การขอกู้เงินจากธนาคารเป็นกระบวนการที่ต้องมีการเตรียมตัวอย่างดี เพื่อให้ได้รับอนุมัติสินเชื่อได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อธุรกิจ การรู้ ขั้นตอนการกู้เงิน และ เอกสารที่ต้องใช้ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้โอกาสในการอนุมัติสูงขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ การเตรียมตัวก่อนกู้เงิน ตั้งแต่การตรวจสอบเครดิตของตนเอง การคำนวณความสามารถในการชำระหนี้ ไปจนถึง ขั้นตอนการขอกู้เงินจากธนาคาร อย่างถูกต้อง
ก่อนที่คุณจะ ขอกู้เงินจากธนาคาร หรือสถาบันการเงินใด ๆ สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือ การตรวจสอบสถานะทางการเงินของตนเอง เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ และเพิ่มโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น การเข้าใจสถานะทางการเงินของคุณเองช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในอนาคต
การประเมินรายรับและรายจ่ายเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ช่วยให้คุณรู้ว่าคุณมีเงินเพียงพอสำหรับการผ่อนชำระหนี้หรือไม่
วิธีตรวจสอบรายรับ
รายได้ประจำ: เงินเดือน โบนัส ค่าคอมมิชชั่น
รายได้เสริม: รายได้จากธุรกิจเสริม ค่าจ้างพิเศษ เงินปันผล
รายได้ไม่แน่นอน: รายได้จากการลงทุน หุ้น หรือค่าเช่า
เคล็ดลับ ควรใช้รายได้สุทธิ (รายได้หลังหักภาษีและหนี้สินอื่น ๆ) ในการคำนวณความสามารถในการกู้
วิธีตรวจสอบรายจ่าย
รายจ่ายจำเป็น: ค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าน้ำ-ไฟ ค่าโทรศัพท์
รายจ่ายผ่อนชำระ: ค่าผ่อนบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต
รายจ่ายไม่จำเป็น: ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น กินข้าวนอกบ้าน ช้อปปิ้ง
เคล็ดลับ ใช้สูตร “รายรับ – รายจ่าย” หากเหลือเงินพอสำหรับการผ่อนชำระโดยไม่กระทบชีวิตประจำวัน แสดงว่าคุณมีศักยภาพในการกู้เงิน
เครดิตบูโร (Credit Bureau) คือ ข้อมูลทางการเงินของคุณที่สถาบันการเงินใช้พิจารณาการอนุมัติสินเชื่อ
วิธีตรวจสอบเครดิตบูโร
เช็กผ่าน แอปพลิเคชันของธนาคาร เช่น ธนาคารกรุงไทย กรุงศรีฯ กสิกรไทย
เช็กที่ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถานี BTS ศาลาแดง หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส
ค่าบริการประมาณ 150 – 200 บาท
คะแนนเครดิตบูโรมีผลต่อการกู้เงินอย่างไร?
คะแนนสูง (ดีมาก): มีโอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อสูง
คะแนนปานกลาง: อาจได้รับอนุมัติแต่ต้องมีเงื่อนไขเพิ่มเติม
คะแนนต่ำ (ไม่ดี): มีโอกาสถูกปฏิเสธ
เคล็ดลับ หากพบว่ามีประวัติหนี้เสีย (NPL) ควรปิดหนี้เก่าและรอ 6-12 เดือนก่อนยื่นกู้ใหม่
อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้วิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้
สูตรคำนวณ DTI
เกณฑ์มาตรฐาน
ต่ำกว่า 40% → มีโอกาสได้รับอนุมัติสูง
40 – 50% → อาจได้รับอนุมัติ แต่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคาร
มากกว่า 50% → เสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธ
ตัวอย่างการคำนวณ
รายได้ต่อเดือน = 30,000 บาท
ภาระหนี้ต่อเดือน (ค่าผ่อนบ้าน + รถ + บัตรเครดิต) = 12,000 บาท
DTI = (12,000 ÷ 30,000) × 100 = 40%
เคล็ดลับ หาก DTI สูง ควรชำระหนี้บางส่วนก่อนยื่นขอกู้
การมีเงินออมหรือทรัพย์สินค้ำประกันช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ
ควรมีเงินออมเท่าไหร่ก่อนกู้เงิน?
สินเชื่อบ้าน: ควรมีเงินออม 10-20% ของราคาบ้าน
สินเชื่อรถยนต์: ควรมีเงินดาวน์ 10-15% ของราคารถ
สินเชื่อส่วนบุคคล: ควรมีเงินออมขั้นต่ำ 3-6 เท่าของยอดผ่อนต่อเดือน
เคล็ดลับ การแสดงบัญชีเงินฝากย้อนหลังที่มีเงินคงเหลือสม่ำเสมอช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ
การกำหนดวงเงินกู้ให้เหมาะสมกับรายได้ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน
ปัจจัยที่ต้องพิจารณา
วงเงินกู้ที่สามารถรับภาระได้โดยไม่กระทบค่าใช้จ่ายจำเป็น
ระยะเวลาผ่อนที่เหมาะสม ไม่ยาวเกินไปจนเสียดอกเบี้ยมาก
อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของแต่ละธนาคาร
เคล็ดลับ เปรียบเทียบข้อเสนอของหลายธนาคารก่อนตัดสินใจ
แต่ละธนาคารมีสินเชื่อที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้ตรงกับความต้องการ เช่น
สินเชื่อบ้าน: สำหรับซื้อที่อยู่อาศัย
สินเชื่อรถยนต์: เพื่อซื้อรถยนต์ใหม่หรือมือสอง
สินเชื่อส่วนบุคคล: เพื่อใช้จ่ายตามความจำเป็น
สินเชื่อธุรกิจ: สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุน
การเลือกประเภทสินเชื่อที่เหมาะสมช่วยให้คุณได้รับอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่ดีที่สุด
การขอกู้เงินจากธนาคารต้องใช้เอกสารสำคัญ เช่น
เอกสารส่วนตัว: บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน
เอกสารแสดงรายได้: สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน หนังสือรับรองเงินเดือน หรือรายการเดินบัญชี (Statement)
เอกสารเกี่ยวกับหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ถ้ามี): เช่น โฉนดที่ดิน กรมธรรม์ประกันภัย
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนช่วยให้การขอกู้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเตรียมพร้อมแล้ว ให้ดำเนินการตาม ขั้นตอนการกู้เงิน ดังนี้
-เลือกธนาคารและประเภทสินเชื่อ ที่ตรงกับความต้องการ
-เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
-ยื่นคำขอสินเชื่อ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง
-รอการตรวจสอบเครดิตและพิจารณาอนุมัติ โดยธนาคาร
-ลงนามในสัญญาและรับเงินกู้
มี ประวัติเครดิตดี จ่ายหนี้ตรงเวลา หลีกเลี่ยงหนี้เสีย
มี รายได้มั่นคง และแสดงเอกสารการเงินที่ชัดเจน
ลดภาระหนี้สินก่อนขอกู้เงิน เพื่อลดอัตราหนี้ต่อรายได้
เตรียมหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือผู้ค้ำประกันเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ธนาคาร