Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ไขข้อสงสัย! คะแนน PISA บอกอะไรเกี่ยวกับคุณภาพการศึกษาแต่ละประเทศ

Posted By Plook Knowledge | 17 มี.ค. 68
234 Views

  Favorite

คะแนน PISA คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ?

คะแนน PISA (Programme for International Student Assessment) เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ในการประเมินคุณภาพของระบบการศึกษาทั่วโลก โดยจัดขึ้นทุก ๆ 3 ปี โดย องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) การสอบนี้มีเป้าหมายเพื่อวัดสมรรถนะของนักเรียนอายุ 15 ปี ในด้าน การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ แต่ละประเทศสามารถใช้คะแนน PISA เพื่อ เปรียบเทียบคุณภาพของระบบการศึกษา กับประเทศอื่น ๆ รวมถึงระบุจุดแข็งและจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง นอกจากนี้ คะแนน PISA ยังสามารถบอกถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพทางการศึกษาและแนวทางพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

 

คะแนน PISA สะท้อนอะไรเกี่ยวกับระบบการศึกษา?

1. คุณภาพและประสิทธิภาพของการเรียนการสอน

คะแนน PISA เป็นตัวบ่งชี้ที่ช่วยให้เห็นว่า นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงได้มากน้อยแค่ไหน ระบบการศึกษาที่มีคะแนนสูงมักจะเน้นไปที่ การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา มากกว่าการท่องจำ เช่น ประเทศฟินแลนด์และสิงคโปร์ที่มีผลคะแนนสูงอย่างต่อเนื่อง มักเน้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ มากกว่าการเรียนแบบท่องจำ

2. ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

หนึ่งในข้อมูลสำคัญที่คะแนน PISA เปิดเผยคือ ช่องว่างทางการศึกษา ระหว่างกลุ่มนักเรียนที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมแตกต่างกัน ประเทศที่มีช่องว่างของคะแนนระหว่างกลุ่มนักเรียนสูง เช่น บราซิลและอินโดนีเซีย มักเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพการศึกษาที่เข้าถึงได้ ขณะที่ประเทศที่มีคะแนนใกล้เคียงกันทุกกลุ่ม เช่น ฟินแลนด์และแคนาดา สะท้อนถึงระบบการศึกษาที่ให้โอกาสเท่าเทียมแก่ทุกคน

3. ความพร้อมของเยาวชนต่อการทำงานในอนาคต

คะแนน PISA ยังสามารถบ่งชี้ว่า นักเรียนในแต่ละประเทศมีความพร้อมสำหรับโลกของการทำงานมากน้อยเพียงใด ระบบการศึกษาที่ดีควรเตรียมความพร้อมให้เยาวชนสามารถแข่งขันในตลาดแรงงานระดับสากลได้ เช่น ระบบการศึกษาในเยอรมนีที่มีคะแนน PISA สูงและมีระบบอาชีวศึกษาที่แข็งแกร่ง ช่วยให้เยาวชนสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ

4. อิทธิพลของปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจต่อการศึกษา

PISA ไม่เพียงวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาเท่านั้น แต่ยังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคม ของนักเรียนแต่ละประเทศ ผลการศึกษาพบว่า ประเทศที่มีคะแนนสูงมักจะมี การลงทุนในด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เช่น สิงคโปร์ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาครูและปรับปรุงหลักสูตรตามแนวโน้มของโลก

 

ตัวอย่างประเทศที่มีคะแนน PISA สูงและแนวทางที่ใช้

1. ฟินแลนด์ : ระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

  • เน้นการเรียนรู้แบบ Active Learning

  • ลดการสอบมาตรฐานที่ไม่จำเป็น

  • ให้อิสระแก่ครูในการออกแบบการสอน

2. สิงคโปร์ : เน้นทักษะและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

  • ใช้เทคโนโลยีช่วยสอน

  • ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ Problem-based Learning

  • ฝึกอบรมครูให้มีมาตรฐานสูง

3. แคนาดา : สนับสนุนโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม

  • ให้การศึกษาฟรีและมีคุณภาพแก่ทุกคน

  • เน้นการเรียนการสอนที่ส่งเสริมความหลากหลาย

  • มีมาตรการสนับสนุนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

 

ประเทศที่มีคะแนน PISA ต่ำ และปัจจัยที่ต้องพัฒนา

ในหลายประเทศที่มีคะแนน PISA ต่ำ เช่น ฟิลิปปินส์ และปากีสถาน มักเผชิญปัญหาด้าน คุณภาพของครู ความพร้อมของทรัพยากร และความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ หากต้องการพัฒนาระบบการศึกษา ประเทศเหล่านี้ควรลงทุนใน การพัฒนาครู ส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และลดช่องว่างด้านการศึกษา

 

คะแนน PISA เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการพัฒนาการศึกษา

คะแนน PISA ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข แต่เป็นกระจกสะท้อนคุณภาพการศึกษาของแต่ละประเทศ ประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้แบบวิเคราะห์ ส่งเสริมความเสมอภาค และพัฒนาหลักสูตรที่ทันสมัย มักจะมีคะแนนสูงกว่าและสามารถเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับโลกอนาคตได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับประเทศไทย การนำข้อมูลจาก PISA มาปรับใช้ จะช่วยให้ระบบการศึกษาพัฒนาไปในทิศทางที่เหมาะสม และสร้างโอกาสทางการศึกษาที่ดียิ่งขึ้นให้กับเยาวชนรุ่นต่อไป


 

แหล่งข้อมูล

PISA THAILAND

‘ผลสอบ PISA’ กับความจริงที่ว่า ระบบการศึกษาไทยอ่อนแอ ความสามารถเด็กไทยลดลง


 

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
Tags
  • Posted By
  • Plook Knowledge
  • 0 Followers
  • Follow