SEO เป็นตัวย่อของ Search Engine Optimize คือหนึ่งในกระบวนการทางการตลาด เพื่อรองรับ Search Engine หรือเครื่องมือค้นหาบน Google ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเว็บไซต์และการผลิตเนื้อหาบนเว็บไซต์ เพราะหากเว็บไซต์และบทความของเราถูกเสิร์ชบนหน้า Google อันดับสูงมากเท่าไร ยิ่งมีโอกาสถูกคลิก เป็นที่รู้จักมากขึ้น และยอดวิวยอดคลิกนั้น อาจเปลี่ยนเป็นยอดซื้อหรือทำรายได้ให้เราในท้ายที่สุด การทำบทความ SEO จึงมีบทบาทสำคัญมาก ในการทำการตลาดออนไลน์
โดยดูจากความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ใช้งานในเว็บไซต์ของเรา หากเพิ่งเริ่มทำอาจลองสังเกตหัวข้อที่เป็นที่นิยมจากบล็อกต่าง ๆ ดูก่อน แล้วนำมาปรับปรุงและนำเสนอเรื่องนั้นในมุมที่แตกต่าง เพื่อให้ได้หัวข้อที่เหมาะสมกับเว็บไซต์เรามากที่สุด
ต้องเป็นคำที่มีคนเสิร์ชเยอะ โดยพิมพ์บนช่องการค้นหาบน Google และดูคำยอดนิยมในแถบที่แสดงขึ้นมา และใช้ Google Keyword Planner เพื่อดูปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดนั้น ๆ รวมถึงดูคำใกล้เคียงเป็นไอเดียในการเลือกใช้คำด้วย
โดยใส่คีย์เวิร์ดในตำแหน่งต่อไปนี้
ใส่คีย์เวิร์ดใน Title หรือชื่อบทความ
ใส่คีย์เวิร์ดใน Headings หรือ หัวข้อต่าง ๆ
ใส่คีย์เวิร์ดลงใน Meta Description
ใส่คีย์หลัก และคีย์เวิร์ดใกล้เคียงกระจายในคอนเทนต์ อย่างเหมาะสม
ใส่คีย์เวิร์ดไว้ในลิงก์ URL
ใส่คีย์เวิร์ดไว้ในรูปภาพประกอบหรือ Alt Text
มีจุดประสงค์ชัดเจนว่าต้องการจะสื่ออะไร ชื่อบทความสัมพันธ์กับเนื้อหาที่เขียน ซึ่งการทำบทความ SEO ที่ดีมีหลักสำคัญ ที่ควรนำไปใช้ดังนี้
เขียนบทความไม่สั้นจนเกินไป Google มักจะชอบบทความยาว เพราะสามารถทำความเข้าใจว่าบทความนั้นเกี่ยวกับเรื่องอะไรได้ชัดเจนกว่าบทความสั้น ๆ
เป็นบทความที่เขียนขึ้นเอง ไม่ซ้ำใคร ไม่ก๊อปปี้หรือเอาบทความอื่นมาเขียนใหม่
เนื้อหาควรครอบคลุมหลาย ๆ คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเสิร์ช
ไม่เขียนย่อหน้าแรกยาวจนเกินไป จนไม่ดึงดูดใจให้อ่านต่อ
ควรใส่มีเดียอื่น ๆ ลงไปด้วย เช่น รูปภาพ วิดีโอ พอดแคสต์
บทความที่มีรูปภาพที่เกี่ยวข้องและสวยงาม จะมีคนดูมากกว่าบทความที่ไม่มีรูปภาพ และภาพประกอบที่ดีต้องมีขนาดที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ยิ่งโทนภาพไปในทิศทางเดียวกันจะช่วยส่งเสริมให้บทความน่าอ่านมากยิ่งขึ้น (อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดไว้ในรูปภาพประกอบหรือ Alt Text ทุกรูป)
เพื่อช่วยสร้าง Traffic ภายในเว็บไซต์ เมื่อเราทำลิงก์เชื่อมโยงไปหาบทความอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับบทความของเรา Google ก็จะมองว่าเว็บไซต์ของเรามีความเชื่อมโยงกัน และเมื่อมีการคลิกที่ Internal Link เพื่อไปอ่านอีกบทความหนึ่งในเว็บไซต์ Google ก็จะมองว่า Traffic ที่เกิดขึ้นนั้นมีคุณภาพ
ทั้งเนื้อหา ตัวสะกด หรือการปรับแต่ง SEO ในส่วนต่าง ๆ การอ่านบทความที่เขียนซ้ำ ๆ จะช่วยให้เราลดความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นได้ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่าน ก็เป็นส่วนที่จะทำให้เว็บไซต์เราน่าเชื่อถือมากขึ้นในสายตา Google
เช่น แชร์บนโซเชียลมีเดีย เพราะยิ่งมีปริมาณการเข้าชมเนื้อหาบนเว็บไซต์เราเยอะมากขึ้นเท่าไร อันดับการค้นหาก็จะยิ่งสูงเพิ่มขึ้นเท่านั้น
โดยการเช็คบน Google และวิเคราะห์ผลผ่าน Google analytics เพื่อดูพัฒนาการ ดูสิ่งที่ต้องปรับปรุง แล้วนำมาพัฒนาบทความต่อ ๆ ไป
เว็บไซต์ที่มีการอัปเดทตลอด Google จะมองว่า เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เพราะมีคนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ ในสายตาของ Google คอนเทนต์ใหม่หรือคอนเทนต์ที่อัปเดตจะน่าเชื่อถือกว่า เพราะมองว่าข้อมูลจะเป็นปัจจุบันที่สุด
หากเปรียบเว็บไซต์เป็นร้านค้า การทำบทความ SEO ก็เปรียบเสมือนเส้นทางที่พาคนมาสู่ร้าน หากเส้นทางนั้นถูกทำไว้อย่างสวยงามน่าสนใจ พบเห็นได้ง่ายสะดวกเเก่การเดินทาง เเน่นอนว่าลูกค้าก็จะเข้ามาสู่ร้านค้าของเราเสมอ
การทำบทความ SEO ให้ประสบความสำเร็จ หรือติดอันดับเเรก ๆ บนหน้า Google ได้นั้น นอกจากจะเรียนรู้เทคนิคและพัฒนาการเขียนแล้ว ยังต้องอาศัยทั้งระยะเวลาและการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในระยะยาว โดยหมั่นเขียนบทความของเราให้ดีคำนึงถึงประโยชน์ของผู้อ่านเป็นสำคัญ สุดท้ายเเล้วการเขียนบทความที่มีคุณภาพ ก็คือการทำ SEO ที่ดีที่สุดนั่นเอง