณา Social Media >>Click

เครื่องมือ AI ที่ควรรู้ ในการยิงโฆษณา >>Click

ใช้พลัง AI ช่วยคิดเนื้อหาเขียนอีเมล >>Click

เครื่องมือ AI ที่ช่วยในการสร้างเนื้อหาอีเมล >>Click

ฟีเจอร์เครื่องมือ AI ช่วยสร้างเนื้อหาอีเมล >>Click

 

>> กลุ่มอาชีพการออกแบบและสร้างสรรค์ : รู้จักการใช้ AI ในการออกแบบกราฟิก, การสร้างสรรค์เนื้อหาดิจิทัล

- Top โปรแกรม AI สร้างภาพที่คุณควรรู้จัก >>Click

- วิธีการใช้ AI สร้างภาพ ให้ได้สมจริง >>Click

- การประยุกต์ใช้ AI สร้างภาพ ในธุรกิจและการตลาด >>Click

ทำไมถึงควรลองใช้ AI สร้าง Storyboard >>Click

เครื่องมือ AI ยอดนิยม สำหรับสร้าง Storyboard >>Click

ความแตกต่างสร้าง Storyboard ด้วยมือ VS การใช้ AI >>Click

ทำไมการใช้ AI สร้าง Infographics ถึงเป็นทางเลือกที่ธุรกิจต้องพิจารณา >>Click

วิธีใช้ AI สร้าง Infographics อย่างมืออาชีพในไม่กี่นาที >>Click

เคล็ดลับใช้ AI สร้าง Infographics เพิ่ม SEO บนเว็บไซต์ >>Click

เครื่องมือ AI สำหรับสร้างพื้นหลังที่โดดเด่น >>Click​

เพิ่มยอดขายด้วยการใช้ AI สร้างรูปภาพสินค้า >>Click

ใช้ AI สร้างโมเดลนางแบบ ประโยชน์และข้อควรระวัง >>Click

AI ช่วยสร้างนางแบบที่เหมือนจริงได้อย่างไร เทคนิคที่นักออกแบบต้องรู้ >>Click

เทคนิคสร้างนางแบบเสมือนจริงด้วย AI ที่คุณสามารถทำได้เอง >>Click

แปลงภาพธรรมดาให้เป็นวิดีโอ ที่น่าตื่นเต้นด้วย AI >>Click

 

>> กลุ่มอาชีพการบริการลูกค้า : รู้จักการใช้ AI ในการตอบสนองลูกค้าอัตโนมัติ และการพัฒนา chatbot

- AI Chatbot คืออะไร ประโยชน์ที่คุณควรรู้ >>Click

- เครื่องมือ AI Chatbot ที่น่าสนใจ >>Click

- ทำไมธุรกิจของคุณ ต้องใช้ AI Chatbot >>Click

 

4. AI Risks ข้อควรระวังการใช้ AI ทำงาน

ข้อควรระวังในการใช้งาน AI เป็นประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI เพื่อช่วยสรุปข้อมูล ตอบแชท แนะนำสินค้า หรือแม้แต่สร้างคอนเทนต์อัตโนมัติ ถึงแม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดเวลา แต่หากใช้โดยไม่รู้เท่าทัน อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านจริยธรรม ความปลอดภัย และข้อมูลผิดพลาดได้

 

แนวทางใช้งาน AI อย่างปลอดภัย

1. ใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ
การใช้งาน AI ควรเริ่มจากความเข้าใจว่า AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ “ความจริงที่สมบูรณ์” 
- หลีกเลี่ยงการใช้ AI ในการตัดสินใจที่กระทบต่อชีวิตผู้อื่น เช่น การประเมินบุคคล การคัดเลือกพนักงาน หรือการให้คำวินิจฉัยทางการแพทย์ โดยไม่มีการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
- ใช้ AI อย่างมีจริยธรรม ไม่สร้างเนื้อหาบิดเบือนข่าวสาร ปลอมแปลงข้อมูล หรือใช้ในทางที่ละเมิดกฎหมาย

คำแนะนำ : ควรคิดวิเคราะห์ทุกผลลัพธ์จาก AI อย่างมีวิจารณญาณ และอย่ามอบอำนาจตัดสินใจทั้งหมดให้ AI โดยไม่มีการตรวจสอบ

 

2. ระวังเรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy)
การใช้ AI โดยเฉพาะระบบแชทบอท หรือแอปวิเคราะห์ข้อมูล อาจทำให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวโดยไม่รู้ตัว
- หลีกเลี่ยงการกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน บัญชีธนาคาร หรือรหัสผ่าน ในระบบ AI ใด ๆ

คำแนะนำ : หากใช้ AI ที่ต้องป้อนข้อมูล เช่น ChatGPT, Bing หรือ Google Gemini ควรใช้เฉพาะข้อมูลที่ “เปิดเผยได้” เท่านั้น และไม่ควรป้อนข้อมูลที่ระบุตัวตนของบุคคลได้ 

 

3. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้จาก AI
แม้ว่า AI จะตอบคำถามได้รวดเร็วและดูน่าเชื่อถือ แต่ก็มีโอกาสให้ข้อมูลผิดพลาด หรืออัปเดตไม่ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน

- AI ไม่ใช่แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ 100% โดยเฉพาะในเรื่องทางวิชาการ กฎหมาย หรือการแพทย์
- ควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม เช่น เว็บไซต์หน่วยงานทางการ, เอกสารวิจัย, หรือแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ

คำแนะนำ : หาก AI แนะนำสูตรยา หรือบอกกฎหมาย ควรตรวจสอบกับแพทย์หรือทนายก่อนใช้งานจริง

4. ระวังการพึ่งพา AI มากเกินไป

การใช้ AI ช่วยทำงาน เช่น เขียนบทความ ทำรายงาน หรือวางแผนชีวิต อาจทำให้เราสูญเสียทักษะสำคัญ เช่น การคิดวิเคราะห์ การเขียน หรือการจัดการเวลา
- ควรใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทนสมองของเรา
- ฝึกฝนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของตนเองควบคู่ไปกับการใช้ AI

คำแนะนำ : ใช้ AI เพื่อจุดประกายไอเดีย แล้วต่อยอดด้วยความรู้ของตนเองจะให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพกว่า

 

5. ระวังการสร้างข้อมูลเท็จ 
AI บางรุ่นสามารถสร้างข้อมูลปลอมได้อย่างแนบเนียน เช่น รูปภาพปลอม วิดีโอปลอม หรือข่าวที่ดูเหมือนจริง
- อย่าแชร์ข้อมูลจาก AI โดยไม่ตรวจสอบ
- หากเราเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ ควรแสดงความโปร่งใสว่า โดยแจ้งว่าเนื้อหานั้นมีส่วนที่ใช้ AI ช่วยในการผลิตคอนเทนต์

 

 AI ไม่ได้มีไว้เพื่อทำให้เรากลัวการใช้เทคโนโลยี แต่เพื่อให้เราใช้ AI อย่างฉลาด ปลอดภัย และมีจริยธรรม การรู้เท่าทัน AI คือทักษะสำคัญในโลกยุคใหม่ หากเราใช้อย่างมีความรับผิดชอบและตรวจสอบทุกครั้งก่อนตัดสินใจ จะสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้สูงสุดโดยไม่ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง

 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook TCAS
  • 29 Followers
  • Follow